ร้านค้าโอท็อปปั๊มปตท.เปิดแล้ว 143 แห่ง

27 ส.ค. 2559 | 07:00 น.
สสว. เผยทยอยเปิดร้านค้าประชารัฐสุขใจในปั๊มปตท.แล้ว 143 แห่งจากเป้าหมาย 148 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเปิดพื้นที่ให้วิสาหกิจชุมชนและสินค้า OTOP มีที่วางจำหน่ายอย่างถาวร

นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้ง “ร้านค้าประชารัฐสุขใจ Shop” ในปั๊มนํ้ามันปตท. ทุกจังหวัดทั่วประเทศรวม148 แห่ง โดยความร่วมมือหน่วยงานภาคี4 แห่ง ได้แก่ กรมการพัฒนาชุมชน(พช.)กระทรวงมหาดไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SMEBank ว่า สสว. และพช.ได้รับมอบร้านค้าที่สร้างเสร็จแล้วจากททท. และได้ทยอยเปิดตัวร้านค้าประชารัฐไปแล้วจำนวน 143แห่งจากจำนวนที่ตั้งเป้าไว้ 148 แห่งในสถานีบริการนํ้ามันของปตท. ส่วนอีก 5แห่งที่ยังไม่ได้เปิดดำเนินการ ได้แก่ ร้านค้าในเขตกรุงเทพมหานคร ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการประสานกับกรุงเทพมหานคร

สำหรับสินค้าที่จำหน่ายในร้านค้าประชารัฐสุขใจ Shop นั้น ทางสสว. ได้ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชนและผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินการคัดเลือกสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์เด่นของแต่ละจังหวัด เพื่อนำมาวางขายในร้านค้าประชารัฐสุขใจประจำจังหวัดนั้นๆ เพื่อเป็นการเสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน ส่วนสินค้าที่ยังไม่ผ่านการคัดเลือก เพราะอาจมีข้อจำกัดด้านคุณภาพของตัวสินค้า หรือ Packaging ทางสสว. จะช่วยประสานงานกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่เพื่อจัดหานวัตกรรมมาปรับปรุงตัวสินค้า

นางสาลินีกล่าวต่อว่า ในกรณีที่เป็นPackaging สสว.จะประสานงานให้ TCDCหรือศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์กระทรวงอุตสาหกรรม เข้ามาช่วยปรับปรุงโดยมีธนาคาร SME สนับสนุนด้านการเงินให้แก่ชุมชนที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อผลิตหรือปรับปรุงมาตรฐานสินค้านอกจากนี้ สสว. และพช.ยังได้ฝึกสอนชุมชนในเรื่องบริหารจัดการร้านค้าและจัดหาบุคลากรจากชุมชนมาทำหน้าที่ขายสินค้าโดยทั้ง 2 หน่วยงานจะช่วยดูแลร้านค้าประชารัฐเป็นเวลา 3 ปี เมื่อร้านมีความมั่นคงแข็งแรงแล้วจะส่งคืนให้ชุมชนในแต่ละจังหวัดเป็นเจ้าของต่อไป

“ยอดการจำหน่ายสินค้าในร้านค้าประชารัฐสุขใจที่ได้เปิดไปแล้วอย่างเต็มรูปแบบอยู่ในระดับที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้คือเฉลี่ยเดือนละ 7 หมื่นบาท / ร้าน วิสาหกิจชุมชนที่ได้รับประโยชน์จากร้านประชารัฐมีจำนวน 3,000 แห่ง เป็นจำนวนประชาชนในเขตภูมิภาคที่ได้รับประโยชน์ทั้งสิ้นประมาณ30,000 คน” นางสาลินีกล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,186 วันที่ 25 - 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559