ซีพีเอ็นสนับสนุน SME ไทยให้ความรู้ในการพัฒนาและขยายธุรกิจ

08 ส.ค. 2559 | 07:28 น.
ซีพีเอ็น นำทัพธุรกิจกลุ่มเซ็นทรัล  จัดงาน “เอสเอ็มอี ธิงค์บิ๊ก #คิดให้ใหญ่ ไปได้ไกล กับกลุ่มเซ็นทรัล” ขานรับนโยบายประชารัฐเพื่อผลักดันเอสเอ็มอีไทยเข้าสู่ตลาดค้าปลีกอย่างเป็นรูปธรรม สร้างโอกาสในการเข้าถึงช่องทางการจำหน่ายกับกลุ่มเซ็นทรัล ชวนเอสเอ็มอี จับคู่ธุรกิจกับกลุ่มเซ็นทรัล (Business Matching) ชูความเชี่ยวชาญด้านค้าปลีกกว่า 60 ปี

นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้นำกลุ่มธุรกิจ 5 กลุ่ม ของเซ็นทรัลกรุ๊ป ได้แก่ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง สินค้าตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า และ กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์เครื่องเขียน ผนึกกำลัง เปิดอาณาจักรค้าปลีกสมัยใหม่ จัด “เอสเอ็มอี ธิงค์บิ๊ก คิดให้ใหญ่ ไปได้ไกล กับกลุ่มเซ็นทรัล” ให้ผู้ประกอบการรายย่อย ได้เข้าถึงโอกาสการเติบโต และขยายธุรกิจ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์

“เรามีพื้นฐานความรู้และวิธีการทำธุรกิจค้าปลีกหยั่งลึก และ มีเครือข่ายในการจัดจำหน่ายสินค้าที่แข็งแกร่ง รวมกว่า 1,300 จุดจำหน่าย ทั้งใน และ ในต่างประเทศ ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม  ตั้งแต่การจำหน่ายสินค้าออนไลน์ จำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า การเปิดร้านค้าหลายรูปแบบ ขนาดต่างๆ ในศูนย์การค้า ซึ่งบริหารโดยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัล ทั้งหมด 30 สาขา กระจายครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ โดยในทุกศูนย์การค้าของซีพีเอ็น เราได้นำกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล ตลอดจนพันธมิตร ผู้ประกอบการร้านค้า ให้เติบโต ขยายกิจการ ก้าวหน้าไปด้วยกัน” นายปรีชากล่าว

“เราพร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาและสนับสนุนองค์ความรู้ต่างๆ ตลอดจน ระบบการบริหารจัดการ และการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพพร้อมด้วย เครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพื่อติดปีกเอสเอ็มอีไทยเข้าสู่ตลาดค้าปลีกอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค สร้างแบรนด์ไทยให้ขายได้จริง เพิ่มความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการรายย่อย ช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ ส่งเสริมรากฐานเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง เพื่อการเจริญเติบโตก้าวหน้าอย่างยั่งยืน  เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน และผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้นำด้านสินค้าเอสเอ็มอีในระดับภูมิภาค” นายปรีชา กล่าวสรุป

ด้าน นายทศ จิราธิวัฒน์  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  เชื่อว่าเอสเอ็มอีเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศไทย ประเทศไทยจะเจริญไม่ได้ รายได้ก็จะไม่ดี ถ้าเอสเอ็มอีไม่เติบโต โดยทุกวันนี้ถือเป็นยุคทองของเอสเอ็มอี ซึ่งทุกวันนี้ตลาดเอสเอ็มอีโตขึ้นมาก ทั้งเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด  อีกทั้งตลาดเปลี่ยนไปเยอะ เทคโนโลยีก็เปลี่ยน โดยภาคเอกชน บริษัทเล็กใหญ่ และสถาบันการเงิน  ทุกคนมองเห็นตรงกันหมดว่า เอสเอ็มอี เป็นส่วนสำคัญที่จะต้องช่วยผลักดัน ทำให้ประเทศชาติเติบโต

ถ้าย้อนไป เมื่อเริ่มแรกเซ็นทรัล เกิดในสมัยคุณสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ( คุณพ่อ ) ที่คุณปู่ให้มาทำธุรกิจ เริ่มจากห้องเล็กๆ เป็นร้านหนังสือ ซึ่งคุณพ่อเป็นผู้มีความชื่นชอบในสินค้าที่อยู่ในแมกกาซีน  จึงเป็นจุดเริ่มต้น ให้มีการนำเข้าสินค้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งต่อมาท่านได้เดินทางไปในหลายประเทศทั่วโลก ต่อมาจึงนำสินค้าเข้ามาขาย และเปิดเป็นห้องเช่าเซ็นทรัล ต่อมาในปี  2514 จึงได้กำเนิดเป็นเซ็นทรัล ชิดลม ซึ่งเป็นแห่งแรก และยาวนานกว่า 40 ปี ต่อมาในปี 2525 เซ็นทรัลจึงได้เปิดเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ซึ่งศูนย์การค้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด ที่ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย โดยมีทั้งออฟฟิศและโรงแรมภายในอาคารศูนย์การค้า  โดยยอดขายของเซ็นทรัลใน  30 ปีต่อมา  เติบโตขึ้นเป็น  100 เท่า

สำหรับการบริหารเข้ามาบริหารงานต่อจากคุณพ่อ ได้เริ่มต้นจากการร่วมกันกับเพื่อนอีก   5 ท่าน ซึ่งตอนนั้นทุกคนอยู่ในวัยเพียง 30 ปี ซึ่งผมมองว่าคนวัย  30 ปี เป็นวัยที่น่าสนใจ และมีพละกำลังในการสร้างอะไรใหม่ๆ และตั้งใจทำอะไรได้ดี และทำให้ดีที่สุด จึงร่วมกันสร้างบิ๊กซี เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ในปี 2533 ซึ่งเป็นไฮเปอร์มาเก็ตแห่งแรกในประเทศไทย และทำยอดขายได้ถึง หนึ่งบิลเลี่ยนดอลล่าภายในเวลา 3  ปี โดยในขณะนั้น ต้องแข่งกับคาร์ฟูร์ และโลตัส ซึ่งเป็นคู่แข่งระดับโลก  ต่อมาได้สร้างโรงแรม Six Sense Samui  และได้รางวัล  Best travel in the world