สสว.นำทีมยกระดับสินค้าชุมชน ผนึกพันธมิตรนำร่องกลุ่มอาหาร/เกษตรแปรรูป 4 จังหวัด

01 ก.ย. 2559 | 11:30 น.
สสว.เซ็น MOU กับ 4 หน่วยงานภาคี ยกระดับมาตรฐาน SMEs ขนาดเล็กและ OTOP กลุ่มอาหารและเกษตรแปรรูปให้ได้ใบอนุญาตอย. เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายทั้งในร้านค้า Modern Tradeและออนไลน์ นำร่อง 800 รายในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคกลาง

รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เมื่อวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการได้ร่วมพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการประเมินศักยภาพในการแข่งขันของ SMEs ระหว่าง สสว. และหน่วยงานภาคี ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด รวม 2 ฉบับ โดยฉบับแรกเป็นบันทึกความร่วมมือระหว่าง สสว. และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

โดยสาระของ MOU ฉบับนี้เป็นการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและโอท็อปให้มีความเข้าใจในขั้นตอนการขออนุญาต อย. การตรวจสถานประกอบการและสุขอนามัยของน้ำและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า ก่อนที่จะส่งสินค้าสำเร็จรูปไปขอจดแจ้งคุณค่าโภชนาการ ซึ่งในระยะแรกจะเริ่มจากกลุ่มอาหารที่มีความเสี่ยงต่ำและมีความเสี่ยงปานกลางในการขึ้นทะเบียนกับ อย.

ฉบับที่ 2 เป็นบันทึกความร่วมมือระหว่างสสว. และหน่วยงานภาคี ได้แก่ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาระสำคัญประกอบด้วย

1. สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย นำ SMEs ขนาดเล็กที่ผลิตสินค้าประเภทอาหารและเกษตรแปรรูปจำนวน 800 รายจาก 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ราชบุรี นครปฐม ที่ต้องการจะมีใบอนุญาต อย. เข้าร่วมโครงการประเมินศักยภาพในการแข่งขันของ SMEs โดยทางสสว.จะประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความรู้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆที่ต้องดำเนินการเพื่อให้สามารถจดทะเบียนกับอย.

2. สสว.ร่วมกับบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง สสว. กับกระทรวงการคลัง ทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญให้องค์ความรู้ และเตรียมความพร้อมให้ SMEs ในเรื่องการจัดสถานประกอบการให้ถูกสุขลักษณะและการวิเคราะห์ส่วนประกอบของอาหาร (Nutrition Facts) โดยได้จัดเตรียมคูปอง OSMEP Voucher แจกให้ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการใช้บริการทดสอบสินค้าในห้องแล็บของห้องปฏิบัติการกลางเพื่อนำผลการวิเคราะห์ไปขอการรับรองจากอย. และ 3. เอสเอ็มอีแบงก์ ทำหน้าที่สนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการในกรณีที่ต้องมีการปรับปรุงสถานประกอบการ หรือเพื่อซื้อวัตถุดิบในการผลิต

ด้านนายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า การประสานความร่วมมือครั้งนี้จะดำเนินการร่วมในด้านประชาสัมพันธ์โครงการอันเป็นประโยชน์นี้ให้แก่ลูกค้าของธนาคารได้รับทราบและเชิญเข้าร่วมโครงการ หากผู้ประกอบการที่ได้รับการตรวจประเมินเห็นว่าจะต้องปรับปรุงกระบวนการผลิตหรือโรงงาน ทางธนาคารได้จัดเตรียมโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (solf loan) ไว้คอยให้บริการ โดยมีอัตราดอกเบี้ยเพียง 4% ต่อปี ในวงเงินรายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ผ่อนได้นานถึง 7 ปี

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,188 วันที่ 1 - 3 กันยายน พ.ศ. 2559