มุมมองตลาด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% และปิดที่ 1547.01 จุด ปริมาณการซื้อขายหนาแน่นที่ 5.9 หมื่นล้านบาท มาตรการนโยบายทางการเงินทั่วโลกหนุนให้นักลงทุนสนใจในตลาดหุ้นและพันธบัตร ขณะที่การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เมื่อคืนวันที่ 17 ส.ค.ใจความสำคัญดูเหมือนยังไม่มีความชัดเจนเรื่องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ปัจจัยสำคัญที่เฟดจะพิจารณาคือเรื่อง ตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันพบว่าตลาดแรงงานค่อยๆฟื้นตัวขึ้น แต่อัตราเงินเฟ้อที่เฟดตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2% เราคาดว่ามีโอกาสน้อยที่จะขึ้นไปถึงเป้าหมายในระยะสั้น และอาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงเรื่องกระแสเงินลงทุนที่ยังน่าจะไหลเข้าสู่ตลาด
ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาจากสภาพคล่องการเงินสูงเนื่องจากปริมาณเงินที่ถูกอัดฉัดเข้ามาเพิ่มขึ้นจากธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ต่ำลงในทวีปยุโรปส่งผลให้นักลงทุนหันมาลงทุนในตลาดเอเชียและอื่นๆซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ามากขึ้น ขณะที่ผลตอบการลงทุนระยะเวลาเกือบ 8 เดือน ตลาดหุ้นไทยปรับตัวแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตลาดสหรัฐ อียู และกลุ่มประเทศเอเชีย นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อแนวโน้มการบริโภคและการลงทุนในประเทศ กลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศเป็นตัวผลักดันดัชนีตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวสูงขึ้นขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมียังคงทรงตัวได้อย่างแข็งแกร่งท่ามกลางความผันผวนของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ภาพการลงทุนของตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวแข็งแกร่ง สภาพคล่องทางการเงินทั่วโลกยังคงส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยโดยเรามีมุมมองว่าดัชนีฯไทยจะทะลุขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ถึงระดับ 1580 จุด เทียบเท่ากับค่า Forward PER ปี 2559 ที่ 17 เท่า
ที่มา:บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง