‘โรงพยาบาลราชธานี’ ระดมทุนไอพีโอสานเป้า 500 เตียง

16 ส.ค. 2559 | 09:00 น.
หลังใช้เวลาเตรียมตัว 2 ปี ก็ถึงเวลาที่บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด(มหาชน)(บมจ.)( RJH) บุกเข้ากรุงมุ่งหน้าสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET )ช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ตามคำชวนของตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 2556 ซึ่งเป็นจังหวะที่โรงพยาบาล ณ เมืองกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ต้องการเงินทุนก้อนใหญ่ เพื่อขยายงานสำหรับรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มศักยภาพในการรักษาจากปัจจุบันมีขนาดเตียงรวม 353 เตียง ให้บริการรักษาโรคแก่ผู้ป่วยทั่วไป และผู้ป่วยตามโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพของภาครัฐ

ดีดลูกคิดเสร็จสรรพถึงเงินทุนที่ต้องใช้ จึงมาลงเอยที่การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ให้กับประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ)จำนวน 74.99 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 225 ล้านบาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว

”นพ.วชิระ วุฒิกุลประพันธ์ “ กรรมการผู้จัดการ บมจ.โรงพยาบาลราชธานี ให้สัมภาษณ์“ฐานเศรษฐกิจ ”ว่า การระดมทุนในตลาดหุ้นครั้งนี้ เพื่อสานเป้าหมายการเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในภาคกลางตอนล่าง เงินที่ได้จากการระดมทุนแบ่งเป็น 3 ส่วนดังนี้

ส่วนแรก ใช้ลงทุนในโครงการเครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging : MRI) เป็นการร่วมลงทุนกับผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์ โดยพันธมิตรจะเป็นผู้จัดหาเครื่องมือและบุคคลากรทางการแพทย์ มูลค่าประมาณ 40-50 ล้านบาท ขณะที่บมจ.โรงพยาบาลราชธานี เป็นฝ่ายก่อสร้างตึกประมาณ 1-2 ชั้น เพื่อเป็นสถานที่ให้บริการ MRI มูลค่าลงทุนประมาณ 10-20 ล้านบาท

ทั้งนี้ศูนย์ MRI ใช้รองรับการให้บริการทั้งคนไข้ของโรงพยาบาลราชธานี โรงพยาบาลราชธานี โรจนะ และโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง การลงทุนดังกล่าวจะช่วยให้การวินิจฉัยและตรวจรักษาคนไข้มีความถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ภายใน ปี 2560 ตั้งเป้าระยะแรกมีผู้ใช้บริการ 20 รายต่อเดือน และมีศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยได้ถึง 150 รายต่อเดือน

ส่วนที่ 2 เป็นการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อขยายอาณาจักร ลดความแออัดของการให้บริการจากการเติบโตของจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลราชธานีต่อเนื่อง โดยจะสร้างอาคารใหม่ 9 ชั้น ในพื้นที่เดิมของโรงพยาบาลราชธานี เพื่อรองรับผู้ป่วยเงินสด ผู้ป่วยเด็ก รวมทั้งการให้บริการตรวจสุขภาพแบบครบวงจร ใช้เงินลงทุน 600 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างปี 2560-2562 มีจำนวน 120 เตียง โดย 4 ชั้นแรก ใช้สำหรับรองรับผู้ป่วยนอก (OPD) ถัดขึ้นไปอีก 5 ชั้น ใช้รองรับการรักษาผู้ป่วยใน (IPD)

ส่วนที่ 3 ขยายกิจการโรงพยาบาลราชธานี โรจนะ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน เพิ่มจำนวนห้องตรวจผู้ป่วยนอก การเปิดคลินิกและศูนย์การแพทย์ต่างๆ เพิ่มเติม รวมทั้งเพิ่มจำนวนแพทย์ เพื่อรองรับความต้องการรับการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ใช้งบลงทุน 52 -100 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2561

“ปัจจุบันโรงพยาบาลเรายังใช้ศักยภาพไม่เต็มที่ และจาก 3 โครงการที่กล่าวมาทั้งหมด จะต้องใช้เงินรวมประมาณ 660-720 ล้านบาท คาดว่าปี 2563 ทั้ง 2 โรงพยาบาลจะมีจำนวนเตียงรวมกันเกือบ 500 เตียง หรือมีขนาดใหญ่เกือบเท่ากับโรงพยาบาลประจำจังหวัด“

นพ.วชิระ กล่าวว่า โรงพยาบาลราชธานี และโรงพยาบาลราชธานี โรจนะ อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ คือ อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม 5 แห่ง และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี )ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ

ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาล แบ่งเป็นลูกค้าทั่วไปที่ใช้เงินสด 49.7% และกลุ่มลูกค้าตามโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐ หรือ ใช้บัตรประกันสังคม 50.3% ตั้งเป้าภายในปี 2562 สัดส่วนลูกค้าเงินสด จะเพิ่มขึ้นเป็น 60% ส่วนลูกค้าที่ใช้บัตรประกันสังคมจะลดลงเหลือ 40% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจ และคาดหวังในอนาคตสัดส่วนจะเป็น 70 % และ 30 % ตามลำดับ
สำหรับลูกค้าประกันสังคมปัจจุบันมีจำนวน 1.4 แสนคน สามารถรับได้เต็มที่ 1.6 แสนคน การมีสัดส่วนลูกค้าโครงการประกันสังคม จะทำให้โรงพยาบาลสามารถบริหารความเสี่ยงในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้

“แม้เราเป็นโรงพยาบาล 2 สิทธิ์ คือ เงินสดและประกันสังคม แต่อัตรากำไรสามารถทำได้เท่ากับโรงพยาบาลสิทธิ์เดียว “

น.พ.วชิระ ให้ข้อมูลว่า กำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) เมื่อรวม 2 โรงพยาบาล คือ โรงพยาบาลราชธานี และโรงพยาบาลราชธานี โรจนะ อยู่ที่อัตรา 13-14 % ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีเมื่อเทียบกับโรงพยาบาลที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

สำหรับผลประกอบการปี 2559 นี้ คาดการณ์รายได้รวมเติบโต 10- 15% โดยปี 2558 มีรายได้รวม 1,034.91 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 63.77 ล้านบาท ขณะที่งวดไตรมาส1 ปี2559 มีรายได้รวม 298.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 39.01 ล้านบาท

โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บมจ.โรงพยาบาลราชธานี ประกอบด้วย กลุ่มประสิทธิ์หิรัญ ถือหุ้น 32.68% ภายหลังการขายหุ้นไอพีโอ ลดสัดส่วนเหลือ 24.51% กลุ่มวุฒิกุลประพันธ์ ถือหุ้น 14.51% หลังไอพีโอเหลือ 10.88% กลุ่มโรงพยาบาลวิภาราม ถือหุ้น 10.58% หลังไอพีโอเหลือ 7.94% บริษัท ธนบุรีเฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ซึ่งมีนายแพทย์บุญ วนาสิน เป็นประธานกรรมการ ถือหุ้น 9.43% ภายหลังการขายหุ้นไอพีโอลดสัดส่วนเหลือ 7.07% และกลุ่มศรีโภชนย์สมบูรณ์ ถือหุ้น 3.98% หลังไอพีโอลดเหลือ 2.99%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,183 วันที่ 14 - 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559