รอบด้านตลาดหุ้น by  Bualuang Securities

26 ก.ค. 2559 | 03:50 น.
เลือกซื้อหุ้นชุดเต็ง+โต๊ด 9 ตัวล่าง (อิงรายงาน Tactical call)

วันนี้คาดดัชนีฯ แดงสลับเขียว กรอบ 1,500-1,515 จุด คาดหุ้นน้ำมัน-สินค้าโภคภัณฑ์ กดดันดัชนีฯ แนะนำหุ้น Negative-correlation กับน้ำมัน และ หุ้น Laggard plays

คงคาดราคาน้ำมันดิบรอบนี้จะลดลง ตามค่าเงินดอลล์สหรัฐฯที่แข็งค่า โดยตลาดเก็ง BOJ ออก QE ชุดใหญ่ ส่งผลเยนมีแนวโน้มอ่อนเทียบดอลล์สหรัฐฯในสัปดาห์นี้-หน้า บวกกับรายงาน มอร์แกน สแตนลีย์ และ บาร์เคลย์ส ระบุอุปทานจากการเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงที่น้ำมันฟื้นตัว เริ่มออกสู่ตลาด และยังมีแท่นขุดเจาะกลับมาดำเนินการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่ อุปสงค์น้ำมันมีแนวโน้มลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอกว่าคาด

สัปดาห์นี้คาดแนวรับดัชนีฯ 1,494/1,482 จุด แนวต้าน 1,520/1,535 จุด

สำหรับแนวโน้มรายเดือน ครึ่งแรกของเดือน กค.ขึ้นตามคาด รับกระแส แนวโน้มเฟดเลื่อนขึ้นดอกเบี้ย, รัฐฯออกกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ส่วนช่วงครึ่งเดือนหลังผันผวน ตาม Earning Previews/Reviews 2Q16 และมีแนวโน้มที่ ปลายเดือน กค.-ครึ่งแรกของเดือน สค.จะขึ้นได้ดีกว่าคาด มองดัชนีฯซิ๊กแซกขึ้นทดสอบ 1,550 จุด ภายในครึ่งแรกของเดือน สค.

หุ้นแนะนำวันนี้ ROJNA (NAV plays ตามวิธีประเมินมูลค่า Sum of the parts โดยโรจนะถือหุ้น TICON อยู่ 43.55% (Laggard: TICON ขึ้นมา 30% ส่วน ROJNA ขึ้นมา 11% ytd.), หุ้น Negative correlation กับน้ำมัน +BCP TASCO

รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้

(+) KCE  หลังจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อผลการดำเนินงานของ KCE จากประสิทธิภาพของโรงงานใหม่ที่ทำได้ดีกว่าคาด โดยจะหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/59 นี้เกินกว่า 35% จาก 33.9% ในไตรมาส 1/59 เราประเมินกำไรในไตรมาส 2/59 จะทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง โดยคาดกำไรอยู่ที่ 801 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 63% YoY และ 7% QoQ จากการปรับปรุงโรงงาน ขยายกำลังการผลิตและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น เรายังคงมีมุมมองว่าไตรมาส 3/59 กำไรของบริษัทก็จะดีกว่าไตรมาส 2/59 ขึ้นไปอีกและสามารถทำสถิติสูงสุดได้อีกครั้ง เราปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น 3% และปรับราคาเป้าหมายเป็น 102 บาท และยังคงคำแนะนำ ซื้อ

(-) BKD นับแต่ตันปีราคาหุ้น underperform ดัชนีฯ โดยตลอดเพราะผลประกอบการที่โดนกดดันจากนโยบายบัญชีมา 3 ไตรมาส คาด 2Q16 จะเป็นไตรมาสสุดท้ายที่กำไรของบริษัทอ่อนแอ เพราะจากการประชุมกับผู้บริหาร ผู้บริหารมีความมั่นใจว่าจะสามารถจบงานโครงการที่ทำให้เกิดปัญหาได้ ซึ่งจะส่งผลให้ปัจจัยกดดันหมดไป และยังมีปัจจัยหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะงานใหม่ที่กาตาร์ที่บริษัทเพิ่งจะได้รับมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเป็นพิเศษ ส่งผลให้กำไร 2H16 เติบโต เท่าตัวจาก 1H16 และคาดบริษัทจะได้รับงานภาครัฐฯขนาดใหญ่เร็วๆนี้ เพราะช่วงไตรมาส 3 เป็นช่วงปิดปีงบประมาณของภาครัฐฯ อย่างไรก็ตามคาดราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาได้สะท้อนกำไรที่จะฟื้นตัวใน 2H16 ไปส่วนหนึ่งแล้ว ส่งผลให้อัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายมีจำกัด เราจึงปรับคำแนะนำเป็น ถือ

(0) PTTGC เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาได้สะท้อนมุมมองเชิงลบต่อกำไรในไตรมาส 2/59 ที่อ่อนแอไปแล้ว จากการปิดการดำเนินงานในบางส่วน โดยเราประเมินกำไรหลักในไตรมาส 2/59 อยู่ที่ 3,598 ล้านบาท ลดลง 53% YoY และ 16% QoQ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นในตอนนี้เทรดที่ PE ปีนี้ที่ 10.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยาวที่ 11 เท่า และค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 14.2 เท่า และยังเทรด PBV ปีนี้ที่ 1.1 เท่า ต่ำกว่า -1SD จากค่าเฉลี่ยที่ 1.2 เท่า เรายังเชื่อว่ากำไรในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้จากสัดส่วนราคาที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลยังน่าสนใจอยู่ที่ 4.2% เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

หุ้นมีประเด็น

(+) THAI ผู้บริหารเปิดเผยว่าจะกลับไปเปิดจุดบิน มอสโคว์-รัสเซีย และ เตหะราน-อิหร่าน ในเดือน ตค.นี้ และจะกลับไปบินเส้นทางสหรัฐฯหลังปลดธงแดง จาก ICAO คาดเลือกบินตรง ซีแอตเทิล และ ซานฟรานฯ ในกลางปีหน้า (ที่มา อินโฟเควส)

(+) CBG รมว.พาณิชย์ ประธาน ที่ประชุมกรรมการ การแข่งขันทางการค้า ส่งเรื่องให้ อัยการสูงสุดฟ้อง ผู้ประกอบการเครื่องดื่มชูกำลัง รายหนึ่งซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากสุด ว่ามีพฤติกรรมห้ามร้านค้าขายสินค้าคู่แข่ง (ที่มา โพสต์ทูเดย์ 25 กค.)

(+) BLS ออกรายงานกลยุทธ์ แนะนำหุ้น Laggard plays: AMATA WHA ROJNA TASCO DELTA GLOW RATCH BCP BH พิจารณาจาก (1) ผลตอบแทน (Performance) ในรอบนี้ ยัง Underperform หรือขึ้นน้อยกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ และดัชนีฯ โดยวัดจากช่วงที่หุ้นแรลรี่ขึ้นมาหลังอังกฤษลงประชามติออกจาก EU (23 มิย.16) และ ช่วงที่ดัชนีฯทะลุ 1,400 จุด เมื่อเดือน พค. 16 (2) ค่า PE และ PBV ถูกกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มฯ และตลาด (3) ฝรั่ง Under own.

(+) TWZ ออกตั๋ว BE อายุ 270 วัน 500 ล้านบาท เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจง PP (ที่มา ตลท.) / คาดว่าจะมีแผนการลงทุน ครั้งใหม่จากการออกหุ้นกู้รอบนี้

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

(0) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ FOMC วันพุธนี้ คาดคงดอกเบี้ย 0.25-0.50% การประชุมรอบนี้ Consensus คาดว่าจะไม่มีอะไรที่น่าสนใจ รอดูงาน Jackson Hole เดือนหน้า และ คงคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธค.ปีนี้

(+) BOJ 29 กค. คาดเพิ่มการซื้อ ETF และ REIT อีกเท่าตัว (จากปัจจุบัน 3 ล้านล้านเยน และ 9 หมื่นล้านเยน ตามลำดับ) และลดดอกเบี้ยจาก -0.1% เป็น -0.2%

(-) เมื่อวาน เยอรมนี Ifo เดือน กค. ภาคธุรกิจลงเหลือ 108.3 จาก 108.7 ตลาดคาด 107.5

(+/-) อังคาร US Consumer confidence Jul คาด 95.5 จาก 98, US New home sale Jun คาด 560K จาก 551K, เกาหลีใต้ GDP 2Q16 +2.9% จาก 2.8%, สิงคโปร์ Industrial production Jun คาด 0.4% จาก 0.9% y-y, ฟิลิปปินส์ Trade balance คาดขาดดุลลดลงเป็น -1.5 จาก -2.3 US$bn

(+) พุธ Thailand Custom trade balance Jun คาด +1.5US$bn คงที่ และส่งออกเดือน มิย. คาด -2.6% จาก -4.4% y-y, UK GDP 2Q16 1st คาด 0.5% จาก 0.4%, US Durable goods มิย. คาด -0.9% จาก -2.3% m-m.

(-) พฤหัส US Advance goods trade Jun, เยอรมนี CPI กค.คาด +0.3% Euro area Economic sentiment Jul, Thailand Manufacturing production คาด 2.3% จาก 2.6% y-y.

(+) ศุกร์ US GDP 2Q16 1st คาด +2.6% จาก +1.1%, EU area GDP 2Q16 1st คาด 0.3% จาก 0.6%, ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น, S.Korea Industrial production คาด +0.2% จาก +4.3% y-y. ไทย Current account มิย. คาด +2.8 จาก +2.2US$bn

ที่มา:บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง