กยศ.จูงใจผู้กู้ยืมปิดบัญชี 30ก.ย.ลดเบี้ยปรับ100%

13 ก.ค. 2559 | 07:00 น.
“ดร.ฑิตติมา”ปลื้มผู้กู้ชำระหนี้คืนกองทุนกยศ.กว่า 1.6 หมื่นล้านเท่าเป้าหมายทั้งปี พร้อมส่งต่อโอกาสให้รุ่นน้องเตือนรายที่จ่ายไม่ทัน 5 ก.ค.รีบติดต่อกลับได้ตลอดเวลาช้าต้องเสียค่าผิดนัดรายวันหากปิดบัญชีภายใน30 ก.ย.ลดค่าเบี้ยปรับ 100%

ดร.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) เปิดเผยถึงผลการชำระหนี้กองทุนกยศ. และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กองทุน กรอ.) ขณะนี้มีผู้กู้ยืมกยศ.มาชำระหนี้แล้วเป็นเงิน 1.61หมื่นล้านบาทเศษ (ครบกำหนดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2559) ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา 39% และมีผู้กู้ยืม กรอ. ชำระหนี้เข้ามาแล้วเป็นเงิน 388 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% ทั้งนี้ ผลการชำระคืนหนี้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็นว่าผู้กู้ยืมได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม อีกทั้งเป็นผลดีต่อการดำเนินงานกองทุน โดยสามารถนำเงินดังกล่าวหมุนเวียนกลับไปสร้างโอกาสทางการศึกษาให้ผู้กู้ยืมรุ่นต่อไป กองทุนขอขอบคุณผู้กู้ยืมทุกท่านที่มาชำระเงินคืน เพื่อส่งต่อโอกาสที่เคยได้รับให้กับนักเรียน นักศึกษารุ่นน้อง รวมถึงขอขอบคุณสื่อมวลชน หน่วยงานองค์กรนายจ้างทั้งภาครัฐและเอกชน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และสถานศึกษาที่ช่วยกันสร้างวินัยและความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

สำหรับผู้กู้ยืมที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามกำหนดเวลา ยังสามารถติดต่อขอชำระหนี้ได้หลังจากวันดังกล่าวได้ตลอดเวลา แต่จะต้องเสียเบี้ยปรับตามจำนวนวันที่ผิดนัด หากชำระหนี้ล่าช้าจะเสียเบี้ยปรับเพิ่มมากขึ้น หรือหากผู้กู้ยืมค้างชำระหนี้เกิน 4 ปี 5 งวด อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ดังนั้น เพื่อเป็นผลดีกับ ตัวผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน จึงควรรีบชำระหนี้ที่ค้างให้มีสถานะเป็นปกติ หากผู้กู้ยืมจะชำระหนี้ปิดบัญชีภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ กองทุนจะลดเบี้ยปรับให้ 100% โดยก่อนชำระหนี้ให้ติดต่อสอบถามที่โทร. 0-2016-4888

อนึ่ง ณ เดือน มีนาคม 2559 กองทุนฯปล่อยกู้ไปกว่า 4.5 ล้านราย เป็นเงินให้กู้ยืม กว่า 4.7 แสนล้านบาท มียอดค้างชำระจากผู้ที่เคยกู้ยืมกว่า 5 หมื่นล้านบาท จากจำนวนผู้กู้ 2 ล้านราย เป็นการกู้ทั่วไปแล้วมีการติดตามชำระหนี้ 1 ล้านราย เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 1 แสนราย อยู่ระหว่างดำเนินคดีทำการฟ้องร้อง 8-9 แสนราย หรือคิดเป็นวงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าผู้กู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้จะถูกฟ้องเพิ่มอีก 1.9-2 แสนราย คิดเป็นมูลหนี้รวม 2.2หมื่นล้านบาท เนื่องจากครบสัญญาการกู้ยืม 15 ปี และยังไม่เคยติดต่อเพื่อขอชดใช้หนี้ ซึ่งลูกหนี้กลุ่มนี้จะถูกดำเนินคดีเป็นกลุ่มแรกของปี 2559 และกยศ.จะนำชื่อ ผู้กู้ กยศ.ทั้งรายเก่าและรายใหม่ ประมาณ 4.5 ล้านคนเข้าสู่ระบบข้อมูลเครดิตบูโรในปี 2561 หากใครชำระหนี้ตามปกติจะไม่เสียประวัติทางการเงิน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,173 วันที่ 10 - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559