กรุงไทยสนับสนุนเงินทุนให้กองทุนอ้อยฯช่วยเหลือชาวไร่อ้อยกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

22 ก.ค. 2559 | 07:55 น.
ธนาคารกรุงไทยสนับสนุนเงินทุนให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย วงเงิน 15,047.53 ล้านบาท ในอัตราตันละ 160 บาท จากปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งประเทศ 94.05 ล้านตัน เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยฤดูการผลิตปี 2558/59  รักษาเสถียรภาพอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ

วันนี้ ( 22 ก.ค.2559 ) ดร.พสุ โลหารชุน  อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม รักษาราชการแทน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุน นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงไทย นายวีระศักดิ์  ขวัญเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย และ นางจรี วุฒิสันติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจขนาดใหญ่ 1 ร่วมแถลงข่าว การสนับสนุนเงินทุนเพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยฤดูการผลิต ปี2558/59

ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2559 อนุมัติให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือธนาคารพาณิชย์อื่น เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยฤดูการผลิตปี 2558/59 ในอัตราตันละ 160 บาท เพื่อให้ชาวไร่อ้อยได้รับค่าอ้อยในระดับใกล้เคียงกับต้นทุนการผลิตตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม (คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย) เสนอ โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนเห็นชอบให้กู้เงินจาก ธนาคารกรุงไทย ซึ่งธนาคารอนุมัติให้การสนับสนุนสินเชื่อวงเงินจำนวน 15,047.53 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี เพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อยประมาณ 153,000 ราย และรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย รวมถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ได้ลงนามในสัญญากู้เงินไปแล้วเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 โดยเป็นการร่วมมือกันครั้งแรกระหว่าง ธนาคารกรุงไทย และ กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย

ในการนี้  ธนาคารกรุงไทย ได้จ่ายเงินกู้งวดแรกเข้าบัญชีชาวไร่อ้อยไปแล้ว เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2559 เป็นเงินจำนวน  14,236.04 ล้านบาท หรือคิดเป็น 94.61% ของวงเงินกู้ทั้งหมด ให้แก่ชาวไร่อ้อย จำนวน 130,975 ราย และกำหนดจ่ายเงินกู้ งวดที่ 2 ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 เป็นเงินจำนวน 603.93 ล้านบาท ให้แก่ชาวไร่อ้อย จำนวน 16,772   ราย

อนึ่ง กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจะเร่งดำเนินการจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อยส่วนที่เหลือโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย โดยได้ประสานงานกับคณะทำงานควบคุมการผลิตประจำโรงงานน้ำตาล และเขตประสานงานของสำนักบริหารอ้อยและน้ำตาลทรายให้จัดทำเอกสารการขอรับเงินของชาวไร่อ้อย พร้อมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารต่างๆ ส่งที่สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายตามแนวทางที่เคยดำเนินการทุกปี  โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งคณะกรรมการกำกับตรวจสอบดูแลการจ่ายเงินอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้เงินเข้าบัญชีชาวไร่อ้อยทุกรายที่ส่งเอกสารครบถ้วนถูกต้องและได้ผ่านการตรวจสอบรับรองตามขั้นตอนอย่างถูกต้องโปร่งใสตรวจสอบได้