‘มาม่า’โดดชิงตลาดเส้นเปลือย แก้เกมบะหมี่ซองอืด /วางเป้าปีแรกยอดขาย 200 ล้าน

25 ก.ค. 2559 | 06:00 น.
“มาม่า” ส่งเส้นหมี่และเส้นก๋วยเตี๋ยว ชิงตลาด 2,000 ล้าน เสริมยอดขายช่วงตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทรงตัว วางเป้าหมายปีแรกทำยอดขาย 200 ล้าน พร้อมลุยขยายช่องทางโมเดิร์นเทรดในต่างประเทศเพิ่มทั้งยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย เจาะฐานลูกค้าฝรั่ง

นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว อาทิ เส้นหมี่ เส้นก๋วยเตี๋ยว โจ๊ก ภายใต้แบรนด์มาม่า (MAMA) บริษัทในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ได้นำสินค้าเส้นหมี่และเส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดไม่มีเครื่องปรุง หรือที่เรียกว่าเส้นเปลือย เปิดตัวทำตลาดภายในประเทศ จากปัจจุบันที่ส่งออกทำตลาดในต่างประเทศเป็นหลัก โดยจะเน้นเจาะตลาดกลุ่มร้านค้า ร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านอาหาร ที่จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสำหรับปรุงและประกอบอาหาร

การนำสินค้าดังกล่าวทำตลาดในประเทศ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ในภาวะทรงตัว การเพิ่มสินค้าใหม่เข้ามาเสริมการทำตลาด จะช่วยเพิ่มยอดขายและเป็นสินค้าที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัทได้ด้วย ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะทำยอดขายได้ประมาณ 100 ล้านบาท และในระยะเวลา 1 ปีน่าจะมียอดขายได้ 200 ล้านบาท จากปัจจุบันตลาดนี้มีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท มีแบรนด์ไวไวเป็นผู้นำตลาดหลัก นอกจากนี้ยังมีสินค้าแบรนด์ท้องถิ่นอยู่เป็นจำนวนมากที่กระจายอยู่ในแต่ละพื้นที่
แนวทางการทำตลาดในเบื้องต้นจะเน้นการกระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางร้านค้าทั่วไป เนื่องจากเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง และจะขยายสู่ช่องทางไฮเปอร์มาร์เก็ตต่อไป ซึ่งสินค้าแต่ละแบรนด์ที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบันไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมากนัก จะเน้นการแข่งขันกันในเรื่องของราคาเป็นหลัก ซึ่งแนวทางการทำตลาดของมาม่าจะชูเรื่องคุณภาพสินค้าเป็นหลัก ขณะที่ราคาจำหน่ายจะอยู่ในระดับเดียวกันกับสินค้าในท้องตลาด คือจะมีราคาประมาณ 12-14 บาท ในขนาด 450-500 กรัม

"สินค้ากลุ่มนี้หากทำตลาดดีๆ บริษัทน่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 20% แต่อาจจะไม่ได้ช่วยทำให้บริษัทมีกำไรมากนัก เพราะเป็นสินค้าที่แข่งขันกันด้านราคา การทำตลาดกลุ่มเส้นหมี่เปลือยจะช่วยในเรื่องของการเพิ่มกำลังการผลิตชดเชยจากตลาดที่ชะลอตัว แต่บริษัทมีต้นทุนคงที่อยู่แล้ว และมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทุกปี อย่างค่าแรงบริษัทปรับทุกปี ต้นทุนข้าวปีนี้ก็สูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 11-12 บาท จากช่วงมีโครงการรับจำนำข้าวอยู่ที่กิโลกรัมละ 9 บาท ช่วง 2 ปีที่ผ่านตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่เติบโต การเพิ่มสินค้าใหม่ในตลาดก็จะทำให้เพิ่มยอดขายได้ด้วย"

สำหรับปีนี้บริษัทเป้าหมายรายได้ประมาณ 1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามีรายได้ 1,309 ล้านบาท และในปีหน้าน่าจะทำได้ 1,500 ล้านบาท โดยแผนการดำเนินธุรกิจยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศกัมพูชา เมียนมา และมาเลเซีย รวมถึงตลาดสำคัญในกลุ่มประเทศยุโรป สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ซึ่งจะขยายการจำหน่ายสินค้าเข้าสู่ช่องทางโมเดิร์นเทรดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ที่จับกลุ่มลูกค้าชาวตะวันตกเพิ่มมากขึ้นด้วย อาทิ เส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่ รสต้มจืด และรสผัก จากเดิมที่จับตลาดลูกค้าเอเชียที่อยู่ในต่างประเทศเป็นหลัก คาดว่าปีนี้สัดส่วนยอดขายในประเทศและต่างประเทศจะใกล้เคียงกัน จากปัจจุบันยอดขายในประเทศมีสัดส่วน 55% และต่างประเทศ 45%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,177 วันที่ 24 - 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559