ฮ่วยชวน-อุทัยฯ เหนื่อยใจ ลุ้น-ลดเป้าส่งออกข้าวทั้งปี

10 ส.ค. 2559 | 01:00 น.
เอกชนมองส่งออกข้าวเดือนที่เหลือเหนื่อย เหตุราคาข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่ง ฮ่วยชวน สั่งลดเป้าทั้งเชิงปริมาณและมูลค่า หลังตลาดหลักจีนส่อนำเข้าลดลงจากผลผลิตข้าวในประเทศเพิ่มขึ้น ขณะตลาดข้าวขาวกระเทือน หลังราคาข้าวไทยแพงกว่าเวียดนาม 50 ดอลล์ต่อตัน ด้าน "อุทัยโปรดิวส์"ลุ้นเป้าทั้งปี 1.4 แสนตัน แต่ยอมรับอาจไปไม่ถึง

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮ่วยชวนค้าข้าว จำกัด เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงภาพรวมการส่งออกข้าวของบริษัทในครึ่งปีแรกว่า สามารถส่งออกได้แล้วที่ประมาณ 3.5 หมื่นตัน ขณะที่การส่งออกในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มลดลง มีสัญญาณจากตลาดที่บริษัทได้ติดต่อซื้อขายอย่างจีน ในปีนี้จีนมีผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น คำสั่งซื้อมีทิศทางลดลง ส่วนตลาดฮ่องกงในครึ่งปีหลังในส่วนของข้าวหอมมะลิไม่น่าเป็นห่วง เพราะลูกค้ายังซื้อ แต่ข้าวขาว 5% อาจจะเหนื่อยมากกว่าเพราะราคาข้าวของไทยแพงกว่าคู่แข่งคือข้าวเวียดนามถึง 50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ผู้ซื้อคงหันไปซื้อข้าวเวียดนามมากขึ้น

"เดิมบริษัทตั้งเป้าหมายส่งออกข้าวทั้งปีนี้ไว้ที่ 6 หมื่นตัน มูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท สัดส่วนข้าวขาวกับข้าวหอมมะลิ 50:50 ครึ่งปีแรกส่งออกไปแล้ว 3.5หมื่นตัน ส่วนครึ่งปีหลังมีแนวโน้มลดลง จึงปรับเป้าส่งออกเชิงปริมาณในปีนี้ลดลงจากปีที่แล้ว 10-15% (เหลือ 5.1-5.4 หมื่นตัน) และคงมีผลกระทบในแง่ของมูลค่าบ้างโดยมูลค่าปรับลดประมาณ20% จาก 2 พันล้าน เหลือ1.6 พันล้านบาท"

อย่างไรก็ตามบริษัทเองคงไม่ปรับแผนธุรกิจแต่จะต้องหาตลาดใหม่เพื่อเพิ่มการส่งออก โดยในครึ่งปีหลังจะหันไปโฟกัสตลาดข้าวสีมากขึ้นซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าและหวังว่าจะมาช่วยทดแทนตลาดข้าวปกติที่อาจจะขายได้ลำบากขึ้นในภาวะราคาข้าวไทยเป็นเช่นนี้ แต่ทั้งนี้ตลาดข้าวสีคงต้องใช้เวลาเพราะเป็นตลาดที่เพิ่งเกิด คงทดแทนตลาดข้าวหลักๆได้ไม่มากอาจจะแค่บางส่วนเท่านั้น ผู้ส่งออกเองก็หวังว่าข้าวหอมมะลิใหม่ที่จะออกมาน่าจะช่วยให้ราคาปรับตัวลงมาสู้กับคู่แข่งได้บ้าง

ด้านนายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท อุทัยโปรดิวส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกข้าวหอมมะลิ เปิดเผยว่า บริษัทส่งออกข้าวในครึ่งแรกของปีนี้ได้ 6 หมื่นตัน จากเป้าทั้งปี 1.4 แสนตัน ที่เหลืออีก 8 หมื่นตัน การส่งออกในครึ่งปีหลังมองแล้วดูแล้วน่าจะทำได้ไม่ถึง เพราะราคาข้าวหอมมะลิขณะนี้ลดลงอยู่ตันละ 700-800 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน แต่โชคดีที่บริษัทขายให้กับลูกค้าประจำในสหรัฐอเมริกา และจีนที่เน้นซื้อข้าวพรีเมียมเป็นหลัก แต่จำนวนไม่ได้หวือหวามาก มีปริมาณใกล้เคียงกันทุกเดือน อาจจะมีเพิ่มมาบ้างเล็กน้อย

"การส่งออกของบริษัทค่อนข้างนิ่งเพราะลูกค้าซื้อในปริมาณใกล้เคียงเดิมทุกเดือน แต่ที่เราต้องระมัดระวังมากที่สุดคือเรื่องการเงิน เพราะการขายทั้งหมดเป็นเงินเชื่อ ที่ผ่านมาลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าที่ค้าขายกันมายาวนาน 10-30 ปี ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเงิน ส่วนลูกค้าใหม่ๆ คงต้องตรวจสอบละเอียดมากขึ้น ที่ผ่านมาสมาชิกสมาคมเองก็ถูกเบี้ยวเงินเพราะเป็นการขายแบบเงินเชื่อให้เครดิต 30-90วัน ก็เป็นเรื่องที่เราเองต้องระวัง"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,181 วันที่ 7 - 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559