มาสด้าโกย 2.1 หมื่นคัน สุดปลื้ม! ครึ่งปีแรกโตสวนกระแสตลาด 26%
มาสด้าสุดปลื้ม ครึ่งปีแรกโกยยอดขาย2.1 หมื่นคัน โตสวนตลาดเฉียด 26% รั้งอันดับ3 ตลาดรถเก๋ง ชี้ลูกค้าเชื่อมั่นการสร้างแบรนด์เตรียมส่งรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ลงตลาดครึ่งปีหลังคาดทั้งปีฟันยอดทะลุเป้า 4.2 หมื่นคัน
[caption id="attachment_70760" align="aligncenter" width="335"]
ฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ
ประธานบริหาร
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ไทยได้รับผลพวงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดย 6 เดือนแรก ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นคัน เนื่องจากได้รับผลกระทบทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ช่วงครึ่งปีแรกยอดขายโดยรวมของอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ 3.7 แสนคัน ส่วนช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าสถานการณ์จะมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้น คาดว่ายอดขายรถยนต์จะเพิ่มขึ้นอีก 4.1 แสนคัน ดังนั้นเมื่อถึงสิ้นปี 2559 ยอดขายตลาดรวมจะทะลุ 7.8 แสนคัน ด้วยปัจจัยด้านบวกที่เกื้อหนุนมากขึ้น โดยตลาดรถยนต์ครึ่งปีหลัง จะได้ปัจจัยบวกจาก การที่รถยนต์คันแรกใกล้ครบกำหนดระยะ 5 ปีในการถือครอง จึงเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมองหารถยนต์รุ่นใหม่ที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นจากปัญหาภัยแล้งที่คลี่คลาย กำลังซื้อโดยรวมของครัวเรือนที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัว7.6 %
“ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ตลาดหดตัวลง แต่บริษัททำยอดขายได้ถึง 21,160 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 5.7% สูงสุดนับตั้งแต่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ที่สำคัญเป็นค่ายเดียวที่ยอดขายพุ่งขึ้นได้สูงสุดในตลาดถึง 25.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่ผ่านมา ที่มียอดขายอยู่ที่ 16,837 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์รถยนต์นั่งที่มาสด้าสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 13% กลายเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง และในตลาดรถอเนกประสงค์นั้น สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 8.0% (รวม PPV)”
นายทาเกสึเอะ กล่าวต่อไปว่า สำหรับช่วงครึ่งปีหลังนี้ ยังคงเน้นการเพิ่มเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รุ่น เพื่อเสริมสมรรถนะในการขับขี่และการประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตอบสนองการใช้งานและมาตรฐานที่เข้มงวดมากขึ้นในอนาคต สำหรับแผนเพิ่มยอดขายปีนี้นั้น มุ่งหวังที่จะเน้นสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นหลักเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและคุณค่าให้กับแบรนด์ ควบคู่ไปกับการออกแคมเปญกระตุ้นยอดขาย จากผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2559 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า มาสด้านั้นเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด ซึ่งการเติบโตนี้เป็นผลมาจากการมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์และเน้นความเป็นพรีเมียมแบรนด์ที่ได้บุกเบิกเมื่อปี 2558 และช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ มาสด้ายังคงมั่นใจว่าจะยังเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขาย 4.2 หมื่นคัน ได้อย่างแน่นอน มีส่วนแบ่งการตลาด 5.4% โดยยังมีเป้าหมายที่จะรักษาอันดับ 3 ในกลุ่มรถยนต์นั่ง
ด้านนายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ปีนี้จะเน้นย้ำเรื่องการบริการหลังการขายเป็นนโยบายหลักสำคัญ กลยุทธ์การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า การพัฒนาบุคลากรในฝ่ายขายและฝ่ายบริการ โดยมุ่งเน้นการดูแลลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งในส่วนของการดูแลลูกค้านั้น ณ ปัจจุบันจากผลสำรวจความพึงพอใจลูกค้าด้านบริการหลังการขาย มาสด้าทำได้ดีขึ้นกว่าปี 2557 ในด้านผู้ให้คำแนะนำในการบริการและสถานที่รับบริการ ซึ่งนับเป็นสัญญาณอันดีในการแสดงถึงความทุ่มเทในการดูแลลูกค้าหลังการขาย ส่วนด้านคุณค่าของการเป็นเจ้าของรถ หรือ Cost of Ownership ได้มีการพัฒนาปรับปรุงด้านนี้อย่างต่อเนื่อง อันจะเห็นได้จากผลสำรวจ JD Power ในปี 2558 ที่มาสด้าได้รับการจัดลำดับเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งด้านรถยนต์นั่งในการให้บริการด้านการขาย (SSI)
“ทุกปีบริษัทจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมและสืบทอดสายสัมพันธ์อันแสนพิเศษระหว่างแบรนด์และลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น Mazda Motorsport Day และ Jinba-Ittai Academy เพื่อส่งเสริมความรักและความผูกพันธ์ต่อแบรนด์มาสด้า จนลูกค้ากลายมาเป็น brand ambassador เป็นกระบอกเสียงสำคัญให้กับแบรนด์ และยังจะมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายในปีนี้เพื่อส่งเสริมสายสัมพันธ์อันดีต่อลูกค้าหลังจากที่ประสบความสำเร็จกับการเจาะกลุ่มลูกค้า สำหรับรถยนต์นั่งทุกรุ่นในปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดเป็นภาวะลูกค้าเก่าเป็นผู้สร้างลูกค้าใหม่ในที่สุด และกลายเป็นครอบครัวมาสด้าอย่างเหนียวแน่น ซึ่งสามารถถ่ายทอดจากความประทับใจที่เกิดขึ้นจริง”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,174 วันที่ 14 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_70760" align="aligncenter" width="335"]
ประธานบริหาร
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ไทยได้รับผลพวงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดย 6 เดือนแรก ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นคัน เนื่องจากได้รับผลกระทบทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ช่วงครึ่งปีแรกยอดขายโดยรวมของอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ 3.7 แสนคัน ส่วนช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าสถานการณ์จะมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้น คาดว่ายอดขายรถยนต์จะเพิ่มขึ้นอีก 4.1 แสนคัน ดังนั้นเมื่อถึงสิ้นปี 2559 ยอดขายตลาดรวมจะทะลุ 7.8 แสนคัน ด้วยปัจจัยด้านบวกที่เกื้อหนุนมากขึ้น โดยตลาดรถยนต์ครึ่งปีหลัง จะได้ปัจจัยบวกจาก การที่รถยนต์คันแรกใกล้ครบกำหนดระยะ 5 ปีในการถือครอง จึงเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมองหารถยนต์รุ่นใหม่ที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นจากปัญหาภัยแล้งที่คลี่คลาย กำลังซื้อโดยรวมของครัวเรือนที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัว7.6 %
“ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ตลาดหดตัวลง แต่บริษัททำยอดขายได้ถึง 21,160 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 5.7% สูงสุดนับตั้งแต่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ที่สำคัญเป็นค่ายเดียวที่ยอดขายพุ่งขึ้นได้สูงสุดในตลาดถึง 25.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่ผ่านมา ที่มียอดขายอยู่ที่ 16,837 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์รถยนต์นั่งที่มาสด้าสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 13% กลายเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง และในตลาดรถอเนกประสงค์นั้น สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 8.0% (รวม PPV)”
นายทาเกสึเอะ กล่าวต่อไปว่า สำหรับช่วงครึ่งปีหลังนี้ ยังคงเน้นการเพิ่มเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รุ่น เพื่อเสริมสมรรถนะในการขับขี่และการประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตอบสนองการใช้งานและมาตรฐานที่เข้มงวดมากขึ้นในอนาคต สำหรับแผนเพิ่มยอดขายปีนี้นั้น มุ่งหวังที่จะเน้นสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นหลักเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและคุณค่าให้กับแบรนด์ ควบคู่ไปกับการออกแคมเปญกระตุ้นยอดขาย จากผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2559 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า มาสด้านั้นเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด ซึ่งการเติบโตนี้เป็นผลมาจากการมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์และเน้นความเป็นพรีเมียมแบรนด์ที่ได้บุกเบิกเมื่อปี 2558 และช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ มาสด้ายังคงมั่นใจว่าจะยังเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขาย 4.2 หมื่นคัน ได้อย่างแน่นอน มีส่วนแบ่งการตลาด 5.4% โดยยังมีเป้าหมายที่จะรักษาอันดับ 3 ในกลุ่มรถยนต์นั่ง
ด้านนายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ปีนี้จะเน้นย้ำเรื่องการบริการหลังการขายเป็นนโยบายหลักสำคัญ กลยุทธ์การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า การพัฒนาบุคลากรในฝ่ายขายและฝ่ายบริการ โดยมุ่งเน้นการดูแลลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งในส่วนของการดูแลลูกค้านั้น ณ ปัจจุบันจากผลสำรวจความพึงพอใจลูกค้าด้านบริการหลังการขาย มาสด้าทำได้ดีขึ้นกว่าปี 2557 ในด้านผู้ให้คำแนะนำในการบริการและสถานที่รับบริการ ซึ่งนับเป็นสัญญาณอันดีในการแสดงถึงความทุ่มเทในการดูแลลูกค้าหลังการขาย ส่วนด้านคุณค่าของการเป็นเจ้าของรถ หรือ Cost of Ownership ได้มีการพัฒนาปรับปรุงด้านนี้อย่างต่อเนื่อง อันจะเห็นได้จากผลสำรวจ JD Power ในปี 2558 ที่มาสด้าได้รับการจัดลำดับเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งด้านรถยนต์นั่งในการให้บริการด้านการขาย (SSI)
“ทุกปีบริษัทจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมและสืบทอดสายสัมพันธ์อันแสนพิเศษระหว่างแบรนด์และลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น Mazda Motorsport Day และ Jinba-Ittai Academy เพื่อส่งเสริมความรักและความผูกพันธ์ต่อแบรนด์มาสด้า จนลูกค้ากลายมาเป็น brand ambassador เป็นกระบอกเสียงสำคัญให้กับแบรนด์ และยังจะมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายในปีนี้เพื่อส่งเสริมสายสัมพันธ์อันดีต่อลูกค้าหลังจากที่ประสบความสำเร็จกับการเจาะกลุ่มลูกค้า สำหรับรถยนต์นั่งทุกรุ่นในปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดเป็นภาวะลูกค้าเก่าเป็นผู้สร้างลูกค้าใหม่ในที่สุด และกลายเป็นครอบครัวมาสด้าอย่างเหนียวแน่น ซึ่งสามารถถ่ายทอดจากความประทับใจที่เกิดขึ้นจริง”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,174 วันที่ 14 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559