ชูนวัตกรรมสินค้าโกยยอด 'ยินตัน-เอส-เป๊ปซี่' เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มัดใจคนรุ่นใหม่

11 ส.ค. 2559 | 01:00 น.
ชู “นวัตกรรม” กลยุทธ์ต่อยอดธุรกิจสร้างรายได้ สร้างแบรนด์ “ยินตัน” เผยคีย์ซักเซส หลังรีแบรนด์หวนทำตลาดลอนช์ยาสีฟันชนิดนํ้ารายแรก ล่าสุดเพิ่มไซซ์ 80 มล. เจาะช่องทางร้านสะดวกซื้อ เน้นพกพาสะดวก เหมาะกับชีวิตคนเมือง ด้าน “เอส” ยํ้าอินโนเวชันส่งเครื่องดื่มสไตล์เกาหลี“โคเรียน ออเร้นจ์ โคล่า” หวังเพิ่มอัตราการดื่มจาก 39% เป็น 51% ขณะที่ “เป๊ปซี่” ส่งเครื่องดื่มสปาร์กลิ้งใสผสมวิตามิน “อควาฟิน่า วิตซ่า” เอาใจคนรุ่นใหม่

นายนริศ วิทยาวรากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยยินตัน จำกัด จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ ยาอมยินตัน ยาสีฟันชนิดน้ำ ยินตัน นู้ด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปัจจุบันการพัฒนาสินค้าออกมาทำตลาดจะต้องมุ่งเน้นในเรื่องนวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผู้บริโภค เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันในตลาดมีสูง จึงต้องสร้างความแตกต่างในเรื่องนวัตกรรม เพราะถือว่าเป็นปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญประการหนึ่งในการทำตลาด นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดอื่นๆ ซึ่งแนวทางการทำธุรกิจจะมุ่งเน้นในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน

โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ออกสินค้ายาสีฟันชนิดน้ำมาทำตลาด ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้วางไว้คาดว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะทำยอดขายได้ 250-300 ล้านบาท ล่าสุดยังได้ออกสินค้าขนาด 80 มิลลิลิตรออกมาทำตลาดเจาะช่องทางร้านสะดวกซื้อ ได้แก่ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท และโลตัส เอ็กเพรส เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้สินค้า และเพื่อความสะดวกของผู้บริโภคในการพกพาด้วย ซึ่งในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ บริษัทจะจัดแคมเปญฉลองครบรอบ 1 ปีของการเปิดตัวสินค้ายาสีฟันชนิดน้ำ โดยเตรียมจัดแคมเปญซื้อ 1 แถม 1 ทั้งสินค้าขนาดปกติ และขนาดพกพา

"นอกจากการทำตลาดแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นสื่อโฆษณาต่างๆ และสื่อออนไลน์แล้ว การพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรม ถือเป็นคีย์ซักเซสสำคัญของการทำตลาดในปัจจุบัน เพราะผู้บริโภคต้องการสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และแนวทางการพัฒนาสินค้าออกมาขายของบริษัท ก็ต้องเป็นสินค้านวัตกรรม ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำตลาดยาอมนู้ด ซึ่งเป็นลูกอมที่จะละลายได้ในแต่ละส่วนของร่างกาย เพราะวัตถุดิบแต่ละอย่างจะทำปฏิกิริยากับสารในร่างกายไม่เหมือนกัน เช่น ละลายในปาก ละลายในกระเพาะ เป็นต้น ในปีหน้าบริษัทก็เตรียมออกสินค้าใหม่ที่เป็นกลุ่มลูกอมมาทำตลาดเพิ่มเติมด้วย"

ด้านนายวิเวก ชาห์บรา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด ในเครือไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตเครื่องดื่มอัดลม "เอส" เปิดเผยว่า หลังจากช่วงต้นปีทีผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวเครื่องดื่มนวัตกรรม เอส เพลย์"เกรปเบอร์รี่" และได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สามารถสร้างสถิติยอดขายให้เอส เพลย์เพิ่มขึ้นถึง 18% ล่าสุดบริษัทได้ต่อยอดความสำเร็จดังกล่าวไปสู่เครื่องดื่มใหม่กับ "เอส โคเรียน ออเร้นจ์ โคล่า" นวัตกรรมเครื่องดื่มสไตล์เกาหลีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความหวานสดชื่นของส้มเชจูผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงอีกชนิดหนึ่งของเกาหลี ผสานกับความซ่าสุดขั้วของโคล่ากลายเป็นความหอมอร่อยชื่นใจที่เข้ากันอย่างลงตัว

"การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของเอสในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จในการเพิ่มอัตราการดื่มเอสเป็นประจำที่เพิ่มขึ้นจาก 39% เป็น 51% และเพื่อขยายฐานให้เอสเป็นแบรนด์เลิฟของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่พันธุ์ซ่าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เพิ่มขึ้น ภายใต้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ในการสร้างแบรนด์ ซึ่งประกอบไปด้วย การชูกลยุทธ์ Happening ด้วยการดึงบอยแบนด์ "GOT7" นั่งแท่นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์เสริมแบรนด์อิมเมจ,การเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ลาย GOT7 และการนวัตกรรมเครื่องดื่มโคล่ารสชาติใหม่"

ส่วนฟากคู่แข่งหลักอย่างเป๊ปซี่ ก็ได้ปล่อยหมัดเด็ดออกมาเจาะตลาดเครื่องดื่มอัดลมเช่นกัน กับนวัตกรรมเครื่องดื่มอัดลมใหม่ในชื่อ "อควาฟิน่า วิตซ่า" (Aquafina® Vit Zaa) เครื่องดื่มสปาร์กลิ้งใสผสมวิตามินแนวใหม่ เข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอเครื่องดื่มเพื่อเจาะตลาดในเซ็กเมนต์ใหม่ที่อยู่ระหว่างตลาดน้ำอัดลมซึ่งมีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาทและตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดมูลค่า 3.1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของเป๊ปซี่ดังกล่าวเพื่อตอบสนองความต้องการและนำเสนอทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคในกลุ่มต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการต่อยอดนวัตกรรมมาจากแบรนด์น้ำดื่มบรรจุขวด “อควาฟิน่า” (Aquafina®) ในประเทศไทยที่ได้มีการเปิดตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้นายสมชัย เกตุชัยโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมทุ่มงบประมาณ 200 ล้านบาทในช่วงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสร้างแบรนด์ อควาฟิน่า วิตซ่า ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ภายใต้แคมเปญ ‘อควาฟิน่า วิตซ่า อร่อยซ่า…มีดีกว่าที่คิด’ ด้วยกิจกรรมการตลาดแบบ 360 องศา นำโดยภาพยนตร์โฆษณาเปิดตัวที่นำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มสุดฮอตอย่าง เจมส์จิ – จิรายุ ตั้งศรีสุข ในฐานะแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนแรก นอกจากนี้ เรายังเตรียมเสริมทัพด้วยสื่อสนับสนุนต่างๆ อีกมากมาย อาทิ สื่อกลางแจ้ง สื่อ ณ จุดขายและในร้านค้า รวมทั้งการสร้างเอนเกจเมนต์กับผู้บริโภคผ่านกิจกรรมบนดิจิตอลแพลตฟอร์ม"

ขณะที่นางสาวบุษยา ประกอบทอง ผู้จัดการทั่วไปบริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือนีโอ กล่าวว่า สินค้าที่มีนวัตกรรมถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยพบว่าในการจัดงานอินเตอร์แคร์ เอเชีย 2016 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้า นวัตกรรมด้านสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ โดยจัดขึ้นเป็นปีแรก มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 5,000 คน และมีการเจรจาธุรกิจรวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าสินค้านวัตกรรมมีความสำคัญ และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค

โดยสินค้านวัตกรรมที่นำมาโชว์ในงาน อาทิ Application TTRS Video การสื่อสารสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน ผ่านโทรศัพท์ Smart Phone และ Tablet ทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ซึ่งจะทำให้ผู้พิการทางการได้ยินสามารถใช้บริการถ่ายทอดการสื่อสารในแบบ Mobility คือสามารถใช้บริการล่ามภาษามือออนไลน์ได้ทุกที่ทุกความต้องการ ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆ ได้ , Eartone เครื่องช่วยฟัง , นาฬิกาติดตามผู้สูงอายุ จะคอยรายงานความเคลื่อนไหวของผู้สูงอายุขณะที่สวมใส่ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถกดปุ่มสีเหลือง ระบบจะแจ้งและส่งข้อมูลไปยัง Call Center ในทันที , รถเข็นวิลแชร์ นำเข้าจากญี่ปุ่น น้ำหนักเบา , SenzE อุปกรณ์ช่วยในการสื่อสาร ผ่านทางสายตา สำหรับผู้ป่วยที่สื่อสารลำบาก เป็นเทคโนโลยี Eye Tracking System หรือการใช้สายตาโดยการกระพริบตาสั่งการแทนการใช้เมาส์ เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,182 วันที่ 11 - 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559