รู้เทรนด์ไว้ ได้ใจผู้บริโภค
ในการประชุมผู้ถือหุ้นที่นิวยอร์ก เมื่อเร็วๆนี้ นายเค็น พาวเวลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนอรัล มิลล์ฯ ผู้ผลิตอาหารแปรรูปรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยถึงแนวโน้มในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปของสหรัฐฯ ที่กำลังมาแรง และผู้ประกอบการที่คาดหวังจะสร้างการเจริญเติบโตให้กับธุรกิจเห็นทีจะต้องตระหนักไว้ให้ดี “พฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจึงต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะเข้าใจและตอบสนองการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และสร้างการเติบโตของธุรกิจไปด้วย”
แนวโน้มสำคัญที่เจเนอรัล มิลล์ กำลังปรับตัวตามเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดนั้น ประการแรกคือ ผู้คนยุคนี้ต้องการผลิตภัณฑ์ (อาหาร) ที่มีการแปรรูปหรือปรุงแต่งน้อยที่สุดและต้องผลิตจากวัตถุดิบที่พวกเขาสามารถรับรู้ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อตอบสนองกระแสแนวโน้มดังกล่าว เจเนอรัล มิลล์ จึงได้นำเสนอสินค้าใหม่ๆที่แปรรูปน้อยลงและเป็นมิตรกับสุขภาพมากขึ้น มีตราฉลากระบุให้ผู้บริโภครับทราบมากขึ้น เช่น ขนมกรุบกรอบเชียริโอส์สูตรปราศจากกลูเต็น (ที่บางคนอาจจะแพ้) รวมถึงการลงทุนซื้อกิจการบริษัท แอนนี่ส์ฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารออร์แกนิค
[caption id="attachment_75870" align="aligncenter" width="500"]
ขนมแท่งรสพิซซ่า “โทติโน่”[/caption]
เทรนด์ต่อมาคือคนรุ่นใหม่ต้องการทั้งความสะดวกสบายและความสนุกสนาน ทั้ง 2 ปัจจัยนี้สำคัญพอๆกัน ความท้าทายคือ ผู้ผลิตต้องพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้ง 2 ส่วนนี้ และนั่นก็เป็นที่มาของผลิตภัณฑ์อาหารที่กินง่าย และเป็นสิ่งที่เจเนอรัล มิลล์ เชื่อว่าผู้บริโภคชื่นชอบ เช่น ขนมแท่งรสพิซซ่า “โทติโน่” และธัญพืชอบกรอบ “ไทนี่ โทสต์”
ส่วนนวัตกรรมด้านอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มของกินเล่นนอกมื้ออาหารหลักๆ เพราะชีวิตประจำวันทำให้ผู้บริโภคสมัยนี้ ต้องการอาหารที่กินง่าย พกสะดวก สามารถนำไปบริโภคในขณะเดินทาง เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิตอาหารแปรรูปยังจะต้องตระหนักว่า ตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วนั้นเป็นศูนย์กลางการเติบโตของธุรกิจก็จริง แต่ก็มีความเสี่ยงพ่วงมาด้วย เช่น เศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวในจีน หรือเศรษฐกิจบราซิลและเวเนซุเอลาที่โตเร็วก็จริง แต่ก็เต็มไปด้วยปัญหาภายในประเทศ
นายพาวเวลล์ย้ำว่าการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ เจเนอรัล มิลล์เองมีบริษัทเวนเจอร์แคปปิตอลคอยมองหาและเข้าไปลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพที่เป็นกิจการเกิดใหม่แต่มีนวัตกรรมสร้างสรรค์ เช่น บริษัท เอพพิค โพรวิชั่นส์ฯ เป็นผู้ผลิตของกินเล่นขบเคี้ยวที่ทำจากเนื้อสัตว์ บริษัท ไคท์ ฮิลล์ฯ เป็นผู้ผลิตโยเกิร์ตและชีสที่ทำจากนมธัญพืช (นมถั่วประเภทต่างๆ) และบริษัท กู๊ดคัลเจอร์ฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตคอตเทจชีสแบบออร์แกนิก เป็นต้น
ผู้บริหารของเจเนอรัล มิลล์ สรุปทิ้งท้ายว่า ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการอาหารที่รสชาติอร่อย มีวัตถุดิบและเครื่องปรุงเป็นธรรมชาติ (เพื่อสุขภาพ) และกินง่ายได้ความสะดวก ถ้าตอบโจทย์ได้ตามนี้ก็คงจะครองใจผู้บริโภคได้อีกยาวนาน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,178 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
แนวโน้มสำคัญที่เจเนอรัล มิลล์ กำลังปรับตัวตามเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดนั้น ประการแรกคือ ผู้คนยุคนี้ต้องการผลิตภัณฑ์ (อาหาร) ที่มีการแปรรูปหรือปรุงแต่งน้อยที่สุดและต้องผลิตจากวัตถุดิบที่พวกเขาสามารถรับรู้ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อตอบสนองกระแสแนวโน้มดังกล่าว เจเนอรัล มิลล์ จึงได้นำเสนอสินค้าใหม่ๆที่แปรรูปน้อยลงและเป็นมิตรกับสุขภาพมากขึ้น มีตราฉลากระบุให้ผู้บริโภครับทราบมากขึ้น เช่น ขนมกรุบกรอบเชียริโอส์สูตรปราศจากกลูเต็น (ที่บางคนอาจจะแพ้) รวมถึงการลงทุนซื้อกิจการบริษัท แอนนี่ส์ฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารออร์แกนิค
[caption id="attachment_75870" align="aligncenter" width="500"]
เทรนด์ต่อมาคือคนรุ่นใหม่ต้องการทั้งความสะดวกสบายและความสนุกสนาน ทั้ง 2 ปัจจัยนี้สำคัญพอๆกัน ความท้าทายคือ ผู้ผลิตต้องพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้ง 2 ส่วนนี้ และนั่นก็เป็นที่มาของผลิตภัณฑ์อาหารที่กินง่าย และเป็นสิ่งที่เจเนอรัล มิลล์ เชื่อว่าผู้บริโภคชื่นชอบ เช่น ขนมแท่งรสพิซซ่า “โทติโน่” และธัญพืชอบกรอบ “ไทนี่ โทสต์”
ส่วนนวัตกรรมด้านอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มของกินเล่นนอกมื้ออาหารหลักๆ เพราะชีวิตประจำวันทำให้ผู้บริโภคสมัยนี้ ต้องการอาหารที่กินง่าย พกสะดวก สามารถนำไปบริโภคในขณะเดินทาง เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิตอาหารแปรรูปยังจะต้องตระหนักว่า ตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วนั้นเป็นศูนย์กลางการเติบโตของธุรกิจก็จริง แต่ก็มีความเสี่ยงพ่วงมาด้วย เช่น เศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวในจีน หรือเศรษฐกิจบราซิลและเวเนซุเอลาที่โตเร็วก็จริง แต่ก็เต็มไปด้วยปัญหาภายในประเทศ
นายพาวเวลล์ย้ำว่าการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ เจเนอรัล มิลล์เองมีบริษัทเวนเจอร์แคปปิตอลคอยมองหาและเข้าไปลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพที่เป็นกิจการเกิดใหม่แต่มีนวัตกรรมสร้างสรรค์ เช่น บริษัท เอพพิค โพรวิชั่นส์ฯ เป็นผู้ผลิตของกินเล่นขบเคี้ยวที่ทำจากเนื้อสัตว์ บริษัท ไคท์ ฮิลล์ฯ เป็นผู้ผลิตโยเกิร์ตและชีสที่ทำจากนมธัญพืช (นมถั่วประเภทต่างๆ) และบริษัท กู๊ดคัลเจอร์ฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตคอตเทจชีสแบบออร์แกนิก เป็นต้น
ผู้บริหารของเจเนอรัล มิลล์ สรุปทิ้งท้ายว่า ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการอาหารที่รสชาติอร่อย มีวัตถุดิบและเครื่องปรุงเป็นธรรมชาติ (เพื่อสุขภาพ) และกินง่ายได้ความสะดวก ถ้าตอบโจทย์ได้ตามนี้ก็คงจะครองใจผู้บริโภคได้อีกยาวนาน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,178 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559