บิ๊กตู่จัดลำดับเขตเศรษฐกิจใหม่ ดัน 3พื้นที่ศักยภาพเร่งด่วน/จี้เจรจายาสูบหลังต้านหนัก

02 ส.ค. 2559 | 09:00 น.
“ประยุทธ์” บิ๊กบอร์ด กนพ.สั่งจัดความสำคัญเร่งด่วนเดินหน้าลุย 10 จังหวัด 12 พื้นที่เขตศก.พิเศษต่อเนื่อง โฟกัสถมงบโครงสร้างพื้นฐาน-ด่านศุลกากรลงสระแก้ว-สงขลา-แม่สอดก่อน ส่วนที่ราชพัสดุแม่สาย มอบพ่อเมืองเชียงรายเจรจาชาวไร่-ยาสูบหลังออกโรงต้านหนัก ด้านสภาพัฒน์แจง 8 จังหวัด ทุนแห่ปักธง 39 โครงการมูลค่า 7,200 ล้านบาท มากสุดตาก 21 โครงการ

แหล่งข่าวจากกรมโยธาธิการและผังเมืองเปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ(กนพ.)ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุม มีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนและจัดลำดับความสำคัญการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนทั้ง10จังหวัด 12พื้นที่ใหม่ โดยเน้นพื้นที่ที่มีความเป็นไปได้ คือ จังหวัดสระแก้ว อำเภอสะเดาจังหวัดสงขลา และ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เนื่องจากมีนักลงทุนทั้งจากส่วนกลางและธุรกิจเอสเอ็มอีในพื้นที่ต่างให้ความสนใจยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอโดยเฉพาะอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก

ดังนั้นจึงต้องเร่งอัดฉีดงบประมาณลง 3 จังหวัดดังกล่าวเพื่อเร่งพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน และด่านศุลกากรให้มีความพร้อม โดยเฉพาะปีงบประมาณ 2560 ซึ่งอาจจะต้องโยกงบประมาณที่ไม่จำเป็นต่อพื้นที่อื่นมาลงใน 3 จังหวัดดังกล่าวดึงดูดนักลงทุนให้เข้าพื้นที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน จังหวัดที่เหลือ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณแต่ยังไม่เริ่มดำเนินการพัฒนาพื้นที่ให้เช่าบนที่ดินรัฐในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ก็ให้ดำเนินการตามความเหมาะสมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ไม่จำเป็นต้องเน้นสร้างนิคมอุตสาหกรรมเสมอไป แต่สามารถพัฒนารูปแบบอื่นที่มองว่าเป็นประโยชน์และสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นเป็นสำคัญ

สำหรับจังหวัดเชียงราย ที่ประชุมเห็นชอบให้ยุบเขตนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอำเภอเชียงแสน พื้นที่ 651 ไร่ซึ่งเป็นที่ ส.ป.ก.4-01 บริเวณท่าเรือพาณิชย์ออกไป ตาม มติของ คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินและการบริหาร ที่มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.1) เป็นประธาน ส่วน 2 พื้นที่ให้ดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะพื้นที่ อำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นที่ดินของโรงงานยาสูบพล.อ.ประยุทธ์ได้มอบให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านและโรงงานยาสูบให้จบกระบวนการ จากนั้นให้นำเสนอความก้าวหน้าต่อที่ประชุม กนพ.ในคราวต่อไปสำหรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ประกอบด้วย จังหวัดสระแก้ว ตาก สงขลา ตราด มุกดาหาร และหนองคาย ระยะที่ 2 นราธิวาส นครพนม กาญจนบุรี และเชียงรายล่าสุดเฉพาะที่รัฐให้เช่าเหลือ 2 พื้นที่ ได้แก่คือที่โรงงานยาสูบอำเภอแม่สายและ บ้านทุ่งงิ้ว อำเภอเชียงของ

นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ระบุว่า ขณะนี้มี 8 จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เอกชนทั้งส่วนกลางและเอกชนในพื้นที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ จำนวน 39โครงการ 7,200 ล้านบาท โดยตาก ยื่นขอมากที่สุด 21 โครงการ มูลค่า 3,798 ล้านบาท กิจการที่ขอรับการส่งเสริมมากที่สุด คือ บรรจุภัณฑ์และพลาสติก นักลงทุนจะเป็นจีนไต้หวัน และไทย จากจำนวน 8 จังหวัด ที่เอกชนสนใจได้แก่ สระแก้ว ตาก ตราด สงขลา มุกดาหาร หนองคาย เชียงราย กาญจนบุรี และ ล่าสุดมี10โครงการที่ได้รับอนุมัติจากบีโอไอแล้วส่วน นครพนมและนราธิวาส ยังไม่มีการยื่นขอเข้ามา

ขณะที่ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" ประจำจังหวัดเชียงรายรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กรกฎคม 2559 ที่ผ่านมานายคณุตม์ ฤทธิสอน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ(สรย.) นำชาวไร่จำนวน 150คนยื่นหนังสือเป็นครั้งที่2 ต่อนายประจัญ ปรัชฌ์สกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อทบทวนการนำที่ดินราชพัสดุเนื้อที่ 870 ไร่ ไปให้เอกชนลงทุนเช่าลงทุนเพื่อส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษอำเภอแม่สายโดยให้เหตุผลว่า หากนำที่ดินดินแปลงดังกล่าวไปพัฒนาเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจะสร้างความเดือนร้อนต่อ โรงงานยาสูบและเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบและจะมีผู้ตกงานมากว่า 2,000 ราย ที่สำคัญ เกษตรกรผู้เพาปลูกจะขาดรายได้ กับพืชเศรษฐกิจคือยาสูบ พันธุ์เวอร์จิเนีย ที่ดีที่สุดของประเทศไทย ที่สามารถผลิตได้ถึงปีละ 4 แสนกิโลกรัมซึ่งทำให้โรงงานยาสูบต้องแบกภาระต้นทุนที่สงขึ้น และอนาคต อาจต้องสูญเสียรายได้ให้รัฐปีละ ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาประเทศ นอกจากนั้น พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นที่ตั้งโครงการพระราชดำริคือศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริที่โรงงานยาสูบได้ทูลเกล้าถวายเมื่อปี 2556 บนเนื้อที่ 150 ไร่อีกด้วย

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า วันที่ 28 กรกฎาคม 2559 สหภาพแรงงานและชาวไร่ เดินทางโดยรถบัสปรับอากาศจำนวน 5คัน เพื่อไปรวมตัวกันเดินทางไปยื่นหนังสือขอทบทวน การนำที่ดินที่เพาะใบยาสูบไปพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ต่อพล.อ.อนุพงษ์ ที่กระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินและการบริหารดังกล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,179
วันที่ 31 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559