แอร์‘มิตซูบิชิ’ แย้มข่าวดี เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่เชื่อผู้บริโภคชอบมี 3 ปัจจัยหนุน
ไลน์ผลิต แอร์มิตซูบิชิ ซุ่มเงียบเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่เร็วๆนี้ มั่นใจลูกค้าตะลึ่ง! แย้มมี 3 องค์ประกอบที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ใหม่น่าสนใจ เผยยอดขายปี 59 ที่จะปิดงบมี.ค.ปีหน้าใกล้เคียง 4.50 หมื่นล้าน แม้จำนวนเครื่องเพิ่มขึ้นไต่ 5 ล้านเครื่องแต่ได้มูลค่าไม่ต่างจากปี 58 เพราะแข่งขันสูง และบาทแข็งค่า ชี้ตลาดเอเชียแนวโน้มโตอีกมาก
[caption id="attachment_91283" align="aligncenter" width="335"]
โนริคาสึ อิชิคาว่า
ประธานบริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอนซูมเมอร์ โปรดักส์(ประเทศไทย)[/caption]
นายโนริคาสึ อิชิคาว่า ประธานบริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอนซูมเมอร์ โปรดักส์(ประเทศไทย) จำกัดหรือMCP เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ในฐานะผู้ผลิตว่าในเร็วๆ นี้ฝ่ายการตลาดจะเปิดตัวสินค้าใหม่ ที่ขณะนี้ในแง่ของโรงงานผลิตยังเป็นความลับอยู่แต่มั่นใจว่าเมื่อเปิดตัวออกมาแล้วจะทำให้ลูกค้าตะลึ่งได้ และมั่นใจว่าจะชอบโดยจะมี3องค์ประกอบที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวน่าสนใจมากขึ้น ไล่ตั้งแต่การประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เครื่องปรับอากาศ “มิตซูบิชิ” ผลิตได้เหนือคู่แข่ง อีกทั้งมีการเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่จากเดิมเป็น R410A มาเป็น R32 ที่จะเป็นน้ำยาที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่าสามารถลดผลกระทบต่อโอโซนเหลือแค่ 1ใน 3 รวมถึงการดีไซน์รูปโฉมใหม่ให้ทันสมันยิ่งขึ้น เข้ากับเทคโนโลยีที่รักษาความเย็นไม่ให้ลดลง เช่น มีเซ็นเซอร์จับความเย็นโดยโฟกัสไปที่ตัวคนหรือเป้าหมายแม้มีการเคลื่อนไหว จะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่น่าจับตา
ทั้งนี้โปรดักต์ใหม่จะเกิดจากการคิดค้นของหน่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย ที่เข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในประเทศไทยซึ่งมีสัดส่วน 20% ของกำลังการผลิต ถือว่าเป็นฐานตลาดที่สำคัญ เพราะสัดส่วน 80% ยังเป็นการกระจายการส่งออกไป 142 ตลาดทั่วโลก
“ที่ผ่านมามิตซูบิชิลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และการผลิตก็มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เครื่องจักร อุปกรณ์การผลิตก็ไฮเทคขึ้น เมื่อบีโอไอปรับทิศทางการลงทุนโดยหันไปส่งเสริมสินค้าที่ไฮเทคโนโลยีก็ไม่อยากให้ลดความสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศลง”
ประธานบริษัท MPC กล่าวว่าปี 2559 จะผลิตเครื่องปรับอากาศไต่ระดับไปที่ 5 ล้านเครื่องขึ้นไปจากที่ปีก่อนมีกำลังผลิตเครื่องปรับอากาศเกิน 4.3 ล้านเครื่องต่อปี โดยคาดว่ายอดขายปี 2559 ที่จะปิดงบเดือนมีนาคมปี 2560 จะออกมาใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาคือราว 4.50 หมื่นล้านบาท โดยจะเน้นตลาดเอเชีย ซึ่งยอดจำนวนเครื่องอาจจะเพิ่มขึ้นแต่ได้มูลค่ายอดขายใกล้ปี 2558 เนื่องจากมีการแข่งขันสูงขึ้น อีกทั้งราคาในตลาดถูกปรับลง และเงินบาทแข็งค่า เมื่อแปลงจากดอลลาร์สหรัฐฯและแปลงจากยูโรทำให้มูลค่าขายลดลง โดยเฉพาะค่าเงินปอนด์ที่ทำราคาตกมาก ซึ่งที่ผ่านมาตลาดยุโรปก็เป็นตลาดหลัก ซึ่งยังมั่นใจว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นแค่ระยะสั้น อีกทั้งยังมีตลาดเอเชีย และตลาดตะวันออกกลางอีกทาง
อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดเอเชียยังมีการขยายตัวอีกมาก โดยเฉพาะ ไทย มาเลเซีย โดยเฉพาะอินโดนีเซีย และอินเดียที่มีจำนวนประชากรมาก และประเทศเหล่านี้เป็นเมืองร้อน ซึ่งเวลานี้เฉพาะไทยกับอินโดนีเซียมีครอบครัวที่มีเครื่องปรับอากาศใช้เพียง 20% เท่านั้นเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นที่มีถึง 90%
สำหรับ ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในไทยมีการใช้ระบบอินเวอร์เตอร์(Inverter)มากขึ้น เนื่องจากเป็น ระบบที่นำเอาความรู้ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการทำงานด้วยคำสั่งจาก ไมโครคอมพิวเตอร์ที่สั่งงานโดยตรงจากรีโมตคอนโทรลและนำคำสั่งดังกล่าวมาใช้ ควบคุมการทำงานของระบบเครื่องปรับอากาศ ให้ทำงาน ปรับอุณหภูมิ ควบคุมความชื้น ควบคุมความเย็น ให้ทำงานได้โดยอัตโนมัติ โดยใช้คำสั่งจากโมโครคอมพิวเตอร์ ถือเป็นจุดแข็งของเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิด้วยที่สามารถผลิตสินค้าออกมารองรับตลาดได้
ประธานบริษัทMCP กล่าวถึงภาพรวมการแข่งขันในตลาดโลกว่า ปัจจุบันมิตซูบิชิขายเครื่องปรับอากาศไปทั่วโลก 142 ประเทศ ยกเว้นญี่ปุ่นและจีน และมองว่าตลาดยุโรปยังเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ เน้นกฎเกณฑ์มาตรฐานการประหยัดพลังงานสูง ขณะที่ตาดสหรัฐอเมริกามีการเติบโตไม่มากและยังเป็นตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน โดยเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิมีส่วนแบ่งตลาดเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนอยู่ราว 5% และถ้าสามารถขยับสัดส่วนตลาดจาก 5%เป็น 6% เท่ากับว่าเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิจะขายได้อีก 1 ล้านเครื่อง ถ้าขยายตลาดได้
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ มีความภาคภูมิใจกับรางวัลต่างๆที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะล่าสุดมีหนังสือจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงานแจ้งว่า ผลงานเครื่องปรับอากาศ มิตซูบิชิ อีเลคทริค มิสเตอร์สลิม Dual Barrier coating ได้รับรางวัลดีเด่นด้านพลังงานสร้างสรรค์ ที่เกิดจากการตัดสินประกวดThailand Energy Awards 2016 ก่อนหน้านี้ เป็นรางวัลแห่งการยกย่องชื่นชมผู้ที่มีงานดีเด่นด้านอนุรักษ์พลังงานและการพัฒนาพลังงานทดแทน เป็นต้น
ปัจจุบันบริษัท MCP มีกำลังผลิตราว 5 ล้านเครื่อง สัดส่วน 90% จะเป็นเครื่องปรับอากาศครัวเรือนและ 10% เป็นเครื่องปรับอากาศสำหรับอุตสาหกรรมโดยในไทยเป็นฐานผลิตที่มีขนาดกำลังผลิตมากที่สุดในขณะนี้ เมื่อเทียบกับฐานผลิตที่ญี่ปุ่น, ตุรกี, จีน,สกอตแลนด์ และเม็กซิโก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,187 วันที่ 28 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_91283" align="aligncenter" width="335"]
ประธานบริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอนซูมเมอร์ โปรดักส์(ประเทศไทย)[/caption]
นายโนริคาสึ อิชิคาว่า ประธานบริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอนซูมเมอร์ โปรดักส์(ประเทศไทย) จำกัดหรือMCP เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ในฐานะผู้ผลิตว่าในเร็วๆ นี้ฝ่ายการตลาดจะเปิดตัวสินค้าใหม่ ที่ขณะนี้ในแง่ของโรงงานผลิตยังเป็นความลับอยู่แต่มั่นใจว่าเมื่อเปิดตัวออกมาแล้วจะทำให้ลูกค้าตะลึ่งได้ และมั่นใจว่าจะชอบโดยจะมี3องค์ประกอบที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวน่าสนใจมากขึ้น ไล่ตั้งแต่การประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เครื่องปรับอากาศ “มิตซูบิชิ” ผลิตได้เหนือคู่แข่ง อีกทั้งมีการเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่จากเดิมเป็น R410A มาเป็น R32 ที่จะเป็นน้ำยาที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่าสามารถลดผลกระทบต่อโอโซนเหลือแค่ 1ใน 3 รวมถึงการดีไซน์รูปโฉมใหม่ให้ทันสมันยิ่งขึ้น เข้ากับเทคโนโลยีที่รักษาความเย็นไม่ให้ลดลง เช่น มีเซ็นเซอร์จับความเย็นโดยโฟกัสไปที่ตัวคนหรือเป้าหมายแม้มีการเคลื่อนไหว จะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่น่าจับตา
ทั้งนี้โปรดักต์ใหม่จะเกิดจากการคิดค้นของหน่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย ที่เข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในประเทศไทยซึ่งมีสัดส่วน 20% ของกำลังการผลิต ถือว่าเป็นฐานตลาดที่สำคัญ เพราะสัดส่วน 80% ยังเป็นการกระจายการส่งออกไป 142 ตลาดทั่วโลก
“ที่ผ่านมามิตซูบิชิลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และการผลิตก็มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เครื่องจักร อุปกรณ์การผลิตก็ไฮเทคขึ้น เมื่อบีโอไอปรับทิศทางการลงทุนโดยหันไปส่งเสริมสินค้าที่ไฮเทคโนโลยีก็ไม่อยากให้ลดความสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศลง”
ประธานบริษัท MPC กล่าวว่าปี 2559 จะผลิตเครื่องปรับอากาศไต่ระดับไปที่ 5 ล้านเครื่องขึ้นไปจากที่ปีก่อนมีกำลังผลิตเครื่องปรับอากาศเกิน 4.3 ล้านเครื่องต่อปี โดยคาดว่ายอดขายปี 2559 ที่จะปิดงบเดือนมีนาคมปี 2560 จะออกมาใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาคือราว 4.50 หมื่นล้านบาท โดยจะเน้นตลาดเอเชีย ซึ่งยอดจำนวนเครื่องอาจจะเพิ่มขึ้นแต่ได้มูลค่ายอดขายใกล้ปี 2558 เนื่องจากมีการแข่งขันสูงขึ้น อีกทั้งราคาในตลาดถูกปรับลง และเงินบาทแข็งค่า เมื่อแปลงจากดอลลาร์สหรัฐฯและแปลงจากยูโรทำให้มูลค่าขายลดลง โดยเฉพาะค่าเงินปอนด์ที่ทำราคาตกมาก ซึ่งที่ผ่านมาตลาดยุโรปก็เป็นตลาดหลัก ซึ่งยังมั่นใจว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นแค่ระยะสั้น อีกทั้งยังมีตลาดเอเชีย และตลาดตะวันออกกลางอีกทาง
อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดเอเชียยังมีการขยายตัวอีกมาก โดยเฉพาะ ไทย มาเลเซีย โดยเฉพาะอินโดนีเซีย และอินเดียที่มีจำนวนประชากรมาก และประเทศเหล่านี้เป็นเมืองร้อน ซึ่งเวลานี้เฉพาะไทยกับอินโดนีเซียมีครอบครัวที่มีเครื่องปรับอากาศใช้เพียง 20% เท่านั้นเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นที่มีถึง 90%
สำหรับ ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในไทยมีการใช้ระบบอินเวอร์เตอร์(Inverter)มากขึ้น เนื่องจากเป็น ระบบที่นำเอาความรู้ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการทำงานด้วยคำสั่งจาก ไมโครคอมพิวเตอร์ที่สั่งงานโดยตรงจากรีโมตคอนโทรลและนำคำสั่งดังกล่าวมาใช้ ควบคุมการทำงานของระบบเครื่องปรับอากาศ ให้ทำงาน ปรับอุณหภูมิ ควบคุมความชื้น ควบคุมความเย็น ให้ทำงานได้โดยอัตโนมัติ โดยใช้คำสั่งจากโมโครคอมพิวเตอร์ ถือเป็นจุดแข็งของเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิด้วยที่สามารถผลิตสินค้าออกมารองรับตลาดได้
ประธานบริษัทMCP กล่าวถึงภาพรวมการแข่งขันในตลาดโลกว่า ปัจจุบันมิตซูบิชิขายเครื่องปรับอากาศไปทั่วโลก 142 ประเทศ ยกเว้นญี่ปุ่นและจีน และมองว่าตลาดยุโรปยังเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ เน้นกฎเกณฑ์มาตรฐานการประหยัดพลังงานสูง ขณะที่ตาดสหรัฐอเมริกามีการเติบโตไม่มากและยังเป็นตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน โดยเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิมีส่วนแบ่งตลาดเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนอยู่ราว 5% และถ้าสามารถขยับสัดส่วนตลาดจาก 5%เป็น 6% เท่ากับว่าเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิจะขายได้อีก 1 ล้านเครื่อง ถ้าขยายตลาดได้
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ มีความภาคภูมิใจกับรางวัลต่างๆที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะล่าสุดมีหนังสือจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงานแจ้งว่า ผลงานเครื่องปรับอากาศ มิตซูบิชิ อีเลคทริค มิสเตอร์สลิม Dual Barrier coating ได้รับรางวัลดีเด่นด้านพลังงานสร้างสรรค์ ที่เกิดจากการตัดสินประกวดThailand Energy Awards 2016 ก่อนหน้านี้ เป็นรางวัลแห่งการยกย่องชื่นชมผู้ที่มีงานดีเด่นด้านอนุรักษ์พลังงานและการพัฒนาพลังงานทดแทน เป็นต้น
ปัจจุบันบริษัท MCP มีกำลังผลิตราว 5 ล้านเครื่อง สัดส่วน 90% จะเป็นเครื่องปรับอากาศครัวเรือนและ 10% เป็นเครื่องปรับอากาศสำหรับอุตสาหกรรมโดยในไทยเป็นฐานผลิตที่มีขนาดกำลังผลิตมากที่สุดในขณะนี้ เมื่อเทียบกับฐานผลิตที่ญี่ปุ่น, ตุรกี, จีน,สกอตแลนด์ และเม็กซิโก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,187 วันที่ 28 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559