489 คันจาก เบสท์ริน กรุ๊ป บันทึกหน้าใหม่ของรถเมล์จาก ขสมก.

08 ส.ค. 2559 | 11:00 น.
หลังจากมหากาพย์การประมูลรถเมลล์ ขสมก. สิ้นสุดไปแล้วเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมกับผู้ชนะการประมูลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ด้านการผลิตรถเมล์ รถโดยสารประเภทต่างๆ ในเมืองไทยมากว่า 10 ปี มีรถที่วิ่งอยู่บนท้องถนนไทยแล้วกว่า 6,000 คัน การศึกษารูปแบบการใช้รถเมล์ และรถโดยสารทั้งประจำทางและไม่ประจำทางอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขับรถโดยสาร ประชาชนผู้ใช้รถ ลักษณะการนั่งและการยืนภายในรถ สภาพภูมิกาศ สภาพถนนของพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงลักษณะการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประมูลเชื่อมั่นว่า รถเมล์ทั้ง 489 คัน ของ ขสมก. ในครั้งนี้ จะเป็นบันทึกหน้าใหม่ของรถโดยสารสาธารณะในประเทศไทยอย่างแน่นอน

[caption id="attachment_79800" align="aligncenter" width="500"] บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูล บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูล[/caption]

นายเค่อนั่ว หลิน ประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ความสำเร็จก้าวสำคัญของเบสท์รินในครั้งนี้ นอกจากเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถในการจัดหารถโดยสารที่ตรงกับความต้องการประเทศไทยแล้ว ยังเป็นบทพิสูจน์ความอดทนในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาลไทยและความพร้อมในการคัดสรรรถเมล์และรถโดยสารเพื่อคนไทยเป็นการเฉพาะ ซึ่งผลการชนะประมูลรถโดยสาร ขสมก. ในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จของการผนึกกำลังของพันธมิตรคู่ค้าอย่าง บริษัท เซี่ยงไฮ้ ซันลอง บัส จำกัด [Shanghai Shenlong Bus Co.,Ltd. บริษัทผู้ผลิตรถโดยสารคุณภาพชั้นนำของจีน Sendok Group บริษัทผู้ดำเนินการประกอบรถโดยสารและตกแต่งภายใน ที่ประเทศมาเลเซีย และ กลุ่มบริษัท NORINCO พันธมิตรผู้สนับสนุนด้านการเงินให้กับเบสท์ริน กรุ๊ป ผู้ให้แบงก์การันตีจำนวน 10% ของยอดการประมูลทั้งหมด

[caption id="attachment_79801" align="aligncenter" width="500"] Shanghai Shenlong Bus Co.,Ltd. Shanghai Shenlong Bus Co.,Ltd.[/caption]

บริษัท เซี่ยงไฮ้ ซันลอง บัส จำกัด [Shanghai Shenlong Bus Co.,Ltd. หรือที่รู้จักในชื่อ Sunlong (ซันลอง) ซึ่งมีความหมายว่า “มังกรเซี่ยงไฮ้” บริษัทผู้ผลิตรถโดยสารคุณภาพ ครองส่วนแบ่งรถบัสโดยสารสาธารณะในประเทศจีนมากกว่า 50% และยังเป็นบริษัท Top 5 ที่ผลิตรถโดยสารส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่สำคัญคือ ยังเป็นบริษัทผู้ผลิตรถบัสโดยสารที่สามารถตีตลาดเกาหลีใต้ได้อย่างงดงาม ด้วยศักยภาพในการผลิต บนพื้นที่โรงงานมากกว่า 200,000 ตร.ม. พนักงานในสายการผลิตกว่า 1,000 คน ทำให้รถเมล์ รถบัส และรถบริการประเภทต่างๆ จาก Sunlong คือผลิตภัณฑ์คุณภาพจากแผ่นดินใหญ่ส่งตรงให้ผู้ใช้งานได้สัมผัส โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งถือเป็นลูกค้ารายใหญ่สุดของ Sunlong ไม่ว่าจะเป็น รถเอกชนร่วมบริการ (สีเหลือง) รถรับ-ส่งพนักงานของ ปตท. กฟผ. รถโดยสารสวัสดิการทหาร รถบริการภายในสนามบิน รวมถึงรถโค้ชสำหรับนักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเมืองสำคัญต่างๆ นี่จึงเป็นเหตุผลให้ชื่อของรถโดยสารขนาดใหญ่ภายใต้ตราประทับรูปมังกรได้รับความไว้วางใจจากองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนไทยเสมอมา และรถเมล์ 489 คันของคนไทยก็เริ่มต้นที่นี่เช่นเดียวกัน

[caption id="attachment_79802" align="aligncenter" width="335"] Shanghai Shenlong Bus Co.,Ltd. Shanghai Shenlong Bus Co.,Ltd.[/caption]

การสร้างความเชื่อมั่นไม่เพียงเฉพาะการคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อคนไทยเท่านั้น เบสท์ริน กรุ๊ป ยังตอกย้ำศักยภาพด้วยการเป็นพันธมิตรกับ NORINCO บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน ผู้ผลิตยุทโธปกรณ์ทั้งหนักและเบาเพียงรายเดียวของรัฐบาลจีน นอกจากนั้นยังครอบคลุมธุรกิจทองคำ น้ำมัน เหมืองแร่ การก่อสร้าง รถไฟฟ้าความเร็วสูง รวมถึงธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ อย่าง รถยนต์ แผงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องจักร และเคมีภัณฑ์อีกด้วย Mr.Wenchu Cai ประธานบริหารของ NORINCO ให้ข้อมูลว่า การสนับสนุน เบสท์ริน กรุ๊ป นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการการันตีว่า เบสท์ริน เป็นบริษัทที่มีความสามารถและมีความรับผิดชอบสูง ตามนโยบายขององค์กรที่มุ่งสู่การขยายโอกาสให้ธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศอย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับรถเมล์ทั้ง 489 คันหลังจากผลิตและประกอบชิ้นส่วนสำคัญจากบริษัท เซี่ยงไฮ้ ซันลอง บัส จำกัด จากเซี่ยงไฮ้แล้ว จะถูกส่งมายัง Sendok Group องค์กรมืออาชีพด้านการประกอบและการตกแต่งภายในรถที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนขนส่งทางเรือเพื่อเข้าสู่ประเทศไทยและใช้งานจริงต่อไป อีกไม่นานเกินรอคนกรุงเทพฯ จะได้ยลโฉมรถเมล์ ขสมก. รุ่นใหม่ ไฉไลกว่าเดิมผลงานของ เบสท์ริน กรุ๊ป อย่างแน่นอน

New BMTA Bus

มีบริการ wi-fi ในตัวรถ

มีกล้องวงจรปิด มีจอ LED แจ้งเตือนจุดจอดถัดไป

พื้นรถเป็น PVC ชนิดพิเศษ เปลี่ยนจากเดิมซึ่งเป็นพื้นไม้และมีอาการบวมน้ำเมื่อเกิดน้ำท่วม ระดับความสูงและทางลาดภายในรถออกแบบพิเศษสำหรับคนพิการ พร้อมราวสำหรับล็อกเก้าอี้วีลแชร์ กระจกรอบตัวรถเป็นกระจกนิรภัยแบบเทมเปอร์

มีทางออกฉุกเฉินบริเวณหลังคารถ ถังก๊าซ CNG มีการทดสอบความแข็งแรงพิเศษ ทั้งจากการเผาที่อุณหภูมิ 800 องศา และการยิงด้วยกระสุน โครงสร้างหลังคาออกแบบให้รองรับแรงกระแทกพิเศษ หลังคาดีและคงรูปไม่ยุบเพื่อเกิดการตะแคงคว่ำจากการตกถนน หรือตกสะพาน ฯลฯ

มีเครื่องหน่วงความเร็วด้วยไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัยจากระยะเบรก สุดท้าย หากประตูปิดไม่สนิทรถจะไม่สามารถออกตัวได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,181 วันที่ 7 - 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559