รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยประจำเดือนกรกฎาคม 2559 ว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดการณ์ ราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และผลผลิตภาคเกษตรที่หดตัวในระดับสูงจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคมยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 4.4 รวม 7 เดือนแรกของปี 2559 หดตัวร้อยละ 2.0 อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งตลาด (Market Share) ของไทยในตลาดส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะตลาดออสเตรเลียที่ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีจะปรับตัวดีขึ้นตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก แนวโน้มราคาน้ำมัน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น
มูลค่าการค้าในรูปของเงินเหรียญสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคม การส่งออกมีมูลค่า 17,415 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 16,202 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หดตัวร้อยละ 7.2) ส่งผลให้การค้าเกินดุล 1,213 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน รวม 7 เดือนแรก การส่งออกมีมูลค่า 122,553 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หดตัวร้อยละ 2.0) การนำเข้ามีมูลค่า 108,926 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หดตัวร้อยละ 9.8) และการค้าเกินดุล 13,626 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ตามการลดลงของปริมาณการส่งออกเป็นสำคัญ เนื่องจากความผันแปรของปัจจัยการนำเข้าในตลาดคู่ค้าสำคัญ ทั้งกำลังซื้อ ผลผลิตคู่แข่ง และกฎระเบียบใหม่ๆ รวมทั้งปัจจัยภายในประเทศที่เกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ในขณะที่ราคาส่งออกปรับตัวตามกลไกตลาด โดยภาพรวมเดือนกรกฎาคม 2559 มูลค่าการส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ ลดลงร้อยละ 18.6 (YoY) สินค้าสำคัญที่ลดลง ได้แก่ ข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และน้ำตาล (ลดลงร้อยละ 35.1 34.8 28.4 และร้อยละ 33.8 ตามลำดับ) อย่างไรก็ตาม การส่งออกกลุ่มสินค้าอาหารบางรายการยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง อาทิ อาหารทะเลแช่แข็ง โดยเฉพาะกุ้ง ที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปัญหา EMS (ส่งออกไปสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเวียดนาม) ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป (ส่งออกไปญี่ปุ่น ลาว และเยอรมนี) และเครื่องดื่ม (ส่งออกไป CLMV) รวม 7 เดือนแรก การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ 6.2
มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคม 2559 หดตัวร้อยละ 0.4 (YoY) ตามการลดลงของการส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์เป็นสำคัญ ในขณะที่สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันยังหดตัวอย่างต่อเนื่องตามราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 6.7 น้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ (หดตัวร้อยละ 40.7 14.8 27.0 และร้อยละ 14.9 ตามลำดับ) ในขณะที่ สินค้าสำคัญที่ยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ได้แก่ ทองคำ ขยายตัวร้อยละ 457.1 (ส่งออกไปตลาดสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์/ไดโอด ขยายตัวร้อยละ 104.0 (ส่งออกไปตลาด สหรัฐอเมริกา และฮ่องกง) และเครื่องยนต์สันดาป ขยายตัวร้อยละ 20.3 (ส่งออกไปตลาดสิงคโปร์ นิวซีแลนด์ และอาร์เจนตินา) รวม 7 เดือนแรก การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 0.2