‘นานมีบุ๊คส์’ปรับกลยุทธ์ดันรายได้ ผุดโรงเรียนสอนพิเศษต่อยอดธุรกิจหนังสือ

24 ส.ค. 2559 | 12:00 น.
นานมีบุ๊คส์ รับทำงานยากขึ้นเผยเหตุภาครัฐตัดงบประมาณ ล่าสุดจับมือกักเคน เอดูเคชั่นแนลนำเข้าโรงเรียนสอนพิเศษคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ตั้งเป้า 5 ปีขยายสาขา 500 แห่งทั่วประเทศ ด้านรายได้คาดการณ์สิ้นปีโต 5%

[caption id="attachment_88297" align="aligncenter" width="335"] คิม จงสถิตย์วัฒนา  กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด คิม จงสถิตย์วัฒนา
กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด[/caption]

นางสาวคิม จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ท้าทายและต้องทำงานกันอย่างหนัก สำหรับธุรกิจสำนักพิมพ์ ขณะที่บริษัทเองก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวเช่นกัน ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทต้องต้องคิดกลยุทธ์ใหม่ในการนำเสนอโรงเรียนเพื่อเสนอขายนวัตกรรมการเรียนการสอน เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐได้ตัดงบประมาณการซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดของโรงเรียน

อย่างไรก็ดีขณะนี้สถาบัน นานมีบุ๊คส์ อินโนเวชั่น จับมือกับเคน เอดูเคชั่นแนล ผู้นำด้านการบริหารการศึกษา อันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น เปิดโรงเรียนสอนพิเศษรูปแบบใหม่ ในชื่อ กักเคน คลาสรูม ประเทศไทย มุ่งพัฒนาความสามารถทางวิชาการวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของเด็กให้แข็งแรง เรียนอย่างมีความสุข คิดวิเคราะห์รอบด้าน พร้อมรับกับสถานการณ์ชีวิตจริง โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุ 6-12 ปี ซึ่งตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไปบริษัทจะขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ พร้อมคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะพยายามขยายสาขาให้ได้ 5 สาขา และภายใน 5 ปีจะขยายครบ 300 สาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด

นางสาวคิม กล่าวเพิ่มเติมว่า เด็กในยุคนี้ต้องเผชิญกับคำถามที่ไม่ได้มีเพียงแค่คำตอบเดียว หรืออาจเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ จึงมีความจำเป็นที่ต้องเสริมสร้างทักษะคิดวิเคราะห์รอบด้าน อย่างไรก็ตามบริษัทเชื่อว่ารายได้รวมสิ้นปีนี้ของนานมีบุ๊คส์จะเติบโต 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้การเติบโตที่เพิ่มจะมาจากธุรกิจอื่นๆที่เข้ามาช่วยเสริม

ขณะเดียวกันในปีนี้จะมีหนังสือสิ่งพิมพ์วรรณกรรมเยาวชนชื่อดังออกมาให้เปิดจองและจำหน่าย นั่นคือ แฮร์รี่พอตเตอร์ ตอนห้องแห่งความลับเล่มพิเศษภาพประกอบ 4 สี ราคา 2,250 บาทที่เปิดให้จองแล้ว อีกทั้งยังมีแฮร์รี่พอตเตอร์ กับเด็กต้องคำสาปในอีก 19 ปีต่อมา ฉบับภาษาไทยที่จะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้

ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายจากกลุ่ม Book 94% และ Non-book 6% โดยสัดส่วนยอดขายจากกลุ่ม Book อันดับ 1 ยังคงมาจากหนังสือกลุ่มการ์ตูนความรู้ รองลงมาเป็นกลุ่มเสริมความรู้สำหรับเยาวชน โดยมีกลุ่มสารคดีสำหรับผู้ใหญ่เป็นอีกกลุ่มที่มาแรง เพราะมีหนังสือหมวดระบายสีเข้ามาเสริมทัพ ด้านกลุ่ม Non-book มีสัดส่วนยอดขาย มาจากระบบติวเตอร์ออนไลน์ Maths-Whizz เซียนคณิตศาสตร์ หลักสูตรห้องเรียนทดลองวิทย์ การบริการจัดค่ายและอบรม ณ Go Genius Learning Center และโรงเรียนสอนพิเศษ Go Genius School ตามลำดับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,185 วันที่ 21 - 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559