จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในจีนสำคัญกว่าที่คิด

27 ส.ค. 2559 | 02:00 น.
การละเมิดเครื่องหมายการค้าในประเทศจีนได้กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ผู้คนทั่วโลกหยิบยกขึ้นมา ถกเถียงกันอีกครั้งเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ศาลจีนตัดสินให้บริษัท Apple ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐฯ เจ้าของเครื่องหมายการค้า iPhone เป็นฝ่ายแพ้คดีโต้แย้งสิทธิในเครื่องหมายการค้ากับบริษัท ปักกิ่ง ซินทงเทียนตี้ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องหนังของจีน การจดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าในจีนจึงเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ผู้สนใจต้องรู้ไว้ก่อนคิดไปบุกตลาดจีน

กรณีข้างต้น บริษัท Apple ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมาย iPhone ไปตั้งแต่ปี 2002 แต่เพิ่งจะได้รับการอนุมัติสิทธิโดยสมบูรณ์ในปี 2012 ขณะที่บริษัทเครื่องหนังเจ้าดังกล่าวของจีนซึ่งจดทะเบียนในชื่อเดียวกับบริษัท Apple ได้รับอนุมัติตั้งแต่ปี 2007 แม้ว่ายื่นขอจดทะเบียนภายหลัง Apple

ต่อไปนี้คือ 10 ข้อควรรู้ สำหรับการจดเครื่องหมายการค้าในจีน

1. ควรเลือกจดเครื่องหมายการค้าในประเทศจีนโดยตรง อย่านึ่งนอนใจว่าจีนได้เข้าร่วมเป็นภาคีในพิธีสารมาดริด (Madrid Protocol) แล้วตั้งแต่ปี 1995 แม้ว่าพิธีสารดังกล่าวอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการจากรัฐภาคีที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก (WIPO) สวิตเซอร์แลนด์ ได้รับความคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญหา ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และเครื่องหมายการค้าในประเทศที่เป็นภาคีของพิธีสารฯ โดยไม่ต้องทำการจดทะเบียนกับหน่วยงานรัฐภายในประเทศอีกครั้ง แต่จากกรณีบริษัท Apple ข้างต้น และจากความเห็นของบริษัทกฎหมายหลายแห่งที่เชี่ยวชาญในตลาดจีน ล้วนแนะนำให้ไปจดเครื่องหมายการค้าในจีนเป็นหลัก หากต้องการบุกตลาดนี้อย่างจริงจัง

2. หน่วยงานที่รับผิดชอบการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในจีนคือ สำนักงานทะเบียนการค้า (Trademark Office) ซึ่งอยู่ภายใต้คณะบริหารอุตสาหกรรมและการค้าแห่งชาติ (State Administration for Industry and Commerce – SAIC) ที่กรุงปักกิ่ง เว็บไซต์ http://www.saic.gov.cn/sbjEnglish/LawsRegulations/

3. ตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เครื่องหมายการค้าที่จะจดทะเบียนไม่เป็นเครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว สำนักงานเครื่องหมายการค้าจะไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในกรณีที่มีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกับเครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนแล้ว สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ที่ http://www.saic.gov.cn/sbjEnglish/sbcx_1/

4. จีนแบ่งประเภทเครื่องหมายการค้าเป็น 45 กลุ่ม สอดคล้องกับการแบ่งประเภทตามมาตรฐานสากลของ WIPO เป็นสินค้า 34 กลุ่ม และบริการ 11 กลุ่ม ดูการแบ่งกลุ่มได้ที่เว็บไซต์ http://web2.wipo.int/classifications/nice/nicepub/en/fr/edition-20160101/taxonomy/ สำหรับแบรนด์กาแฟเจ้าใหญ่อย่าง Starbucks มีรายงานว่า ระวังเรื่องลิขสิทธิ์ในจีนมาก ถึงกับจดเครื่องหมายการค้าไว้ครอบคลุมทั้ง 45 กลุ่ม เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีผ้าอ้อมเด็กปั๊มยี่ห้อ Starbucks แน่ๆ

5. เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า กรณีจดทะเบียนโดยนิติบุคคล ได้แก่ ชื่อและที่อยู่ของบริษัท (ภาษาอังกฤษและภาษาจีน) แบบฟอร์มการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล และลายเซ็นของกรรมการบริษัท หนังสือตั้งตัวแทน หรือหนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นกระทำการแทนเจ้าของ) สำเนาเครื่องหมายการค้าที่ประสงค์จะจดทะเบียน รูปเครื่องหมายการค้า (reproduction) พิมพ์บนกระดาษเรียบและคงทนมีความคมชัด ขนาดของรูปควรมีความกว้างและยาว ระหว่าง 5-10 เซนติเมตร จำนวน 6 ชุด หากเครื่องหมายการค้าเป็นรูปสีต้องใช้สำเนารูปฉบับสีจำนวน 5 ชุด และสำเนาฉบับขาวดำ 1 ชุด คำอธิบายเครื่องหมายการค้าบริษัท
กรณีบุคคลธรรมดา ได้แก่

1.สำเนาหนังสือเดินทาง

2.ที่อยู่ทางไปรษณีย์ของผู้ขอเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน

3.ผู้ยื่นขอจดทะเบียนต้องลายเซ็นของผู้ขอเครื่องหมายการค้า

4.สำเนาเครื่องหมายการค้าที่ประสงค์จะจดทะเบียน รูปเครื่องหมายการค้า (reproduction) พิมพ์ บนกระดาษเรียบและคงทนมีความคมชัด ขนาดของรูปควรมีความกว้างและยาวระหว่าง 5-10 เซนติเมตร จำนวน 6 ชุด หากเครื่องหมายการค้าเป็นรูปสีต้องใช้สำเนาฉบับสีจำนวน 5 ชุด และสำเนาฉบับขาวดำ จำนวน1 ชุด

5.คำอธิบายเครื่องหมายการค้าบริษัท

ทั้งกรณีนิติบุคคลและกรณีบุคคลธรรมดา เอกสารทุกชนิดที่เป็นภาษาต่างประเทศจะต้องมีคำแปลภาษาจีนกำกับทุกครั้ง

6. การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในจีนใช้เวลาประมาณ 12-18 เดือน หรือมากกว่านั้น หากพบข้อโต้แย้งจากผู้ประกอบการรายอื่น การตรวจสอบความถูกต้องและคุณสมบัติใช้เวลาประมาณ 1 ปี

7. เมื่อหน่วยงานเครื่องหมายการค้าจีนตรวจสอบคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว จะออกใบรับรองขั้นต้นและตีพิมพ์เครื่องหมายการค้าที่สมัครเข้ามาลงใน China Trademark Gazette หากไม่มีบริษัทใดคัดค้าน เครื่องหมายการค้ายื่นจดทะเบียนจะได้รับการอนุมัติ และจะมีการประกาศเป็นลายลักษณ์อักษร

8. เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในจีนนั้นจะมีอายุความคุ้มครอง 10 ปี นับตั้งแต่วันจดทะเบียน และสามารถขอยื่นต่ออายุได้อีกคราวละ 10 ปี โดยทางการจีนสามารถเพิกถอนสิทธิในเครื่องหมายการค้าได้ หากพบว่าไม่ได้มีการใช้งานติดต่อกัน 3 ปี นับตั้งแต่วันที่มีการจดทะเบียน รวมทั้งกรณีที่เครื่องหมายมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายจีน

9. รัฐบาลจีนอนุญาตให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ผ่านบริษัทตัวแทนที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานเครื่องหมายการค้าภายใต้สำนักงานบริหารอุตสาหกรรมและการค้าแห่งชาติ (Trademark Office of The State Administration for Industry & Commerce of the People’s Republic of China)

10. ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน (ThaiBizChina.com) ได้จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเครื่องหมายการค้าในจีน พร้อมรายชื่อบริษัทตัวแทนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนไว้ให้ดาวน์โหลดกันฟรี ๆ ที่ http://www.thaibizchina.com/thaibizchina/upload/pdf/commerce/start_08commerce.pdf

ท่านไหนสนใจอยากรู้เรื่องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้ลึกยิ่งขึ้น ต้นเดือนหน้ามีโอกาสดี ๆ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยะเหมิน ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานจีนที่เป็นตัวจริง เสียงจริง ในเรื่องนี้ มาเล่าให้ผู้ประกอบการไทยฟังภายใต้งานสัมมนาเรื่อง “การยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้า” และ “การยื่นขอใบรับรองความปลอดภัยด้านอาหารและยา” ในจีน ในวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2559 ระหว่างเวลา 8.30-17.00 น. ณ ห้องมิ่งเมือง โรงแรม Twin Towers กรุงเทพฯ ดูรายละเอียดงานและลงทะเบียนเข้าร่วมได้ที่ http://www.thaibiz.net/th/event-calendar/20740/

พบกับอัพเดตความเคลื่อนไหวและโอกาสในตลาดต่างประเทศที่สถานทูตไทยทั่วโลกตั้งใจติดตามมาให้ภาคเอกชนไทยได้ที่เว็บไซต์ www.ThaiBiz.net หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถเขียนมาคุยกันได้ที่ [email protected]

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,186 วันที่ 25 - 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559