ความแรงหุ้น BIZ กับ 3 จุดแข็งในธุรกิจเครื่องมือแพทย์

10 ส.ค. 2559 | 03:00 น.
ลงสนามเทรด หรือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai )ไปแล้วเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สำหรับหุ้น BIZ หรือ บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่ง 153.45% เปิดตลาดที่ 7.35บาท จากราคาไอพีโอที่ 2.90 บาท

[caption id="attachment_80667" align="aligncenter" width="362"] สมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารBIZ สมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารBIZ[/caption]

ความแรงของหุ้นไอพีโอป้ายแดง BIZ มีปัจจัยพื้นฐานหนุน มีประเด็นหรือสตอรี่อะไรน่าสนใจ “ฐานเศรษฐกิจ”ได้สัมภาษณ์ ”สมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารBIZ ผู้ประกอบธุรกิจขายเครื่องมือแพทย์ประเภทเครื่องฉายรังสีที่รักษาโรคมะเร็งเป็นหลัก

“สมพงษ์” กล่าวว่า แผนธุรกิจปี 2559 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีก่อน ที่มีรายได้รวม 236.71 ล้านบาท โดยมีงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2559 จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 640.60 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานจากทั้งโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน คาดว่าทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ได้ราว 80-90% หรือ จำนวน 5 โครงการ มูลค่ากว่า 420 ล้านบาท ส่วนโครงการที่เหลือคาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในปี 2560 นอกจากนี้ในปีนี้บริษัทฯยังจะมีรายได้จากการบริการบำรุงรักษา ประมาณ 100 ล้านบาท

สัดส่วนรายได้ของ BIZ แบ่งเป็นรายได้การขายเครื่องฉายรังสีและอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ 75% และมีรายได้จากการบริการบำรุงรักษา 25%

ส่วนโอกาสในการทำธุรกิจ “สมพงษ์” เปิดตัวเลขจากการคาดการณ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งในไทยปี 2858 มีอยู่ประมาณ 1.3 แสนคน หากนำตัวเลขแค่ 50% ที่จำเป็นต้องใช้วิธีการฉายแสงก็จะมีประมาณ 6.5 หมื่นคนต่อปี เมื่อนำจำนวนที่ต้องฉายแสงดังกล่าวมาคำนวณหาความต้องการในการใช้เครื่อง ก็จะมองภาพตลาดออก โดยเครื่องฉายรังสีสามารถรองรับผู้ป่วยได้เฉลี่ยประมาณ 400-500 คนต่อปีต่อเครื่อง เพราะฉะนั้นหากคำนวณค่าเฉลี่ยโดยรวมก็จะพบว่าอย่างน้อยที่สุดประเทศไทยควรมีเครื่องฉายแสงประมาณ 160 เครื่อง มูลค่าของตัวเครื่องเฉลี่ย 80-100 ล้านบาทต่อเครื่อง และเครื่องที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่บริษัทนำมาขายขณะนี้มีราคาสูงถึง 200 ล้านบาท

ขณะที่ปลายปี 2558 มีเครื่องฉายแสงที่คล้ายคลึงกันอยู่ประมาณ 70 เครื่อง จากตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ายังขาดแคลนเครื่องอีกเกินครึ่ง อีกทั้งตัวเลขดังกล่าวก็ไม่ใช่เครื่องที่เพิ่งเริ่มติดตั้ง หมายความว่าใน 70 เครื่องอาจจะต้องมีเครื่องที่จะต้องถูกแทนที่ หรือปรับเปลี่ยนไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งในระยะ 5-6 ปีข้างหน้า ซึ่งตีความได้ว่าตลาดยังขาดอยู่อย่างน้อยประมาณกว่า 100 เครื่อง

“แนวโน้ม 3-5 ปีข้างหน้า ตลาดเครื่องฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งยังโตได้อีกมาก เนื่องจากเครื่องมือ และผู้ป่วยด้านนี้นับวันจะมีแต่เพิ่มมากขึ้น และการรักษาโรคนี้ด้วยการฉายแสงเทคนิคต่างๆก็มีการพัฒนาไปมาก ประสิทธิภาพของการรักษาก็เพิ่มขึ้นตามเทคนิค ดังนั้นผมจึงมั่นใจเพราะอยู่วงการนี้มา 10 กว่าปี มองเห็นอนาคต มองเห็นแนวโน้มว่ายังสามารถไปได้อีก ”

สำหรับจุดแข็งของ BIZ มี 3 ด้าน คือ 1. แบรนด์ของสินค้าซึ่ง BIZ เป็นผู้แทนจำหน่ายยี่ห้อ”Varian” จากสหรัฐอเมริกา เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำเรื่องการรักษามะเร็งด้วยการฉายแสงมานานกว่า 60 ปี และเป็นผู้นำตลาดทั่วโลกรวมถึงในไทย 2.กลุ่มลูกค้าที่แข็งแกร่ง คือ ประมาณ 90% เป็นโรงเรียนแพทย์ และ 3. ความเชี่ยวชาญ

“เราจะบอกว่าจริงๆธุรกิจนี้มีการแข่งขันน้อยราย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในไทยแต่เป็นทั่วโลก BIZ กินแชร์ในตลาดประมาณ 50-60% บางปีคู่แข่งก็ได้บ้าง เราได้บ้างก็เฉลี่ยกันไป ซึ่งทั่วโลกก็จะมีลักษณะที่คล้ายกัน”

สุดท้ายนี้”สมพงษ์” ให้นิยามหุ้นBIZ ว่าอาจจะเป็นหุ้นที่เติบโตดีก็ได้หากตลาดโตพอ และมีการขยายมาก หรืออาจจะเป็นหุ้นปันผล หากตลาดยังเป็นไปในลักษณะแบบนี้ เพราะบริษัทมีหนี้สินระยะยาว ซึ่งหนี้สินส่วนใหญ่อยู่ในรูปของตัวสินค้า ดังนั้นจึงมีโอกาสในการจ่ายเงินปันผล เพราะกำหนดนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ หากไม่ได้นำเงินไปลงทุน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,181 วันที่ 7 - 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559