รอบด้านตลาดหุ้น by  Bualuang Securities  

09 ส.ค. 2559 | 03:45 น.
 

Take a breath

เมื่อวาน กลุ่มหุ้นฝรั่ง+กองทุน (แบงก์ รับเหมาฯ มือถือ การท่า ฯลฯ) แรลรี่รับข่าวผลลงประชามติรับร่างฯ ดันดัชนีฯบวกแรง ตามคาด

วันนี้ คาดเปิดบวกแล้วย่อลงเพื่อปิด GAP ก่อนจะเล่นขึ้นต่อ แนวรับ 1,530 จุด แนวต้าน 1,550 จุด คาดหุ้นตัวรองในประเทศ (Local play) มีแนวโน้มสลับขึ้นเล่นส่วนหุ้นใหญ่ยืน ค้ำดัชนีฯ

ระยะสัปดาห์ (เล่นรอบ) คาดยังไม่มี New high เกิน 1,550 จุด กรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้ คาด 1,505-1,550 จุด

แนวโน้มรายเดือน คาดครึ่งแรกของเดือน สค.จะซิ๊กแซกขึ้น แนวต้าน 1,550 จุด ก่อนจะปรับฐานตามมา 3-5% เมื่อไม่ผ่านแนวต้าน ปัจจัยลบ ยังคงเป็นดัชนีฯหุ้นไทยเข้าโซน PE +2SD (กำไรวิ่งตามราคาหุ้นไม่ทัน) แรงซื้อต่างชาติในครึ่งเดือนหลังคาดชะลอลงจาก การรอดูท่าที FED ในงาน Economic symposium ที่ Jackson Hole 25-27 สค.นี้ รวมถึง BOJ ชะลอเพิ่ม QE เพื่อรอประเมินผล QE ที่ออกไปก่อนหน้านี้ ส่วน MSCI รอบนี้ จับตาหุ้นมีโอกาสถูกเพิ่มเข้าคำนวณ เช่น BJC TASCO พิจารณาจากปริมาณการซื้อขาย และมูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

หุ้นแนะนำวันนี้ หุ้นตัวรองกำไรเด่นแนะ BSBM กำไรครึ่งปีแรก 204 ล้านบาท โดย 2Q16 รายงานกำไรสุทธิ 134 ล้านบาท กำไรครึ่งปีแรกเกินที่ SAA Consensus คาดทั้งปีที่ 200 ล้านบาท แล้ว (สะท้อน PE ต่ำกว่า 5 เท่า) และประกาศปันผลระหว่างกาลอีก 0.08 บาท XD 18 สค. คิดเป็นผลตอบแทน 5.6% (Annualize dividend yield 11%),

หุ้น High yield stock แนะ EGCO รายงานกำไรหลัก 2Q16 ที่ 2.3 พันล้านบาท -11% y-y, +15% q-q ดีตามคาด เราคาดว่าจะประกาศปันผลระหว่างกาล 3 บาท/หุ้น, TOP คาดจะปันผลระหว่างกาล 1.5 บ./หุ้น (Ann.Yield 4.8%)

รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้

(+) TOP รายงานกำไรสุทธิ 2Q16 ที่ 7.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% QoQ และ 24% YoY ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 16% โดยบริษัทมีกำไรหลักที่ 3.4 พันล้านบาท ตามคาด ลดลง 17% QoQ และ 35% YoY คาดปัจจัยหนุนราคาหุ้นต่อเนื่องมากจาก แนวโน้มกำไรหลักใน 3Q16 ที่ยังคงแข็งแกร่งเพราะมาร์จิ้นรวมคาดดีขึ้นกว่า 2Q16 เพราะ 1) crude premium ทีลดลง (ต้นทุนน้ำมันดิบของบริษัทลดลง) 2) ค่าการกลั่น diesel ที่ปรับตัวดีขึ้น 3) มาร์จิ้นของ aromatic และ lube base ยังคงดีต่อเนื่อง นอกจากนี้ เราคาดบริษัทจะประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 1.5 บาท/หุ้น ในช่วงปลายเดือนนี้ คิดเป็น simple yield ที่ 2.4% คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 76 บาท

(+) MACO/VGI ประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ 1) ผู้บริหารมีความมั่นใจในการใช้ MACO ขยายความครอบคบุมออกไปทั่วประเทศ 2) MACO จะขยายใช้กลยุทธ์พอร์ตอย่างรวดเร็วผ่านการ M&A 3) ผู้บริหารมีมุมมองเชิงบวกต่อการปรับเปลี่ยนสื่อของ MACO จากเดิมภาพนิ่งให้เป็น สื่อ digital มากขึ้น เราคาดจะเพิ่มมูลค่าใช้กับ MACO ได้อย่างมาก ในอนาคต (กลยุทธ์แนะ switching ออกจาก VGI เข้าซื้อ MACO ที่จะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.018 บาท/หุ้น XD 16/8 และ เทรดบน trailing P/E เพียง 25 เท่า ถูกกว่าค่ากลุ่มที่เทรด P/E ราว 40-50 เท่า )

(+) SMT ประเด็นจากประชุมกับผู้บริหารเมื่อวานนี้ 1) สินค้าใหม่จะสามารถขึ้นสายการผลิตได้ตามแผนงาน ซึ่งบริษัทได้เริ่มการผลิตให้ลูกค้าใหม่อีก 2 รายใน 2Q16 ที่ผ่านมา คาดหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น  2) โรงงานผลิต Solar Panel ที่มีการประกาศไปก่อนหน้านี้ จะสามารถเริ่มการผลิตได้ในช่วงปลาย 3Q – ต้น 4Q16 นี้ 3) สัดส่วนสินค้าประเภท MMA ลดลงเร็วกว่าคาด ส่งผลให้เราปรับลดคาดการณ์รายได้และกำไรลง แต่เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ ที่คาดจะเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 2H16-2017 ดังนั้นเราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท (ปรับลงจาก 9.15 บาท ตามการปรับลดคาดการณ์กำไร) ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดบน P/E 11 เท่า ในปี 2017

(+) EGCO รายงานกำไร 2Q16 ที่ 2,052 ล้านบาท, เพิ่มขึ้น 70% YoY แต่ลดลง 21% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษและอื่นๆ กำไรหลักอยู่ที่ 2,308 ล้านบาท, ลดลง 11% YoY แต่เพิ่มขึ้น 15% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด โดยทั่วไปแล้วครึ่งปีหลังจะเป็นช่วง low season ของผลประกอบการโรงไฟฟ้า แต่เราคาดว่ากำไรของ EGCO จะยังคงแข็งแกร่งในช่วง 2H16 เพราะการเดินเครื่อง ขนอม4 ให้ได้ u-rate เพิ่มขึ้นหลังจากเพิ่งจะ COD ไปเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมมา เราจึงคาดว่ากำไร 2H16 จะไม่น้อยกว่า 1H16 เราคงคำแนะนำ ซื้อ (ชอบที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า) ราคาเป้าหมาย 230 บาท

(+) SAWAD คาดกำไร 2Q16 ที่ 437 ล้านบาท, เพิ่มขึ้น 50% YoY และ 4% QoQ โดยมีปัจจัยหนุนจากสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 35% YoY และ 7% QoQ และส่วนต่างดอกเบี้ยที่ยังสูงระดับ 21.04% เราคงคาดกำไรปีนี้ที่ 1,777 ล้านบาท เติบโต 41% และมีโอกาสดีกว่าคาดจากธุรกิจใหม่ ซึ่งบริษัทได้ซื้อ NPL มูลค่า 2.5 พันล้านบาท ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มาในราคาส่วนลด 20% และการซื้อหุ้น 9.8% ใน Bangkok First Investment & Trust PCL (BFIT) คาดจะช่วยลดต้นทุนการเงินได้อีกราว 25-30 bps และช่วยให้บริษัทสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 57 บาท

(0) BTS รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/59 (เม.ย.-มิ.ย.) อยู่ที่ 548 ล้านบาท ลดลง 82% YoY แต่เพิ่มขึ้น 1,157% QoQ ถ้าไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 396 ล้านบาทลดลง 28% YoY แต่เพิ่มขึ้น 18% QoQ กำไรที่ออกมาเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด เรามองว่ากำไรหลักในไตรมาส 2/59 (ก.ค.-ก.ย.) จะสามารถเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ จากรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งจากระบบขนส่งมวลชน, สื่อโฆษณา, อสังหาริมทรัพย์และธุรกิจบริการ โดยปกติแล้วช่วง ก.ค.-ก.ย. จะเป็นช่วง High season ของการใช้ระบบขนส่งมวลชน ซึ่งในอดีตเราพบว่าจำนวนผู้โดยสารจะเติบโต 8% QoQ ในช่วงนี้ เรามองว่าโครงการส่วนต่อขยาย หรือโครงการเส้นทางใหม่ๆ จะเป็นอัพไซด์สำหรับการปรับประมาณการในอนาคตและยังเป็นตัวที่จะช่วยให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ อีกทั้งยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการจากโครงการร่วมทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต เราคงคำแนะนำ ซื้อ

(-) TU รายงานกำไรสุทธิ 1.52 พันล้านบาท ในไตรมาส 2/59 เพิ่มขึ้น 17% YoY และ 24% QoQ ถ้าไม่รวมรายการพิเศษกำไรหลักอยู่ที่ 1.49 พันล้านบาท ลดลง 12% YoY แต่เพิ่มขึ้น 55% QoQ กำไรสุทธิที่ออกมาต่ำกว่าที่เราคาดจาก กำไรอัตราแลกเปลี่ยนและยอดขายที่ต่ำกว่าประมาณการ อีกทั้งอัตราภาษีจ่ายยังสูงกว่าคาด แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมถูกกดดันจากธุรกิจแซลมอนและธุรกิจกุ้งรับจ้างผลิตช่วงครึ่งปีแรก เรามองว่าราคาแซลมอนสามารถเริ่มทยอยปรับในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งภาพรวมการเติบโตของกำไรสุทธิและรายได้ในระยะยาวของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

(+) THCOM รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/59 ที่ 591 ล้านบาท เพิ่มขึ้น3% YoY แต่ลดลง 16% QoQ ถ้าไม่รวมรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 587 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% YoY แต่ลดลง 13% QoQ กำไรที่ออกมาสูงกว่าที่เราคาด 11% จากต้นทุน IPSTAR และรายการภาษีจ่ายที่น้อยกว่าคาด เราเชื่อว่าไตรมาส 3/59 คงจะเป็นจุดต่ำสุดสำหรับปีก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 4/59 และปี 2560 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากลูกค้า CTH บางส่วนที่หายไป อย่างไรก็ตามราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงมาคาดรับรู้ข่าวร้ายไปพอสมควรแล้ว ราคาหุ้นยังถือว่าถูกอีกทั้งประเด็นที่กดดันราคาหุ้นในเรื่องกฏระเบียบจากทางภาครัฐคาดจะได้ข้อสรุปในสิ้นปีนี้ และจะช่วยคลายความกังวล เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 42.50 บาท ณ สิ้นปี 2560

(+) GLOBAL รายงานกำไรสุทธิที่ 417 ล้านบาทในไตรมาส 2/59 เพิ่มขึ้น 58% YoY แต่ลดลง 8% QoQ กำไรสุทธิที่ออกมาดีกว่าที่เราคาด 4% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้ดีกว่าที่ประเมินจากการปรับส่วนผสมของสินค้าและราคาเหล็กที่ปรับตัวดีขึ้น เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

หุ้นมีประเด็น

(+) ประกาศปันผลระหว่างกาล MACO 0.018 บาท/หุ้น XD 16 สค., [email protected] บ XD 18 สค., [email protected] บ. XD 23 สค., [email protected] บ. XD 18 สค., [email protected] XD 19 สค. (ที่มา ตลท.)

(+) TFG เตรียมล้างขาดทุนสะสมหมดในปีนี้ เพื่อกลับมาจ่ายเงินปันผล (ที่มา BLS Research)

(+) ILINK CTW SAMART กฟผ. เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในปีหน้า เพื่อพิจารณาการลงทุนสายส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ของกลุ่มบริษัท กัลฟ์ ขนาด 5,000 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันกฟผ.อยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลเพื่อจัดทำโครงการ หลังล่าสุดทางกระทรวงพลังงานมีมติให้กฟผ. ดำเนินการตามขั้นตอนไปก่อน แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ตามแผนหรือไม่

คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 7,500 ล้านบาท โดยจะแล้วเสร็จในปี 64 (ที่มา อินโฟเควส)

(+) Small Cap ที่คาดกำไรจะพุ่งขึ้นแรงหรือพลิกจากขาดทุนเป็นกำไร ได้แก่ SUPER IFEC AJD TPCH SMT MILL MONO TWZ / ส่วนหุ้นที่กำไร 2Q16 ลง แต่เป็นไตรมาสที่ Bottom out โดยกำไรจะดีขึนในครึ่งปีหลัง ได้แก่ TASCO (เชื่อว่าราคาหุ้นลงมารับข่าวนี้ไปมากแล้ว) (ที่มา BLS Research)

(+) PTT PTTEP ประธานโอเปก เผย ทางโอเปกเตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเดือนก.ย.ที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย เพื่อหารือถึงวิธีการสร้างเสถียรภาพในตลาดหลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลง (ที่มา อินโฟเควส)

(-) CHO บอร์ด ขสมก.อนุมัติผลประมูลให้ เบส์ทริน ได้งานจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,389 พันล้านบาท ตามเดิม (ที่มา อินโฟเควส)

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

(+) ผลโหวต “รับร่างฯ” BLS คาดว่าจะเกิดการเลือกตั้ง ก.ย.- พ.ย. 2017  เราคาดดัชนีฯหุ้นจะขึ้นรับข่าวราว 1-1.5% แต่ไม่น่ามี New high เกิน 1,550 จุด แนะนำซื้อเล่นรอบหุ้นฝรั่ง+กองทุน; กลุ่มแบงก์ (KBANK KTB SCB) บริโภคในประเทศ (CPF CPALL) พลังงาน (PTT TOP IRPC) ท่องเที่ยว (AOT MINT) (ที่มา BLS Research)

(+) สภาธุรกิจตลาดทุน ระบุดัชนีความเชื่อมั่น 3 เดือนหน้า แตะ 128.81 จุด ขณะตลาดหุ้นไทยร้อนแรงครั้งแรกรอบ 20 เดือน ปรับเพิ่มขึ้น 23.31% โดยนักลงทุนต่างชาติความเชื่อมั่นอยู่ที่ 171.43 จุด เพิ่มขึ้น 71.43% นักลงทุนรายบุคคล 117.10 จุดเพิ่มขึ้น 10.11% และ นักลงทุนสถาบันอยู่ที่ 136 จุด เพิ่มขึ้น 36%ทั้งนี้กลุ่มที่น่าสนใจลงทุนคือ กลุ่มการแพทย์ กลุ่มธนาคาร ส่วนกลุ่มไม่น่าสนใจคือ กลุ่มยานยนต์ และ พลังงาน (ที่มา สภาธุรกิจตลาดทุน)

(+) เมื่อวันจันทร์ เยอรมนี Industrial production มิย.+0.8% จาก -1.3% m-m, จีน รายงานส่งออก เดือน กค.+2.9% ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ +1.3% y-y (ที่มา Bloomberg)

(0) อังคาร US Wholesale inventories เดือน มิย.คาด 0%, เยอรมนี ส่งออก เดือน มิย. คาด +1.4% จาก -1.9% m-m, ธนาคารกลางอินเดีย คาดคงดอกเบี้ย 6.5%, จีน รายงานเงินเฟ้อ CPI กค. คาด +1.8% จาก 1.9%(ที่มา Bloomberg)

(0) พุธ ฝรั่งเศส Industrial production มิย.คาด +0.3% จาก -0.5%, ฟิลิปปินส์ ส่งออก เดือน มิย. คาด -16.5% จาก -3.8% (ที่มา Bloomberg)

(0) พฤหัส US Import prices กค. คาด -0.3% จาก 0.20% m-m. เงินเฟ้อ ฝรั่งเศส, อิตาลี กค. คาดทรงตัวในระดับต่ำ, ธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.25% สิงคโปร์ GDP 2Q16 คาด 2.2%, ธ.กลางฟิลิปินส์ คาดคงดอกเบี้ย 3%, มาเลเซีย Industrial production มิย.คาด +2.5% จาก 2.7%(ที่มา Bloomberg)

(0/+) ศุกร์ US PPI คาด +0.1% จาก 0.5% US Retail sales กค. คาด +0.4% จาก 0.6% m-m. EURO area GDP 2Q16 2nd คาด +0.3% คงที่, จีน Industrial production กค.คาด +6.2% จาก 6.2%, มาเลเซีย GDP 2Q16 คาด +4% จาก 4.2%, ฮ่องกง GDP 2Q16 คาด +1% จาก 0.8% (ที่มา Bloomberg)

ที่มา:บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง