บจ.กำไรQ2สูงประวัติการณ์2.4แสนล้าน
บริษัทจดทะเบียนตอกย้ำสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นชัด ไตรมาส 2 โกยกำไร 2.4 แสนล้าน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งท้ายโค้งแรกสวย ปิดตัวเลข 4.7 แสนล้าน โดยเฉพาะกลุ่มอุตฯที่เกี่ยวข้องการบริโภคในประเทศ นักวิเคราะห์เตรียมอัพเป้าทั้งปี ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล้าพูดเต็มปากครึ่งปีหลังไปโลด "ฐิติกร"บิ๊กเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ อัพเป้าสินเชื่อโต 10 % ธุรกิจโลจิสติกส์ กล้าขยายลงทุน "ซีโอแอล" ในเครือเซ็นทรัล ยืนเป้ารายได้ทะลุหมื่นล้าน
[caption id="attachment_86308" align="aligncenter" width="700"]
ตัวอย่างบริษัทจดทะเบียนกำไรเพิ่มขึ้น[/caption]
นอกจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ส่งสัญญาณเชิงบวกแล้ว ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทย(บจ.) สำหรับงวดไตรมาส 2 และงวดครึ่งปีแรกปี 2559 นักวิเคราะห์ต่างประสานเสียงเดียวกันว่าดีกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค การลงทุนภายในประเทศ ทำให้หลายสำนักวิจัยเตรียมปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรทั้งปี 2559 ในเร็ว ๆ นี้
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.)กสิกรไทย จำกัด(มหาชน)(บมจ.) เปิดเผยว่า บจ.รายงานกำไรไตรมาส 2 ปี 2559 สูงถึง 2.4 แสนล้านบาท และถือเป็นกำไรงวดไตรมาส 2 ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ (ดูตารางประกอบตัวอย่างบริษัทจดทะเบียนกำไรเพิ่มขึ้น)
จากกำไรไตรมาส 2 ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ผลประกอบการครึ่งปีแรกของบจ.เป็น 4.7 แสนล้านบาท คิดเป็น 52% เมื่อเทียบกับประมาณการกำไรตลาดปี 2559 ที่ฝ่ายวิจัยบล.กสิกรไทยฯ คาดการณ์ไว้ที่ 8.96 แสนล้านบาท ซึ่งผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ออกมาโดยส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นไปตามที่คาดหมาย จึงทำให้ฝ่ายวิจัยบล.กสิกรไทยฯจะไม่มีการทบทวนหรือปรับประมาณการกำไรปี 2559 แต่ในส่วนของนักวิเคราะห์โดยรวม(Consensus ) ซึ่งมีการคาดการณ์ผลประกอบการที่ต่ำไป ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่จะมีการปรับประมาณการ รวมไปถึงการปรับเป้าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯขึ้นกันใหม่
สอดคล้องกับบทวิเคราะห์บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)ฯระบุว่าภาพรวมกำไรบจ.ไตรมาส 2 ออกมาดีกว่าคาดการณ์เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ และกลุ่มธุรกิจเกษตรและอาหาร ที่ออกมาฟื้นตัวเด่นกว่าในภาพรวม
เตือนแรงขายหลังหมดข่าวดี
อย่างไรก็ดีนายประกิต กล่าวว่า หลังสิ้นสุดการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 หุ้นหลายตัวเริ่มออกอาการมีแรงขายเมื่อรับรู้ข่าวจริง ( Sell on Face )ทั้งนี้เป็นเพราะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯปรับตัวขึ้นตอบรับต่อแนวโน้มผลประกอบการดังกล่าวไปค่อนข้างมากแล้ว
พร้อมเตือนนักลงทุนว่า ตลาดหุ้นไทยหลังบจ.สิ้นสุดการรายงานกำไรครึ่งปีแรก ก็เริ่มขาดปัจจัยเร่ง และมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนสิงหาคม หรือต้นเดือนกันยายน ตลาดน่าจะเริ่มกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา
บจ.ตลท.เชื่อโค้งหลังวิ่งฉิว
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า จากข้อมูลการรายงานกำไรบจ.ที่ตลท.รวบรวมได้ประมาณ 50%ของบจ.ที่แจ้งงบไตรมาส 2 พบว่าโดยภาพรวมมีกำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบไตรมาสแรกและเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่คาดว่าครึ่งปีหลังกำไรบจ.จะดีกว่าครึ่งปีแรก
มองเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์โตต่อเนื่อง
นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร ( TK) ให้ความเห็นกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าในส่วนของธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนตร์ช่วงครึ่งปีหลังของบริษัทเชื่อว่าน่าจะเติบโตได้ดี เนื่องจากเชื่อว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี น่าจะปรับตัวได้ดีขึ้น อีกทั้งในช่วงไตรมาส 3จะเป็นช่วงของฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเพาะปลูกและเป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวผลผลิต หลังจากนั้นในช่วงไตรมาส 4 ก็จะเป็นช่วงเวลาของการใช้จ่าย นอกจากนี้ในส่วนของผู้ที่ทำงานบริษัทก็จะเป็นช่วงเวลาของการได้รับเงินโบนัสจากการทำงาน ซึ่งเปรียบได้กับเป็นช่วงเวลาแห่งการขายจักรยานยนต์ด้วย
สำหรับกรณีของฐิติกร เองนั้น การให้สินเชื่อภายในประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าสิ้นปีลูกหนี้เช่าซื้อรวมจะโตไม่น้อยกว่า 10% จากเดิมที่ตั้งเป้า 5% ส่วนกำไรครึ่งปีแรกทรงตัวที่ 215 ล้านบาท สินเชื่อขยายตัว 3.4% ซึ่งเติบโตกว่าตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศเกิน 5 เท่าตัว ปัจจุบันบริษัทมีลูกหนี้เช่าซื้อ 3 แสนราย ขณะที่ครึ่งปีแรก 2559 ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศเติบโต 0.63% ที่ 9.1 แสนคัน
"โลจิสติกส์" เดินหน้าลงทุน
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD ) กล่าวว่า บริษัทยังคาดการณ์รายได้ปี 2559 เติบโต 7% จากปีก่อนที่ปิดตัวเลข 2,384 ล้านบาท แม้ในช่วงครึ่งปีแรกผลประกอบการจะปรับตัวลดลง และมีเรื่องการประมงผิดกฎหมายทำให้ธุรกิจห้องเย็นมีลูกค้าที่เป็นประเภทสัตว์ทะเลลดลงค่อนข้างมาก แต่ในครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ และบริษัทจะมีการขยายงานเพิ่มมากขึ้น และทำให้คาดว่าความต้องการเช่าคลังสินค้าจะเริ่มกลับมาอย่างเด่นชัด รวมถึงภาวะเศรษฐกิจในประเทศเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น
ด้านการขยายธุรกิจ บริษัทมีแผนเจรจาเข้าซื้อกิจการธุรกิจห้องเย็นในประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีขนาดพื้นที่ 3 หมื่นตารางเมตร และมีอัตราการเช่าพื้นที่คิดเป็น85% โดยตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1,500-2,000 ล้านบาท และมีโอกาสจะซื้อค่อนข้างมาก เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นลูกค้าที่บริษัทยังมีค่อนข้างน้อย คาดว่าจะได้ข้อสรุปการซื้อกิจการภายในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนธุรกิจห้องเย็นในประเทศเวียดนาม พื้นที่ 2 หมื่นตารางเมตร อยู่ระหว่างเจรจาเข้าไปร่วมถือหุ้น เป็นโครงการใหม่เพิ่งเริ่มก่อสร้าง และคาดว่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเข้าไปร่วมลงทุนหรือไม่ภายในปีนี้
“COL”ยืนเป้ารายได้ทะลุหมื่นล้าน
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีโอแอล ( COL) กล่าวว่าจากภาพรวมเศรษฐกิจที่มีทิศทางดีขึ้นคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทดีกว่าไตรมาส 2 ที่มีรายได้รวม 2.788 พันล้านบาท มีกำไรสุทธิ 62 ล้านบาท โดยไตรมาส 2 เป็นช่วงโลว์ซีซันของบริษัท
บริษัทคงเป้ารายได้ปีนี้โต 10% จากปี 2558 ที่มีรายได้ 1.08 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 393.70 ล้านบาท ในปีนี้บริษัทจะเปิดสาขาใหม่เป็นสาขาออฟฟิศเมทเกือบ 10 สาขา ซึ่งครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 4 สาขา และมีแผนปรับสาขาของออฟฟิศเมทให้มีขนาดเล็กลง รองรับอนาคตจะเปิดขายแฟรนไชส์คาดว่าน่าจะเริ่มได้ในปี 2561 ส่วนการเปิดสาขา B2S ปีนี้จะเปิด 6 สาขา โดยเปิดไปแล้ว 3 สาขา และจะเน้นปรับปรุงสาขาเดิมซึ่งตั้งงบลงทุนไว้ 500 ล้านบาท
นายวรวุฒิ กล่าวถึงความคืบหน้าในการเปิดสาขา B2S ในประเทศเวียดนามที่โฮจิมินห์ คาดว่าจะเปิดได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะใช้งบลงทุน 40-50 ล้านบาท และจากที่กลุ่มเซ็นทรัลเข้าซื้อกิจการบิ๊กซีเวียดนาม ทำให้ในอนาคตบริษัทมีแผนเปิดสาขาในบิ๊กซีเวียดนามให้ครบ โดยบิ๊กซีเวียดนามปัจจุบันมี 30 สาขา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,184 วันที่ 18 - 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_86308" align="aligncenter" width="700"]
นอกจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ส่งสัญญาณเชิงบวกแล้ว ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทย(บจ.) สำหรับงวดไตรมาส 2 และงวดครึ่งปีแรกปี 2559 นักวิเคราะห์ต่างประสานเสียงเดียวกันว่าดีกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค การลงทุนภายในประเทศ ทำให้หลายสำนักวิจัยเตรียมปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรทั้งปี 2559 ในเร็ว ๆ นี้
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.)กสิกรไทย จำกัด(มหาชน)(บมจ.) เปิดเผยว่า บจ.รายงานกำไรไตรมาส 2 ปี 2559 สูงถึง 2.4 แสนล้านบาท และถือเป็นกำไรงวดไตรมาส 2 ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ (ดูตารางประกอบตัวอย่างบริษัทจดทะเบียนกำไรเพิ่มขึ้น)
จากกำไรไตรมาส 2 ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ผลประกอบการครึ่งปีแรกของบจ.เป็น 4.7 แสนล้านบาท คิดเป็น 52% เมื่อเทียบกับประมาณการกำไรตลาดปี 2559 ที่ฝ่ายวิจัยบล.กสิกรไทยฯ คาดการณ์ไว้ที่ 8.96 แสนล้านบาท ซึ่งผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ออกมาโดยส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นไปตามที่คาดหมาย จึงทำให้ฝ่ายวิจัยบล.กสิกรไทยฯจะไม่มีการทบทวนหรือปรับประมาณการกำไรปี 2559 แต่ในส่วนของนักวิเคราะห์โดยรวม(Consensus ) ซึ่งมีการคาดการณ์ผลประกอบการที่ต่ำไป ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่จะมีการปรับประมาณการ รวมไปถึงการปรับเป้าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯขึ้นกันใหม่
สอดคล้องกับบทวิเคราะห์บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)ฯระบุว่าภาพรวมกำไรบจ.ไตรมาส 2 ออกมาดีกว่าคาดการณ์เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ และกลุ่มธุรกิจเกษตรและอาหาร ที่ออกมาฟื้นตัวเด่นกว่าในภาพรวม
เตือนแรงขายหลังหมดข่าวดี
อย่างไรก็ดีนายประกิต กล่าวว่า หลังสิ้นสุดการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 หุ้นหลายตัวเริ่มออกอาการมีแรงขายเมื่อรับรู้ข่าวจริง ( Sell on Face )ทั้งนี้เป็นเพราะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯปรับตัวขึ้นตอบรับต่อแนวโน้มผลประกอบการดังกล่าวไปค่อนข้างมากแล้ว
พร้อมเตือนนักลงทุนว่า ตลาดหุ้นไทยหลังบจ.สิ้นสุดการรายงานกำไรครึ่งปีแรก ก็เริ่มขาดปัจจัยเร่ง และมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนสิงหาคม หรือต้นเดือนกันยายน ตลาดน่าจะเริ่มกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา
บจ.ตลท.เชื่อโค้งหลังวิ่งฉิว
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า จากข้อมูลการรายงานกำไรบจ.ที่ตลท.รวบรวมได้ประมาณ 50%ของบจ.ที่แจ้งงบไตรมาส 2 พบว่าโดยภาพรวมมีกำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบไตรมาสแรกและเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่คาดว่าครึ่งปีหลังกำไรบจ.จะดีกว่าครึ่งปีแรก
มองเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์โตต่อเนื่อง
นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร ( TK) ให้ความเห็นกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าในส่วนของธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนตร์ช่วงครึ่งปีหลังของบริษัทเชื่อว่าน่าจะเติบโตได้ดี เนื่องจากเชื่อว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี น่าจะปรับตัวได้ดีขึ้น อีกทั้งในช่วงไตรมาส 3จะเป็นช่วงของฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเพาะปลูกและเป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวผลผลิต หลังจากนั้นในช่วงไตรมาส 4 ก็จะเป็นช่วงเวลาของการใช้จ่าย นอกจากนี้ในส่วนของผู้ที่ทำงานบริษัทก็จะเป็นช่วงเวลาของการได้รับเงินโบนัสจากการทำงาน ซึ่งเปรียบได้กับเป็นช่วงเวลาแห่งการขายจักรยานยนต์ด้วย
สำหรับกรณีของฐิติกร เองนั้น การให้สินเชื่อภายในประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าสิ้นปีลูกหนี้เช่าซื้อรวมจะโตไม่น้อยกว่า 10% จากเดิมที่ตั้งเป้า 5% ส่วนกำไรครึ่งปีแรกทรงตัวที่ 215 ล้านบาท สินเชื่อขยายตัว 3.4% ซึ่งเติบโตกว่าตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศเกิน 5 เท่าตัว ปัจจุบันบริษัทมีลูกหนี้เช่าซื้อ 3 แสนราย ขณะที่ครึ่งปีแรก 2559 ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศเติบโต 0.63% ที่ 9.1 แสนคัน
"โลจิสติกส์" เดินหน้าลงทุน
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD ) กล่าวว่า บริษัทยังคาดการณ์รายได้ปี 2559 เติบโต 7% จากปีก่อนที่ปิดตัวเลข 2,384 ล้านบาท แม้ในช่วงครึ่งปีแรกผลประกอบการจะปรับตัวลดลง และมีเรื่องการประมงผิดกฎหมายทำให้ธุรกิจห้องเย็นมีลูกค้าที่เป็นประเภทสัตว์ทะเลลดลงค่อนข้างมาก แต่ในครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ และบริษัทจะมีการขยายงานเพิ่มมากขึ้น และทำให้คาดว่าความต้องการเช่าคลังสินค้าจะเริ่มกลับมาอย่างเด่นชัด รวมถึงภาวะเศรษฐกิจในประเทศเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น
ด้านการขยายธุรกิจ บริษัทมีแผนเจรจาเข้าซื้อกิจการธุรกิจห้องเย็นในประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีขนาดพื้นที่ 3 หมื่นตารางเมตร และมีอัตราการเช่าพื้นที่คิดเป็น85% โดยตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1,500-2,000 ล้านบาท และมีโอกาสจะซื้อค่อนข้างมาก เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นลูกค้าที่บริษัทยังมีค่อนข้างน้อย คาดว่าจะได้ข้อสรุปการซื้อกิจการภายในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนธุรกิจห้องเย็นในประเทศเวียดนาม พื้นที่ 2 หมื่นตารางเมตร อยู่ระหว่างเจรจาเข้าไปร่วมถือหุ้น เป็นโครงการใหม่เพิ่งเริ่มก่อสร้าง และคาดว่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเข้าไปร่วมลงทุนหรือไม่ภายในปีนี้
“COL”ยืนเป้ารายได้ทะลุหมื่นล้าน
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีโอแอล ( COL) กล่าวว่าจากภาพรวมเศรษฐกิจที่มีทิศทางดีขึ้นคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทดีกว่าไตรมาส 2 ที่มีรายได้รวม 2.788 พันล้านบาท มีกำไรสุทธิ 62 ล้านบาท โดยไตรมาส 2 เป็นช่วงโลว์ซีซันของบริษัท
บริษัทคงเป้ารายได้ปีนี้โต 10% จากปี 2558 ที่มีรายได้ 1.08 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 393.70 ล้านบาท ในปีนี้บริษัทจะเปิดสาขาใหม่เป็นสาขาออฟฟิศเมทเกือบ 10 สาขา ซึ่งครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 4 สาขา และมีแผนปรับสาขาของออฟฟิศเมทให้มีขนาดเล็กลง รองรับอนาคตจะเปิดขายแฟรนไชส์คาดว่าน่าจะเริ่มได้ในปี 2561 ส่วนการเปิดสาขา B2S ปีนี้จะเปิด 6 สาขา โดยเปิดไปแล้ว 3 สาขา และจะเน้นปรับปรุงสาขาเดิมซึ่งตั้งงบลงทุนไว้ 500 ล้านบาท
นายวรวุฒิ กล่าวถึงความคืบหน้าในการเปิดสาขา B2S ในประเทศเวียดนามที่โฮจิมินห์ คาดว่าจะเปิดได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะใช้งบลงทุน 40-50 ล้านบาท และจากที่กลุ่มเซ็นทรัลเข้าซื้อกิจการบิ๊กซีเวียดนาม ทำให้ในอนาคตบริษัทมีแผนเปิดสาขาในบิ๊กซีเวียดนามให้ครบ โดยบิ๊กซีเวียดนามปัจจุบันมี 30 สาขา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,184 วันที่ 18 - 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559