บลจ.กสิกรไทยเผยเหตุการณ์ความไม่สงบในตุรกี ไม่กระทบกองทุน term fund

20 ก.ค. 2559 | 08:45 น.
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์รัฐประหารในตุรกีเมื่อคืนวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 ที่ทหารบางกลุ่มพยายามเข้ายึดอำนาจการปกครองจากประธานาธิบดีคนปัจจุบัน คือนายรีเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน  เนื่องจากความไม่พอใจที่นายเออร์โดกันต้องการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญจากระบบรัฐสภามาเป็นระบบประธานาธิบดี ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย จนถึงขณะนี้สถานการณ์มีแนวโน้มผ่อนคลายลงโดยรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เพราะกลุ่มนายทหารระดับสูงรวมทั้งองค์การนาโต้ให้การสนับสนุนรัฐบาล

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน โดยค่าเงินลีราของตุรกีอ่อนค่าลงทันที 5.37%  และในส่วนของการลงทุนของบลจ.กสิกไทยในตุรกี ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย มีการลงทุนบางส่วนในเงินฝากและตราสารหนี้ระยะสั้นของธนาคารชั้นนำในตุรกีที่มีระดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) โดยเกือบทั้งหมดเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการ (Term Fund) ซึ่งมีอายุ 3 เดือน 6 เดือนและ 12 เดือน ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่นำเสนอขายสำหรับผู้ลงทุนในกลุ่ม AI หรือผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้มีเงินลงทุนสูง โดยบลจ.กสิกรไทยมีกระบวนการพิจารณาคัดเลือกและวิเคราะห์ความเสี่ยงของตราสารและประเทศที่ลงทุนอย่างรอบคอบและรัดกุม อาทิ การกำหนดสัดส่วนการลงทุนในตุรกีในกองทุน Term Fund ไม่เกิน 40% ของมูลค่ากองทุน นอกจากนี้กองทุน Term Fund ยังมีนโยบายในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100% และไม่มีการลงทุนในตราสารในสกุลเงินของตุรกี เนื่องจากกองทุนจะลงทุนในรูปของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจึงไม่เกิดผลกระทบโดยตรงจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินตุรกีแต่อย่างใด

นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทยได้มีการวิเคราะห์เศรษฐกิจก่อนเหตุการณ์ในครั้งนี้ ว่าตุรกีมีอัตราการเติบโตของจีดีพีที่แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 4.2% ในปี 2558 และจากการที่ค่าเงินตุรกีมีเสถียรภาพขึ้น ในปีนี้จึงคาดว่าภาคธนาคารจะยังมีผลประกอบการที่ดี ผู้ลงทุนจึงสามารถคลายความกังวลได้ อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทยจะมีการติดตามสถานการณ์และประเมินเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดผลกระทบแก่ผู้ลงทุนน้อยที่สุด