เบนซ์ E 220 d AMG Dynamic สมรรถนะดุดันแฝงความอัจฉริยะ
เมื่อเร็วๆ นี้ ค่าย เมอร์เซเดส เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้เปิดตัว อี-คลาส โฉมใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 10 รหัส W213 โดยเลือกรุ่นเครื่องดีเซลนำเข้ามาจำหน่ายก่อนด้วย E 220 d Exclusive ราคายั่วใจแค่ 3.99 ล้านบาท และ E 220 d AMG Dynamic ที่มีการเสริมชุดตกแต่งสปอร์ตรอบคัน ราคา 4.79 ล้านบาท
[caption id="attachment_72210" align="aligncenter" width="500"]
E 220 d AMG Dynamic[/caption]
เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส โมเดลล่าสุดนี้ นับเป็นซีดานสุดหรูที่แฝงด้วยความอัจฉริยะอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งในเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ช่วยลด อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันและการปล่อยก๊าซ CO2 ลงได้อย่างดีเกินคาด ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยให้การขับขี่ มีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED แบบความละเอียดสูง ที่ทำงานด้วยระบบดิจิตอลทั้งหมด รวมถึงระบบ Active Light ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าเป็นครั้งแรกของโลก
ดีไซน์ภายนอก The new E-Class มีขนาดตัวถังและฐานล้อที่ยาวและกว้างขึ้น ผสานกับ ฝากระโปรงหน้าที่ดูยาว เส้นสายของส่วนหลังคาที่ออกแบบในสไตล์รถคูเป้ ทอดตัวเป็นเส้นโค้งยาวจรดด้านหลังของตัวรถ นอกจากนี้ รูปลักษณ์ด้านหลังของตัวรถได้รับการออกแบบให้ ซุ้มล้อหลังดูกว้างกว่าซุ้มล้อหน้า เพื่อแสดงเอกลักษณ์ที่โดดเด่น พร้อมติดตั้งโคมไฟท้ายแบบชิ้นเดียวโดยด้านในโคมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ทำให้มีรูปลักษณ์ที่ดูหรูหราอย่างมีระดับภายในห้องโดยสาร ออกแบบให้หรูหรา ล้ำสมัย สำหรับรุ่น The new E 220 d AMG Dynamic จะมาพร้อมกับชุดหน้าจอ ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ของรถยนต์ในเซ็กเมนต์นี้ ที่มีการติดตั้งจอดังกล่าว นอกจากนี้ ยังเพิ่มสุนทรียภาพเหมือนการนั่งในเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลน์เนอร์ ด้วยระบบเส้นสายไฟสี สร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ที่ปรับได้ถึง 64 สี
[caption id="attachment_72212" align="aligncenter" width="500"]
E 220 d AMG Dynamic[/caption]
มาถึงด้านสมรรถนะในการขับขี่ E 220 d AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบที่พัฒนาขึ้นใหม่ และระบบเกียร์อัตโนมัติ ชุดใหม่ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผมยังสามารถตั้งโหมดการขับได้ตามต้องการ ด้วยระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 5 แบบ คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual ที่ปรับการเปลี่ยนเกียร์ให้ดุดันมากขึ้น พร้อมๆกับช่วงล่างที่กระด้างขึ้น เพื่อการขับขี่เร้าใจในช่วงความเร็วสูง เหมือนได้เป็นเจ้าของรถ 5 คัน 5 แบบ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1,950 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที และให้แรงบิดจัดๆมาเต็มๆ 400 นิวตัน-เมตรที่รอบต่ำแค่ 1,600 รอบ/นาที ไปจนถึง 2,800 รอบ/นาที ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 7.3 วินาทีเท่านั้น แม้สมรรถนะดุดันขนาดนี้ แต่ก็เป็นเครื่องดีเซลสะอาด เพราะมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงแค่ 102 กรัม/กม.เท่านั้น แต่ด้วยโครงสร้างรถที่ได้รับการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์ และมีน้ำหนักเบาลง ส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำเพียง 25.6 กม./ลิตร
[caption id="attachment_72211" align="aligncenter" width="500"]
E 220 d AMG Dynamic[/caption]
E 220 d AMG Dynamic ติดตั้งเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะมากมาย เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่ ถุงลมนิรภัยด้านข้าง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่ง ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติESP ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill - Start Assist ระบบรักษาความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบเตือนแรงดันลมยาง เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด PARKTRONIC ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist และยังมีกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ เพื่อทัศนวิสัยในยามค่ำคืน ซึ่งปรับแบ่งครึ่งเองเมื่อมีรถสวนทางมา
โดยภาพรวม เบนซ์ E 220 d AMG Dynamic ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ดุดัน เกินตัว พร้อมเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะมากมาย แต่ยังเต็มเปี่ยมด้วยความหรูหรา ล้ำสมัย สะท้อนความภาคภูมิในการเป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี แต่ราคายังสูงไปนิด เพราะเป็นการนำเข้าทั้งคัน เหมาะสำหรับลูกค้ากระเป๋าหนักที่ต้องการเป็นเจ้าของยนตรกรรมที่โดดเด่นเป็นรายแรกๆ ครับ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,175 วันที่ 17 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_72210" align="aligncenter" width="500"]
เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส โมเดลล่าสุดนี้ นับเป็นซีดานสุดหรูที่แฝงด้วยความอัจฉริยะอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งในเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ช่วยลด อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันและการปล่อยก๊าซ CO2 ลงได้อย่างดีเกินคาด ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยให้การขับขี่ มีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED แบบความละเอียดสูง ที่ทำงานด้วยระบบดิจิตอลทั้งหมด รวมถึงระบบ Active Light ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าเป็นครั้งแรกของโลก
ดีไซน์ภายนอก The new E-Class มีขนาดตัวถังและฐานล้อที่ยาวและกว้างขึ้น ผสานกับ ฝากระโปรงหน้าที่ดูยาว เส้นสายของส่วนหลังคาที่ออกแบบในสไตล์รถคูเป้ ทอดตัวเป็นเส้นโค้งยาวจรดด้านหลังของตัวรถ นอกจากนี้ รูปลักษณ์ด้านหลังของตัวรถได้รับการออกแบบให้ ซุ้มล้อหลังดูกว้างกว่าซุ้มล้อหน้า เพื่อแสดงเอกลักษณ์ที่โดดเด่น พร้อมติดตั้งโคมไฟท้ายแบบชิ้นเดียวโดยด้านในโคมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ทำให้มีรูปลักษณ์ที่ดูหรูหราอย่างมีระดับภายในห้องโดยสาร ออกแบบให้หรูหรา ล้ำสมัย สำหรับรุ่น The new E 220 d AMG Dynamic จะมาพร้อมกับชุดหน้าจอ ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ของรถยนต์ในเซ็กเมนต์นี้ ที่มีการติดตั้งจอดังกล่าว นอกจากนี้ ยังเพิ่มสุนทรียภาพเหมือนการนั่งในเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลน์เนอร์ ด้วยระบบเส้นสายไฟสี สร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ที่ปรับได้ถึง 64 สี
[caption id="attachment_72212" align="aligncenter" width="500"]
มาถึงด้านสมรรถนะในการขับขี่ E 220 d AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบที่พัฒนาขึ้นใหม่ และระบบเกียร์อัตโนมัติ ชุดใหม่ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผมยังสามารถตั้งโหมดการขับได้ตามต้องการ ด้วยระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 5 แบบ คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual ที่ปรับการเปลี่ยนเกียร์ให้ดุดันมากขึ้น พร้อมๆกับช่วงล่างที่กระด้างขึ้น เพื่อการขับขี่เร้าใจในช่วงความเร็วสูง เหมือนได้เป็นเจ้าของรถ 5 คัน 5 แบบ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1,950 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที และให้แรงบิดจัดๆมาเต็มๆ 400 นิวตัน-เมตรที่รอบต่ำแค่ 1,600 รอบ/นาที ไปจนถึง 2,800 รอบ/นาที ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 7.3 วินาทีเท่านั้น แม้สมรรถนะดุดันขนาดนี้ แต่ก็เป็นเครื่องดีเซลสะอาด เพราะมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงแค่ 102 กรัม/กม.เท่านั้น แต่ด้วยโครงสร้างรถที่ได้รับการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์ และมีน้ำหนักเบาลง ส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำเพียง 25.6 กม./ลิตร
[caption id="attachment_72211" align="aligncenter" width="500"]
E 220 d AMG Dynamic ติดตั้งเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะมากมาย เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่ ถุงลมนิรภัยด้านข้าง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่ง ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติESP ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill - Start Assist ระบบรักษาความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบเตือนแรงดันลมยาง เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด PARKTRONIC ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist และยังมีกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ เพื่อทัศนวิสัยในยามค่ำคืน ซึ่งปรับแบ่งครึ่งเองเมื่อมีรถสวนทางมา
โดยภาพรวม เบนซ์ E 220 d AMG Dynamic ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ดุดัน เกินตัว พร้อมเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะมากมาย แต่ยังเต็มเปี่ยมด้วยความหรูหรา ล้ำสมัย สะท้อนความภาคภูมิในการเป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี แต่ราคายังสูงไปนิด เพราะเป็นการนำเข้าทั้งคัน เหมาะสำหรับลูกค้ากระเป๋าหนักที่ต้องการเป็นเจ้าของยนตรกรรมที่โดดเด่นเป็นรายแรกๆ ครับ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,175 วันที่ 17 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559