‘โรงพยาบาลเอกชัย’กำไรติดท็อปไฟว์ นักวิเคราะห์มองหุ้นโรงพยาบาลโตต่อเนื่อง 2 ปี

21 ก.ค. 2559 | 12:00 น.
หุ้นไอพีโอน้องใหม่ “เอกชัยการแพทย์” เร่งนำเงินระดมทุนสร้างศูนย์กุมารเวช คาดหนุนรายได้โต 15% ปี 2562 ชูจุดเด่นอัตรากำไรสุทธิ14.7% ต่อปี ติดท็อปไฟว์โรงพยาบาลเอกชน ยํ้าไม่ขาย ไม่ซื้อกิจการ ขอโตแบบสแตนด์อะโลน ยันผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มแพทย์ 20 คน หัวหอกรันธุรกิจถือหุ้นรวม 10% ปักหลักแน่น นักวิเคราะห์มองหุ้นโรงพยาบาลโตต่อเนื่อง2 ปีข้างหน้า

[caption id="attachment_73427" align="aligncenter" width="700"] กำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิ กำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิ[/caption]

นพ.อำนาจ เอื้ออารีมิตร ผู้อำนวยการ บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.)(EKH )ผู้ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชัย ในจังหวัดสมุทรสาคร ให้สัมภาษณ์”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า หลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน ซึ่งเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวน 508.74 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่จำนวน 200 ล้านบาท รวมถึงใช้ปรับปรุงอาคารโรงพยาบาลเดิมและลานจอดรถจำนวน 50 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ทั้งนี้ศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ของโรงพยาบาลเอกชัย เป็นอาคาร 5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 7,200 ตร.ม. มีห้องพักผู้ป่วยรองรับจำนวนเตียงผู้ป่วยใน 50 เตียง เริ่มก่อสร้างอาคารภายในปี 2560 เปิดให้บริการต้นปี 2562 คาดว่าทำให้รายได้รวมของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 15 % ต่อปี ขณะที่ปี 2559-2561 คาดว่าเติบโต 10-12 % ต่อปี เทียบ 3 ปีที่ผ่านมา (2556-2558) เติบโต 9-10 % ต่อปี ล่าสุดปี 2558 มีรายได้รวม 438.61 ล้านบาท โดยศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่จะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 7 ปี

“เรามีอัตรากำไรขั้นต้นหรือมาร์จิ้นที่ 35 % มีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin ) ที่ 14.7 % ต่อปี ติดท็อปไฟว์ ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ”

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสแรก มีรายได้รวม 119.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.56 %เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่หรือกว่า 98% มาจากรายได้กิจการโรงพยาบาล และที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ โดยสัดส่วนรายได้มาจากผู้ป่วยนอก (OPD) 46.87% รายได้จากผู้ป่วยใน 53.13% และหากแยกตามแผนกศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินครองสัดส่วนรายได้อันดับ 1 ที่ 31.57% อันดับ 2 ศูนย์อายุรกรรม 19.55% อันดับ 3 ศูนย์กุมารเวช 18.94% อันดับ 4 ศูนย์สูติ-นรีเวช 7.08% และศูนย์อื่นๆ สัดส่วน 22.86%

นพ.อำนาจกล่าวย้ำว่าหลังจากเป็นบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในSET ไม่มีนโยบายขยายธุรกิจด้วยการซื้อหรือควบรวมกิจการ อีกทั้งผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทไม่มีนโยบายขายกิจการด้วย นอกจากนี้กลุ่มแพทย์ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกิจการและเป็นบุคลากรสำคัญของโรงพยาบาลจำนวน 20 คน ที่ถือหุ้นรวมกัน 10 % ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่บริษัทจะใช้วิธีขยายขนาดธุรกิจที่มีอยู่ให้ใหญ่ขึ้น โดยมีพื้นที่รองรับมากถึง 13 ไร่ ขณะที่ปัจจุบันใช้ไปเพียง 5 ไร่

บมจ.เอกชัยการแพทย์ เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 166.80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายนักลงทุนทั่วไป 156.80 ล้านหุ้น เสนอขายกรรมการและพนักงาน จำนวน 10 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.05 บาท มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (พีอี เรโช) ที่ 30.50 เท่า ให้ส่วนลดแก่นักลงทุน 29.85% เมื่อเปรียบเทียบพีอี เฉลี่ยของหมวดธุรกิจการแพทย์ 3 เดือนย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน – 6 กรกฎาคม 2559 ซึ่งเท่ากับ 43.48 เท่า

ด้านมุมมองของนักวิเคราะห์ที่มีต่อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล โดยนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริหารการลงทุน บมจ.หลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2559 ของกลุ่มโรงพยาบาล จะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก ที่มีกำไรสุทธิรวม 3,842 ล้านบาท (BDMS-BH-BCHVIBHA-CHG) โดยเป็นผลมาจากได้รับอานิสงส์ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนทำให้มียอดผู้ป่วยที่เข้ามารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น

พร้อมกันนี้ผลประกอบการหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล จะเติบโตดีขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 3-4/2559 เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว (ช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นไฮซีซันของกลุ่มโรงพยาบาล) ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้ป่วยเข้ารักษาพยาบาลจำนวนมากทำให้หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมีผลประกอบการที่เติบโตขึ้นทั้งกลุ่ม

สอดคล้องกับบทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ช่วงปลายไตรมาสที่ 2 และไตรมาส 3 ไปจนถึงปลายปีจะเป็นช่วงไฮซีซันของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวจะมียอดผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และช่วง 2 ปีข้างหน้าหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล ก็ยังเติบโตต่อเนื่องจากการขยายสาขาของกลุ่มนี้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,175 วันที่ 17 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559