บิ๊กอสังหาฯปิดครึ่งแรกอู้ฟู่ พฤกษาแชมป์ยอดขาย/แลนด์แอนด์เฮ้าส์กำไรนำ
อสังหาฯ เปิดผลประกอบการครึ่งแรกปี59 พบกำไรถ้วนหน้า พฤกษา โชว์ตัวเลขยอดขายสวนกระแสเศรษฐกิจ 2.16 หมื่นล้านบาท ด้านเอพีรายได้รวมลด แต่ยังมั่นใจกลยุทธ์ “สร้างความแตกต่างด้วยคุณภาพ” ช่วยกวาดรายได้ตามเป้าที่ 2.37 หมื่นล้านบาทได้แน่นอนโกลเด้นแลนด์ ม้ามืดครึ่งปีกวาดรายได้เกินครึ่งของเป้าทั้งปี 1 หมื่นล้านบาท
ขณะนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯทยอยแจ้งผลประกอบการประจำไตรมาส 2 และครึ่งแรกปี 2559 และจากการรวบรวมข้อมูลของ “ฐานเศรษฐกิจ” พบว่า บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์สูงสุดคือ 2.39 หมื่นล้านบาท แต่สำหรับบริษัทที่มีกำไรสูงสุดก็ยังคงเป็นบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
[caption id="attachment_86424" align="aligncenter" width="700"]
ผลประกอบการครึ่งแรกปี 2559[/caption]
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการในรอบครึ่งแรกปี 2559 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 2.39 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มีรายได้ 2.18 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 3,059 ล้านบาท โดยผลประกอบการในครึ่งปีแรกที่เพิ่มขึ้น มาจากรายได้จากการโอนคอนโดมิเนียม เช่น พลัมคอนโด พหลโยธิน 89, พลัมคอนโด พาร์ค รังสิต, ฟิวส์ จันทน์-สาธร และฟิวส์ มิติ สุทธิสาร-รัชดา รวมถึงการโอนในกลุ่มทาวน์เฮาส์ที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคอนโดมิเนียมเติบโต 39.7% และทาวน์เฮาส์เติบโต 4.4%
"สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 คาดว่าจะมูลค่ารวมประมาณ 3.83 แสนล้านบาท เติบโต 8% จากปีก่อนที่มีมูลค่าประมาณ 3.55 แสนล้านบาท
ด้านนายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในครึ่งปีแรกบริษัท มียอดขาย 2.16 หมื่นล้านบาท ลดลง 9.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 2.4 หมื่นล้านบาท โดยมีการเปิดโครงการไปแล้ว 27 โครงการ มูลค่ารวม 1.96 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในครึ่งปีหลังจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 33 - 38 โครงการมูลค่าประมาณ 3.04 - 3.44 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้บริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 2.37 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปี 2559 จำนวน 1.12 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งมีโครงการที่อยู่ระหว่างขาย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559 รวม 168 โครงการ มูลค่า 7.61 หมื่นล้านบาท ทำให้มั่นใจได้ว่าในปี 2559 บริษัทจะสามารถทำยอดขายและรายได้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 5.1 หมื่นล้านบาท และ 5.3 หมื่นล้านบาท
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก บริษัท มีรายได้รวมเท่ากับ 8,602 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ที่มีรายได้รวมประมาณ 1.04 หมื่นล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิเท่ากับ 981 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม บริษัทมีสินค้ารอรับรู้รายได้ 1.28 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบ มูลค่า 3,210 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียม มูลค่า 9,624 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปีนี้มูลค่าประมาณ 4,633 ล้านบาท และส่วนที่เหลือในปี 2560-2561
สำหรับยอดขาย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2559 บริษัทมียอดขายรวมเท่ากับ 1.32 หมื่นล้านบาท และในช่วงไตรมาส 3-4 บริษัทมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ 13 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแนวราบ 10 โครงการ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ และทาวน์โฮม 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1.08 หมื่นล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1.52 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยเปิดตัวตามแผนที่วางไว้ และเชื่อว่าจะสามารถสร้างยอดขายและรายได้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 3.1 หมื่นล้านบาทและ 2.37 หมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เป็นไปในทิศทางที่ดี บริษัทสามารถทำรายได้รวม 5,269 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 50% จากเป้าหมายรายได้รวม 1 หมื่นล้านบาท เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์จำนวน 4,697.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,638.84 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.6% แม้จะเปิดโครงการแนวราบไปเพียง 5 โครงการ จากแผนการเปิดโครงการในปีนี้ทั้งหมด 15 โครงการ ในส่วนของกำไรรวม 6 เดือน อยู่ที่ 560.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 323.24 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 136.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 นอกจากนี้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ซึ่งมีผู้เช่าพื้นที่แล้วกว่า 70% บริษัทจึงยังมีความมั่นใจว่าจะสามารถรับรู้รายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,184 วันที่ 18 - 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ขณะนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯทยอยแจ้งผลประกอบการประจำไตรมาส 2 และครึ่งแรกปี 2559 และจากการรวบรวมข้อมูลของ “ฐานเศรษฐกิจ” พบว่า บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์สูงสุดคือ 2.39 หมื่นล้านบาท แต่สำหรับบริษัทที่มีกำไรสูงสุดก็ยังคงเป็นบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
[caption id="attachment_86424" align="aligncenter" width="700"]
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการในรอบครึ่งแรกปี 2559 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 2.39 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มีรายได้ 2.18 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 3,059 ล้านบาท โดยผลประกอบการในครึ่งปีแรกที่เพิ่มขึ้น มาจากรายได้จากการโอนคอนโดมิเนียม เช่น พลัมคอนโด พหลโยธิน 89, พลัมคอนโด พาร์ค รังสิต, ฟิวส์ จันทน์-สาธร และฟิวส์ มิติ สุทธิสาร-รัชดา รวมถึงการโอนในกลุ่มทาวน์เฮาส์ที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคอนโดมิเนียมเติบโต 39.7% และทาวน์เฮาส์เติบโต 4.4%
"สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 คาดว่าจะมูลค่ารวมประมาณ 3.83 แสนล้านบาท เติบโต 8% จากปีก่อนที่มีมูลค่าประมาณ 3.55 แสนล้านบาท
ด้านนายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในครึ่งปีแรกบริษัท มียอดขาย 2.16 หมื่นล้านบาท ลดลง 9.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 2.4 หมื่นล้านบาท โดยมีการเปิดโครงการไปแล้ว 27 โครงการ มูลค่ารวม 1.96 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในครึ่งปีหลังจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 33 - 38 โครงการมูลค่าประมาณ 3.04 - 3.44 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้บริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 2.37 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปี 2559 จำนวน 1.12 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งมีโครงการที่อยู่ระหว่างขาย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559 รวม 168 โครงการ มูลค่า 7.61 หมื่นล้านบาท ทำให้มั่นใจได้ว่าในปี 2559 บริษัทจะสามารถทำยอดขายและรายได้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 5.1 หมื่นล้านบาท และ 5.3 หมื่นล้านบาท
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก บริษัท มีรายได้รวมเท่ากับ 8,602 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ที่มีรายได้รวมประมาณ 1.04 หมื่นล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิเท่ากับ 981 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม บริษัทมีสินค้ารอรับรู้รายได้ 1.28 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบ มูลค่า 3,210 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียม มูลค่า 9,624 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปีนี้มูลค่าประมาณ 4,633 ล้านบาท และส่วนที่เหลือในปี 2560-2561
สำหรับยอดขาย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2559 บริษัทมียอดขายรวมเท่ากับ 1.32 หมื่นล้านบาท และในช่วงไตรมาส 3-4 บริษัทมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ 13 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแนวราบ 10 โครงการ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ และทาวน์โฮม 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1.08 หมื่นล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1.52 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยเปิดตัวตามแผนที่วางไว้ และเชื่อว่าจะสามารถสร้างยอดขายและรายได้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 3.1 หมื่นล้านบาทและ 2.37 หมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เป็นไปในทิศทางที่ดี บริษัทสามารถทำรายได้รวม 5,269 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 50% จากเป้าหมายรายได้รวม 1 หมื่นล้านบาท เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์จำนวน 4,697.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,638.84 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.6% แม้จะเปิดโครงการแนวราบไปเพียง 5 โครงการ จากแผนการเปิดโครงการในปีนี้ทั้งหมด 15 โครงการ ในส่วนของกำไรรวม 6 เดือน อยู่ที่ 560.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 323.24 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 136.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 นอกจากนี้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ซึ่งมีผู้เช่าพื้นที่แล้วกว่า 70% บริษัทจึงยังมีความมั่นใจว่าจะสามารถรับรู้รายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,184 วันที่ 18 - 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559