อินโดฯเปิดเสรีอสังหาฯ เตรียมออกกฎหมายส.ค.นี้ให้ต่างชาติซื้อห้องชุดได้

29 ก.ค. 2559 | 02:00 น.
ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เตรียมออกกฎหมายฉุกเฉินให้ต่างชาติซื้อห้องอาคารชุดได้เผยเป็นส่วนหนึ่งในการหนุนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศชี้ก่อนหน้านี้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้เศรษฐีในประเทศที่ไปซุกทรัพย์สินในต่างประเทศเรียบร้อยแล้วหวังเงินลงทุนไหลกลับซื้อห้องชุดและอสังหาฯในประเทศเพื่อการลงทุนดันเศรษฐกิจโต

หนังสือพิมพ์สเตรตส์ไทม์ส รายงานว่ารัฐบาลอินโดนีเซียกำลังปฏิรูปกฎหมายธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดึงดูดนักลงทุนโดยจะเปิดโอกาสให้ต่างชาติสามารถซื้อและมีกรรมสิทธิ์ห้องในอาคารชุดได้หลังจากที่ได้แก้ปัญหาต่าง ๆ ให้แก่นักลงทุนในประเทศไปแล้วก่อนหน้านี้

[caption id="attachment_75911" align="aligncenter" width="408"] ลูฮัต ปันจาอีตัน (Luhut Panjaitan) รัฐมนตรีกิจการการเมือง กฎหมายและความมั่นคงของอินโดนีเซีย ลูฮัต ปันจาอีตัน (Luhut Panjaitan) รัฐมนตรีกิจการการเมือง กฎหมายและความมั่นคงของอินโดนีเซีย[/caption]

นายลูฮัต ปันจาอีตัน (Luhut Panjaitan) รัฐมนตรีกิจการการเมือง กฎหมายและความมั่นคงของอินโดนีเซียกล่าวว่า ภายใต้กฎหมายเดิมที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2503 ต่างชาติไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อและมีกรรมสิทธิ์ห้องอาคารชุดหรือบ้านได้แต่ กฎหมายใหม่ที่จะคาดว่าจะทำเสร็จในเดือนหน้านี้จะอนุญาตให้ต่างชาติซื้อและเป็นเจ้าของอาคารชุดได้

นายลูฮัต กล่าวว่าการปฏิรูปกฎหมายเพื่อเปิดเสรีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ โดยขณะนี้บรรดานายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์เริ่มตื่นตัวสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายใหม่แล้ว

สเตรตส์ไทม์ส ระบุว่าประธานาธิบดี โจโค วิโดโด จะออกกฎหมายฉุกเฉินซึ่งเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับทันทีในเดือนสิงหาคมเพื่ออนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อและถือกรรมสิทธิ์ห้องในอาคารชุดได้แต่ไม่รวมถึงบ้านพร้อมที่ดินโดยนายลูฮัต กล่าวว่า “มาตรการกระตุ้นธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว เราลอกแบบมาจากสิงคโปร์และมาเลเซียแต่ปรับปรุงให้เข้ากับเงื่อนไขภายในประเทศ

รัฐมนตรีกิจการการเมือง กฎหมายและความมั่นคงของอินโดนีเซียกล่าวว่า การเปิดโอกาสให้ต่างชาติซื้อห้องอาคารชุดได้จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับภาคอสังหาฯท้องถิ่น เนื่องจากราคาห้องชุดในสิงคโปร์กับอินโดนีเซียห่างกันมาก โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมทางภาษีให้แก่นักลงทุนในประเทศแล้ว ทำให้คนมีฐานะสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้มากขึ้น

กฎหมายนิรโทษกรรมของรัฐบาลประธานาธิบดีโจโค เป็นการนิรโทษแบบเหมารวมให้แก่คนร่ำรวยที่ซ่อนสินทรัพย์ในต่างประเทศโดยให้แจ้งต่อทางการได้โดยไม่ถูกลงโทษและลดภาษีให้กับคนที่กลับตัวด้วยโดยเชื่อว่าการนิรโทษดังกล่าวจะทำให้เงินลงทุนไหลกลับเข้าประเทศและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในบ้านและทำให้ราคาอสังหาฯ เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี มีกระแสวิจารณ์ว่ามาตรการของรัฐบาลจะสร้างผลกระทบให้แก่คนชั้นล่างและคนชั้นกลางที่จะต้องประสบกับปัญหาราคาบ้านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นจากความต้องการลงทุนของคนรวยในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากบริษัทในกรุงจาการ์ตาให้สัมภาษณ์สเตรตส์ไทม์ส ว่า “ถึงแม้ว่าต่างชาติจะได้รับอนุญาตให้ซื้ออาคารชุดในราคา 5,000 ล้านรูปี (ประมาณ 13.33 ล้านบาท) หรือมากกว่านั้นเท่านั้น ก็ยังมีผลกระทบต่อราคาห้องชุดในราคาต่ำกว่าอยู่ดี เชื่อว่าห้องอาคารชุดที่มีราคา 1,000 ล้านรูปี (ประมาณ 2.7 ล้านบาท) ซึ่งเป็นขนาดที่ชนชั้นกลางซื้อได้จะถีบตัวสูงขึ้นไปเป็น 1,200 ล้านรูปี”

สเตรตส์ไทม์ส ระบุว่าความต้องการซื้อบ้านของคนอินโดนีเซียมีระดับที่สูงมาก ตัวเลขในปี 2557 ระบุว่าความต้องการ คงค้างอยู่ที่ 13.5 ล้านหน่วย โดยนาง ราทิห์ รัตนาวูลัน นายหน้าค้าบ้านของบริษัท Era Radiant สำนักงานอยู่ชานกรุงจาการ์ตาให้สัมภาษณ์ว่า “ธุรกิจการซื้อขายบ้านเริ่มขยับตัวแล้ว หลังจากเงียบมา 2 ปี มีลูกค้าสอบถามเข้ามามากหลังวันฮารีรายอที่ผ่านมา ส่วนใหญ่สนใจบ้านราคา 2,000 ล้านรูปี และต่ำกว่า”

Photo : Pixabay ภาพปกไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,178 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559