บล.KTBST หุ้นไทยสัปดาห์นี้ เงินทุนไหลเข้ายังดันตลาด

01 ส.ค. 2559 | 03:05 น.
บล.KTBST หุ้นไทยสัปดาห์นี้ เงินทุนไหลเข้ายังดันตลาด ปัจจัยต่างประเทศไม่กระทบ มองกรอบดัชนี  ระดับ 1,530-1,550 จุด

ดร.วิน  อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST (Win Udomrachtavanich, Ph.D. Executive Chairman KTB Securities (Thailand ) Co., Ltd.)  เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ ยังมีทิศทางเป็นบวกเนื่องจากทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีปัจจัยลบเข้ามาจากเรื่องผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯที่ออกมาอยู่ที่ 1.2% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 2.5-2.6%  ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่มีโอกาสบวกได้หากค่าดอลล่าร์ปรับตัวลงต่อเนื่องก็ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นรวมทั้ง การเข้ามาเก็งกำไรผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 และปัจจัยบวกจากเงินทุนไหลเข้า (Fund Flow) ของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด เรายังมองว่าเงินยังไหลเข้าตลาดต่อเนื่อง แต่อาจชะลอตัวลงก่อนการลงประชามติ ดังนั้นตลาดหุ้นจึงแรงช่วงต้นสัปดาห์และแผ่วปลายสัปดาห์

ดังนั้น บล.KTBST แนะให้ขายทำกำไรในจังหวะที่หุ้นกำลังไต่ระดับขึ้น แต่สำหรับนักเก็งกำไรการเข้าลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศจะสลับกลุ่มเล่นอยู่ตลอดเวลา จึงแนะนำให้เน้นแบบสั้นๆ เล่นหุ้นกลุ่มหลักๆ ซึ่งกลุ่มที่เด่นสัปดาห์นี้ จะเป็นหุ้นกลุ่มธนาคาร , กลุ่มผู้ประกอบการโทรศัพท์  , กลุ่มรับเหมาฯ และกลุ่ม Domestic Play ที่มีฐานรายได้ในเขตภูมิภาค และ บล.KTBST มองแนวโน้มดัชนีในสัปดาห์นี้ว่า ที่ระดับดัชนี 1,521 จุด เป็นจุดที่เฝ้าระวังหากต่ำกว่านี้เป็นการปรับฐานแต่หากเดินหน้าต่อไปได้ ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1,530-1,550 จุด

ทั้งนี้ปัจจัยในต่างประเทศที่สำคัญ การประกาศตัวเลข PMI และ ISM ของสหรัฐฯ-อียู-จีน ในช่วงต้นสัปดาห์หากออกมาดีจะเป็นบวกต่อตลาด ขณะที่การประชุมธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัส (4 ส.ค) หากมีการปรับเพิ่มวงเงิน QE จากเดิม 3.75 แสนล้านปอนด์ ก็จะเป็นผลบวกต่อตลาด ส่วนตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ มีน้ำหนักต่อตลาดน้อยลงหลัง GDP ออกมาต่ำกว่าคาด ส่วนราคาน้ำมันดิบได้อานิสงค์จากเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่า แม้ความกังวลต่อภาวะ oversupply ยังมีอยู่ จากการผลิตของสหรัฐฯที่สูงขึ้นจากการใช้แท่นผลิตน้ำมัน (Rig Count) ที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน และการผลิตของกลุ่ม OPEC ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นด้วย อาจหนุนราคาหุ้นผลิตโรงกลั่นน้ำมันให้กระเตื้องขึ้น ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวตลาดหุ้นไทยจึงไม่ต้องมากังวลกับตลาดหุ้นต่างประเทศในช่วงนี้

ส่วนปัจจัยในประเทศ สภาพัฒน์ฯ จะรายงานตัวเลข GDP ในวันที่ 15 ส.ค. โดยไตรมาสแรก GDP ขยายตัวอยู่ที่ 3.2%  และคาดการณ์ว่า GDP ไตรมาส 2 ของไทยจะออกมาดี จากการใช้จ่ายภาครัฐและการใช้จ่ายภาคเอกชนที่สูงขึ้นเช่นกันซึ่งมาจากรายได้ของเกษตรกรที่สูงขึ้นถือเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นที่มีฐานรายได้ในเขตภูมิภาค จึงมองว่ารูปแบบของ SET Index เดือน ก.ค.-ส.ค. ยังน่าจะมีลักษณะที่คล้ายกัน คือมีพักฐานและเดินหน้าต่อ

"บล. KTBST มองหุ้นที่น่าน่าลงทุนในสัปดาห์นี้ ได้แก่ BBL , KBANK , KKP , ADVANC ซึ่งได้ประโยชน์จากเงินไหลเข้า หุ้นกลุ่มรับเหมา STEC , MC และหุ้นที่ปรับตัวลงมามากอย่าง AUCT , ORI "