นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคเริ่มมองหาช่องทางการลงทุนรูปแบบใหม่ ๆ ที่ให้โอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น บนระดับความเสี่ยงที่แต่ละคนสามารถยอมรับได้ ขณะเดียวกันก็ต้องสามารถใช้สิทธิประโยชน์เพื่อลดหย่อนภาษีได้ด้วย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคดังกล่าว ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิต ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบคู่การลงทุนรูปแบบใหม่ “เมืองไทย ยูแอล 1 สินเพิ่มทรัพย์ ในโครงการ Beyond Savings 1” ซึ่งเป็นประกันชีวิตแบบชำระเบี้ยครั้งเดียว (Single Premium) แต่ให้ความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 130% ของเบี้ยประกันชีวิตหรือของมูลค่าการลงทุน ณ ขณะนั้น แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า ตลอด 10 ปีของสัญญากรมธรรม์
ทั้งนี้ “เมืองไทย ยูแอล 1 สินเพิ่มทรัพย์ ในโครงการ Beyond Savings 1” มีจุดเด่นที่การเปิดโอกาสให้ผู้เอาประกันสามารถได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยจัดสรรเงินไปลงทุนในหุ้น สัดส่วนไม่เกิน 10% ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมของสถานการณ์ตลาดในช่วงนั้นๆ และจัดพอร์ตแบบกระจายความเสี่ยงในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนและภาครัฐที่มีอันดับความน่าเชื่อถือดี และเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสมกับระยะเวลาฝาก ซึ่งจะเป็นส่วนที่สร้างผลตอบแทนให้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อครบสัญญากรมธรรม์ในสิ้นปีที่ 10 ผู้เอาประกันจะได้รับเงินครบสัญญาเท่ากับมูลค่าการลงทุน ณ เวลานั้น หรือรับ 115% ของเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระครั้งเดียว (แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า) ผู้เอาประกันจึงอุ่นใจได้มากยิ่งขึ้น
“แบบประกันนี้เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องมือทางการเงินเพื่อเก็บออมระยะยาว พร้อมกับเปิดโอกาสที่จะรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้น้อย รวมถึงได้รับความคุ้มครองชีวิตตลอดระยะเวลาที่ลงทุน ขณะเดียวกันก็ยังได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีควบคู่กันไปด้วย จึงนับเป็นทางเลือกการบริหารเงินที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้หลากหลายและตรงจุดจริงๆ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางที่ เมืองไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญมาตลอด”
นายสาระ กล่าวอีกว่า แบบประกัน “เมืองไทย ยูแอล 1 สินเพิ่มทรัพย์ ในโครงการ Beyond Savings 1” จะเปิดขายระหว่างวันที่ 25 ก.ค. – 30 ก.ย. 2559 เท่านั้น เริ่มรับประกันตั้งแต่อายุ 0-65 ปี เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 50,000 บาท