ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสสองกำไร เติบโต 111 %

16 ส.ค. 2559 | 09:19 น.
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสสองกำไร เติบโต 111 %
รับรู้รายได้  720.8 ล้านบาท มั่นใจทั้งปีทะลุเป้า 2.4 พันล้านบาท

บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้  จำกัด (มหาชน) (LALIN)  ประกาศผลประกอบการไตรมาสสองปี 2559 เติบโตโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง มียอดรับรู้รายได้ที่ 720.8 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 63.7 % กำไรสุทธิแตะระดับ 139.7 ล้านบาท เติบโต 111 % มั่นใจผลประกอบการทั้งปีทะลุเป้ า 2.4 พันล้านบาท หรือเติบโต 15% ปัจจุบันเปิดแล้ว 5 โครงการ  เตรียมแผนโครงการใหม่เพิ่มอีก 4โครงการช่วงที่เหลือของปีนี้  รวมทั้งปีทะลุเป้า 9 โครงการ มูลค่า 4 พันล้านบาท

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) หนึ่งในผู้นำโครงการอสังหาริ มทรัพย์มายาวนานกว่า 29ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี”  เปิดเผยว่า แม้ว่าภาพรวมทางด้านเศรษฐกิ จในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายั งคงชะลอตัว แต่บริษัทยังคงรั กษาผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่ อง ทั้งในแง่ของตัวเลขรับรู้รายได้ ที่ในไตรมาสที่ 2/2559เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่ อนกว่า 63% มาอยู่ที่ระดับ 720.8 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทยังมี ความสามารถในการบริหารจัดการต้ นทุนที่ดี ทั้งต้นทุนที่ดิน การก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายด้านการขายและการบริ หาร ตลอดจนค่าใช้จ่ายทางด้านการเงิน ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสสองนี้ เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่ อนถึง 111% มาอยู่ที่ระดับ 139.7 ล้านบาท

ในส่วนของยอดขายใหม่ในครึ่งปี แรก บริษัทสามารถทำยอดขายได้แล้ว  2,000 ล้านบาท ส่งผลให้มียอดขายรอรับรู้รายได้ ในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ950 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด จึงทำให้มีความมั่นใจว่าบริษั ทจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ ได้มากว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่ อต้นปีที่ 2,400 ล้านบาท

สำหรับการขยายธุรกิจในช่วงต้นปี จนถึงปัจจุบันนั้น บริษัทเปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้ งสิ้น 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2,500 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทเตรียมที่จะเปิ ดโครงการใหม่อีก 4 โครงการในช่วงที่เหลือของปี 2559 และมั่นใจว่าทั้งปีนี้บริษั ทจะสามารถเปิดโครงการใหม่ได้ทั้ งสิ้น 9 โครงการ ในปีนี้ มูลค่ารวมกว่า4,000 ล้านบาท ซึ่งมากว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8 โครงการ

"บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่ อง และมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างดี  เพราะในการบริหารงานเรามีกลยุ ทธ์การวางแผนที่ชัดเจน และเตรียมพร้อมที่จะรับมือกั บสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้ผลงานในไตรมาสสองของปีนี้ เพิ่มขึ้นมาก  ขณะที่ไตรมาสที่สาม บริษัทมีแผนงานที่ดีมารองรับแล้ ว จึงมั่นใจว่าจะขยายตัวได้เช่ นเดียวกัน และทั้งปีเราจะมียอดรับรู้ได้ รายได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้ งไว้ที่ 2,400 ล้านบาท” นายไชยยันต์ กล่าว

นายไชยยันต์ กล่าวว่า บริษัทยังคงรักษาความแข็งแกร่ งทางด้านการเงินที่ดีมาอย่ างยาวนานมากกว่ายี่สิบปี โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2559 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่เพียงแค่ 0.78 เท่า ต่ำกว่าอุตสาหกรรมซึ่งมีค่าเฉลี่ ยอยู่ที่เกือบ 1.5 เท่า ตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าศั กยภาพในการขยายธุรกิจยั งสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกมาก

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่ อวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติให้มีการจ่ายเงิ นปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.125 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD  30 สิงหาคม 2599 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 14 กันยายน2559 เมื่อรวมกับเงินปันผลที่จ่ ายไปแล้วในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ 0.135 บาท รวมเป็นเงินปันผลที่จ่ายในปีนี้ แล้วทั้งสิ้น 0.26 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปั นผล (Dividend Yield) ที่ประมาณ 6.4 %