ทีเส็บยันหลังเหตุบึ้มถึงสิ้นปี154งานไม่มียกเลิก

23 ส.ค. 2559 | 04:00 น.
ทีเส็บ แจงการจัดงานจนถึงสิ้นปีนี้รวมกว่า 154 ยังคงยืนยันการจัดงานในไทย ชู 4 มาตรการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้จัดงานและลูกค้า ดันรายได้อุตสาหกรรมไมซ์ 9.2 หมื่นล้านบาท ด้านบีอีเอส เดินหน้าจัดงานฟู้ดแอนด์ โฮเทล ไทยแลนด์ 2016 คาดมีผู้ร่วมงานไทย-เทศกว่า 3 หมื่นคน ขณะที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ประเมินบอมบ์กระทบไทยสูญรายได้ท่องเที่ยว 6 พันล้านบาท

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจว่า หลังจากเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภายใต้ของไทย ทีเส็บ ได้ทำการสำรวจภาพรวมของการจัดงานด้านไมซ์ที่จะเกิดในประเทศไทย พบว่า ในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2559 มีงานด้านไมซ์ที่ทีเส็บให้การสนับสนุนทั้งหมด 154 งาน เป็นงานจากต่างประเทศ 125 งาน งานจากกลุ่ม CLMV และในประเทศ 29 งาน ยังคงยืนยันที่จะจัดงานอยู่ทั้งหมด ซึ่ง ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2559 ยังไม่ปรากฏผลกระทบว่ามีการเลื่อน หรือยกเลิกการจัดงานแต่อย่างใด

โดยในช่วงเกิดเหตุวิกฤติ ทีเส็บ ได้ดำเนินการใน 4 เรื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ได้แก่ 1.ประสานงาน หาวิธีแก้ปัญหา และอำนวยความสะดวกแก่ผู้จัดงาน นักเดินทางกลุ่มไมซ์ และตัวแทนไมซ์ที่แจ้งความประสงค์หรือขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุวิกฤติ เช่น ประสานงานกับกระทรวง หรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้จัดงาน นักเดินทางไมซ์ และตัวแทนไมซ์ 2. จัดทำแนวทางชี้แนะให้แก่ผู้จัดงานไมซ์เพื่อให้ผู้จัดงานใช้เป็นแนวทางในการให้บริการนักเดินทางไมซ์ 3.ติดตามการรายงานของสื่อต่างๆโดยเจ้าหน้าที่ตัวแทนทีเส็บในต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบว่าการรายงานของสื่อตรงตามข้อเท็จจริงและแก้ไขให้ถูกต้องหากมีข้อมูลผิดพลาด และ4.จัดทำ statement รายงานสถานการณ์ให้แก่กลุ่มลูกค้า และ ผู้จัดงานไมซ์เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องและทันท่วงที

ดังนั้นเป้าหมายของอุตสาหกรรมไมซ์ในปีนี้ ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ มี นักเดินทางกลุ่มไมซ์ 1.06 ล้านคน สร้างรายได้ 9.2 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ทีเส็บยังได้เปิดตัวโครงการ Thailand Incentive & Meeting Exchange 2016 หรือ TIME 2016 เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และเจรจาธุรกิจสำหรับตลาด MI ( มีตติ้ง และอินเซนทีฟ) รวมถึงการจัดทัศนศึกษาที่จะนำสื่อมวลชนและบริษัทคอร์ปอเรตจากจีน 40-50 ราย มาทัศนศึกษาที่ภูเก็ต ซึ่งการเจาะกลุ่มตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญ ที่มีโอกาสการขยายตัวอีกมาก ตั้งเป้าสร้างเป็นโครงการ flagship พร้อมขยายการจัดงานหมุนเวียนไปยังกลุ่มลูกค้าไมซ์ในตลาดอื่นๆที่มีศักยภาพ

ทั้งนี้งานไมซ์ด้านMI นั้น สามารถสร้างรายได้ให้แก่อุตสาหกรรมไมซ์ในภาพรวมได้ตามเป้าหมาย โดยในปี พ.ศ. 2558 มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 1.09 ล้านคนมายังประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ 95,857 ล้านบาท ซึ่งมีลูกค้าไมซ์จากประเทศจีนเดินทางมายังประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ตามด้วย อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย ฮ่องกง และออสเตรเลีย โดยมีสัดส่วนของนักเดินทางกลุ่ม MI จำนวน 516,663 คน สร้างรายได้ 44,533 ล้านบาท

นายจัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ บีอีเอส กล่าวว่าการจัดงาน ฟู้ดแอนด์ โฮเทล ไทยแลนด์ 2016 ยังคงเดินหน้าจัดงานระหว่างวันที่ 7-10 กันยายนนี้ ที่ไบเทค ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารและบริการพรีเมียมระดับนานาชาติ ซึ่งจะมีการจัดแสดงสินค้าที่เกี่ยวของกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม และ ร้านอาหาร จากผู้ผลิตและผู้ให้บริการจากทั่วโลกกว่า 350 บริษัท จาก 23 ประเทศทั่วโลก และ 4 พาวิเลียนใหญ่ จาก เดนมาร์ก เกาหลี ญี่ปุ่น และ ไต้หวัน โดยคาดว่าจะมีผู้เช้าร่วมชมงานทั้งชาวไทยและต่างประเทศมากถึง 30,000 คน สร้างมูลค่าธุรกิจและการเจจาการค้าภายในงานสูงถึง กว่า 4,000 ล้านบาท

ไฮไลต์การจัดงาน ในปีนี้ ประกอบด้วยหลายส่วนสำคัญ อาทิ งานฉลองครบรอบ 70 ปี ความสัมพันธ์ทางการค้าไทย-อังกฤษ Thai-UK 2016 โดยจะมีการจัดแสดงสินค้าและบริการจากเหล่าบริษัทชั้นนำซึ่งเป็นสมาชิกของสภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย ณ ฮอลล์ 105, พาวิเลียนใหม่จากประเทศเดนมาร์ก, การเปิดตัวใหม่ของ 22 ผลิตภัณฑ์ครั้งแรกของโลก 12 ผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งแรกของเอเชีย และ 38 ผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งแรกของไทย

ด้านดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย กล่าวว่า ทางศูนย์ได้ประเมินสถานการณ์ผลกระทบจากระเบิดที่เกิดขึ้น โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะหายไป 1.1% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด จำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะหายไปจากภาคใต้ 124,931 คน เม็ดเงินจะหายไปจากระบบเศรษฐกิจจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปจำนวน 6,050.45 ล้านบาท คาดว่าจะกระทบราว 2 เดือน และอยากให้รัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นและเร่งดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,185 วันที่ 21 - 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559