การ์มิช-พาร์เทนเคียเชน ก่อนพิชิตเทือกเขาแอลป์
การ์มิช-พาร์เท่นเคียเช่น (Garmisch-Partenkirchen) แม้จะเป็นเมืองตากอากาศเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมิวนิค ประเทศเยอรมนี แต่ด้วยความที่เมืองแห่งนี้อยู่ใกล้ "เทือกเขาแอลป์" ทำให้เมืองแห่งนี้ เป็นจุดพำนักที่สำคัญ ก่อนที่จะเดินทางสู่ "ยอดเขาซุกสปิตเซ่" (Zugspitze) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมันนี เพื่อขึ้นไปชมวิวแบบพาโนรามาของ "เทือกเขาแอลป์" เทือกเขาที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทั้งเมืองแห่งนี้ ยังกลายเป็นจุดหมายสำคัญของบรรดานักไต่เขาหรือนักเล่นสกีจากทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาฤดูหนาว ลานสเก็ตน้ำแข็ง และลู่แข่งสกีโอลิมปิก
[caption id="attachment_74079" align="aligncenter" width="335"]
Garmisch-Partenkirchen[/caption]
แม้ช่วงเวลาที่ Take a trip มาเยือนที่นี่ จะตรงกับช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ก็สวยไปอีกแบบ โดยเราใช้เวลาราว 2-3 ชั่วโมงในการเดินทางโดยรถบัสจาก "เมืองมิวนิค" มายัง "เมืองการ์มิช" ด้วยความที่เราเดินทางมาถึงเมืองแห่งนี้ในช่วงหกโมงเย็น ซึ่งร้านรวงต่าง ๆ ก็จะปิดกันหมดแล้ว แต่กระนั้นเสน่ห์ของเมืองกลับ ไม่ได้หมดลงตามแสงอาทิตย์อัสดง เพราะเรายังคงเผยให้เห็นความงดงามของบ้านเรือนตามแบบ "บาวาเรีย"ดั้งเดิม ตามผนังของตึกต่าง ๆ ยังคงภาพเขียนถ่ายทอดเรื่องราวในคริสต์ศาสนาได้อย่างสมบูรณ์ ผสานกับหมู่มวลไม้ดอกที่แย่งกันเบ่งบานรับฤดูใบไม้ผลิต ยิ่งช่วยสร้างความสวยงามให้กับเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มากขึ้นไปอีก
ขณะที่ยามเช้าของที่นี่ ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะจากเมืองเล็ก ๆนี้ สามารถมองเห็นยอดเขาซุกสปิตเซ่ได้อย่างชัดเจน สวยจนเกินบรรยาย หลังจากเก็บภาพจนเป็นที่พอใจ และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นสู่ยอดเขาซุกสปิตเช่
ซึ่งจากตัวเมือง ต้องนั่งรถไฟไปยังสถานีที่มียอดเขาซุกสปิตเซ่ เป็นจุดหมายปลายทาง บรรยากาศสองข้างทาง เปี่ยมไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจีสลับดอกไม้หลากหลายพันธ์ ต่างเบ่งบานต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ และฝูงสัตว์เลี้ยงออกมาแทะเล็มหญ้ารับอากาศเย็นสบาย
[caption id="attachment_74078" align="aligncenter" width="335"]
Garmisch-Partenkirchen[/caption]
หลังเพลิดเพลินกับธรรมชาติข้างทางมาเกือบ 1 ชั่วโมง ก็ต้องมาเปลี่ยนมาขึ้นกระเช้าไฟฟ้า มุ่งหน้าสู่ยอดเขาซุกสปิตเซ่ และแล้ววิวพาโนรามาเบื้องหน้า สวยงามเกินที่บรรยาย กับภาพเทือกเขาแอลป์ถูกปกคลุมด้วยหิมะตั้งตระหง่านท่ามกลางท้องฟ้าสดใส ยามแสงแดดส่องกระทบหิมะ สะท้อนเข้าตาเปรียบเสมือนเพชรเม็ดงาม ทั้งเมื่อมองลงไปยังเบื้องล่างก็เห็นทะเลสาบอยู่ไกล ๆ ท่ามกลางผืนป่าเขียวขจี ซึ่งเราใช้เวลาพอสมควรกับการบันทึกภาพธรรมชาติอันสวยงาม และเก็บเกี่ยวความทรงจำอันมีค่า กับประสบการณ์ ณ เมืองแห่งนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,176 วันที่ 21 - 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_74079" align="aligncenter" width="335"]
แม้ช่วงเวลาที่ Take a trip มาเยือนที่นี่ จะตรงกับช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ก็สวยไปอีกแบบ โดยเราใช้เวลาราว 2-3 ชั่วโมงในการเดินทางโดยรถบัสจาก "เมืองมิวนิค" มายัง "เมืองการ์มิช" ด้วยความที่เราเดินทางมาถึงเมืองแห่งนี้ในช่วงหกโมงเย็น ซึ่งร้านรวงต่าง ๆ ก็จะปิดกันหมดแล้ว แต่กระนั้นเสน่ห์ของเมืองกลับ ไม่ได้หมดลงตามแสงอาทิตย์อัสดง เพราะเรายังคงเผยให้เห็นความงดงามของบ้านเรือนตามแบบ "บาวาเรีย"ดั้งเดิม ตามผนังของตึกต่าง ๆ ยังคงภาพเขียนถ่ายทอดเรื่องราวในคริสต์ศาสนาได้อย่างสมบูรณ์ ผสานกับหมู่มวลไม้ดอกที่แย่งกันเบ่งบานรับฤดูใบไม้ผลิต ยิ่งช่วยสร้างความสวยงามให้กับเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มากขึ้นไปอีก
ขณะที่ยามเช้าของที่นี่ ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะจากเมืองเล็ก ๆนี้ สามารถมองเห็นยอดเขาซุกสปิตเซ่ได้อย่างชัดเจน สวยจนเกินบรรยาย หลังจากเก็บภาพจนเป็นที่พอใจ และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นสู่ยอดเขาซุกสปิตเช่
ซึ่งจากตัวเมือง ต้องนั่งรถไฟไปยังสถานีที่มียอดเขาซุกสปิตเซ่ เป็นจุดหมายปลายทาง บรรยากาศสองข้างทาง เปี่ยมไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจีสลับดอกไม้หลากหลายพันธ์ ต่างเบ่งบานต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ และฝูงสัตว์เลี้ยงออกมาแทะเล็มหญ้ารับอากาศเย็นสบาย
[caption id="attachment_74078" align="aligncenter" width="335"]
หลังเพลิดเพลินกับธรรมชาติข้างทางมาเกือบ 1 ชั่วโมง ก็ต้องมาเปลี่ยนมาขึ้นกระเช้าไฟฟ้า มุ่งหน้าสู่ยอดเขาซุกสปิตเซ่ และแล้ววิวพาโนรามาเบื้องหน้า สวยงามเกินที่บรรยาย กับภาพเทือกเขาแอลป์ถูกปกคลุมด้วยหิมะตั้งตระหง่านท่ามกลางท้องฟ้าสดใส ยามแสงแดดส่องกระทบหิมะ สะท้อนเข้าตาเปรียบเสมือนเพชรเม็ดงาม ทั้งเมื่อมองลงไปยังเบื้องล่างก็เห็นทะเลสาบอยู่ไกล ๆ ท่ามกลางผืนป่าเขียวขจี ซึ่งเราใช้เวลาพอสมควรกับการบันทึกภาพธรรมชาติอันสวยงาม และเก็บเกี่ยวความทรงจำอันมีค่า กับประสบการณ์ ณ เมืองแห่งนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,176 วันที่ 21 - 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559