ธุรกิจไทย-เวียดนาม เผย 6 เดือนแรก ไทยก้าวขึ้นเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของเวียดนามในกลุ่มอาเซียน ประกาศตั้งทีม Thailand Plus ก.ย.นี้ หวังเร่งขยายความร่วมมือทางการค้าการลงทุน ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้า 2 ชาติขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 ขณะที่กลุ่มเซ็นทรัลประกาศขยายการลงทุนในเวียดนามต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำ 10% ต่อปี
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ไทยเป็นคู่ค้าดับ 1 ของเวียดนามในกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยมูลค่าการส่งออกของไทยไปเวียดนามกว่า 5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคาดการณ์ในปี 2559 การค้าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 7% หรือมีมูลค่าประมาณ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการลงทุนทางตรงของไทยในเวียดนามตัวเลขสะสม ณ ปัจจุบัน อยู่ในอันดับที่ 11 ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเข้าไปลงทุนของบริษัทเอกชนไทยขนาดใหญ่หลายราย เช่น กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มปูนซิเมนต์ไทย เครือบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ฯ กลุ่มอมตะคอร์ปอเรชั่น และบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวงฯ เป็นต้น
นายสนั่นกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าการลงทุนประเทศเวียดนาม ,สภาธุรกิจไทย-เวียดนาม ,และกลุ่มเซ็นทรัล เวียดนาม ได้ตกลงร่วมกันที่จะจัดตั้งทีม Thailand Plus โดยมีเอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนามเป็นหัวหน้าทีมภาครัฐ และประธานสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม เป็นหัวหน้าทีมภาคเอกชน เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างไทยและเวียดนาม พร้อมทั้งนำเสนอ ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพื่อให้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ พิจารณา โดยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้า 2 ประเทศ ให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563 จากปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดในเดือนกันยายนนี้จะมีการเปิดตัวทีมอย่างเป็นทางการ
สำหรับกรณีที่ไทยยังไม่แสดงท่าทีว่าจะเข้าร่วมการตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือทีพีพี นั้นต้องบอกว่าถ้าไทยยังไม่มีทีท่าที่ชัดเจนว่าจะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมไทยเองอาจจะเสียเปรียบเวียดนามที่ได้เข้าร่วมทีพีพีแล้ว และขณะนี้ธุรกิจไทยเองเข้าไปขยายฐานการลงทุนที่เวียดนามมากขึ้นเพื่อรองรับสิทธิพิเศษจากความตกลงทีพีพีที่จะมีผลบังคับใช้ในอนาคต
อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการส่งเสริมบริษัทท้องถิ่นของคนเวียดนามให้ส่งสินค้าและอาหารมาขายในไทยมากขึ้น สภาธุรกิจไทย-เวียดนามได้ร่วมกับฝ่ายพาณิชย์ของสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย จัดงานแสดงสินค้าขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 สิงหาคมนี้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ โดยจุดมุ่งหมายของสภาธุรกิจไทย-เวียดนามต้องการยกระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้าเวียดนามให้สูงขึ้น เพื่อให้เวียดนามสามารถส่งออกไปทั่วโลกได้มากขึ้น และส่งเสริมเอสเอ็มอีจากเวียดนามให้จับคู่ธุรกิจกับเอสเอ็มอีไทย
นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ ผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลและธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า จากที่ทางกลุ่มได้เข้าไปลงทุนในเวียดนามตั้งแต่ปี 2554 โดยเปิดร้านค้าปลีกซูเปอร์สปอร์ต เปิดห้างสรรพสินค้า ร่วมกับกลุ่มเหงียนคิมซื้อกิจการบิ๊กซีในเวียดนาม และเข้าซื้อกิจการซาโลร่าเวียดนาม ทำให้เห็นโอกาสที่จะนำสินค้าไทยไปจำหน่ายในเวียดนามและนำสินค้าเวียดนามกลับมาขายในประเทศไทย โดยกลุ่มเซ็นทรัลมองว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าขนาดของเศรษฐกิจในประเทศเวียดนามจะเทียบเท่ากับประเทศไทย หลังในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดสูงถึง 3 เท่าตัว ขณะที่ในปัจจุบันขนาดเศรษฐกิจของเวียดนาม เทียบเท่ากับ 10% ของเศรษฐกิจไทยแล้ว ดังนั้น จึงมีแผนขยายการลงทุนในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าอัตราเติบโตของรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10 %ต่อปี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,183 วันที่ 14 - 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559