เผยผลวิจัยสุดยอดแบรนด์ ดัชมิลล์แซงมาม่าขึ้นเบอร์1
กันตาร์ เผยผลวิจัย สุดยอดแบรนด์ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุด ดัชมิลล์ขึ้นแท่นเบอร์ 1 แทนมาม่า หลังเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว ขณะที่ร้านเซเว่น ยังครองเบอร์ 1 กลุ่มผู้ค้าปลีก
นายฮาร์เวิร์ด ชาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตาร์ เวิลด์ พาแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ให้บริการวิจัยการตลาด เปิดเผยถึงผลวิจัยและจัดอันดับแบรนด์ที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสุดๆประจำปี 2558 ว่า สุดยอดแบรนด์ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุด และผู้ค้าปลีกที่มีอัตราถูกซื้อสูงสุด 3 อันแรกในแต่ละกลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มเครื่องดื่ม มีแบรนด์เนสกาแฟ แลคตาซอย และดัชมิลล์ กลุ่มอาหาร ได้แก่ แบรนด์ดัชมิลล์ มาม่า และเลย์ กลุ่มสุขภาพและความงาม ได้แก่ คอลเกต ซันซิล และโพรเท็ค กลุ่มสินค้าในครัวเรือน ได้แก่ แบรนด์บรีส ซันไลท์ และคอมฟอร์ท กลุ่มผู้ค้าปลีก ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น เทสโก้ โลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต และเทสโก้ โลตัส เอ็กเพรส
[caption id="attachment_69371" align="aligncenter" width="500"]
สุดยอดแบรนด์[/caption]
ส่วนแบรนด์และผู้ค้าปลีกดาวรุ่ง 3 อันดับแรก ของกลุ่มเครื่องดื่ม ได้แก่ แบรนด์เป๊ปซี่ เบอร์ดี้ และคริสตัล กลุ่มอาหาร ได้แก่ แบรนด์ยาคูลท์ แจ็กซ์ และโก๋แก่ กลุ่มสุขภาพและความงาม ได้แก่ แบรนด์ซอลส์ อิงอร และเบนเนท กลุ่มสินค้าในครัวเรือน ได้แก่ แบรนด์ไฮยีน ดาวน์นี่ 108 ช็อป กลุ่มผู้ค้าปลีก แบรนด์เทสโก้ โลตัส เอ็กเพรส แม็คโคร และเทสโก้ โลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต
นายฮาร์เวิร์ด กล่าวว่า การจัดทำผลวิจัย "สุดยอดแบรนด์"สินค้าอุปโภคบริโภค ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุด พิจารณาจากเก็บข้อมูลด้านจำนวนประชากรในประเทศ การเข้าถึงผู้บริโภคและยอดขายของแบรนด์ โดยเป็นกลุ่มตัวอย่างครัวเรือนในประเทศไทยจำนวน 4,000 ครัวเรือน ซึ่งในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงอันดับเพียงแบรนด์มาม่า ที่เคยเป็นอันดับ 1 ลดลงไปเป็นอับ 2 และมีแบรนด์ดัชมิลล์ ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทน ในกลุ่มสุดยอดแบรนด์ ของกลุ่มอาหาร ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่าเป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวลง
ด้านนางสุพัชรมณี ศรีวลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของแบรนด์ คือ การมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาพดีและตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในทุกกลุ่ม ซึ่งจะมีสินค้าใหม่ออกมาตอบสนองผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องทุกปี มากกว่า 10 ชนิด โดยปัจจุบันสินค้าของกลุ่มดัชมิลล์มีผู้บริโภคมากกว่า 30 ล้านคนต่อวัน ใน 5 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,173 วันที่ 10 - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
นายฮาร์เวิร์ด ชาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตาร์ เวิลด์ พาแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ให้บริการวิจัยการตลาด เปิดเผยถึงผลวิจัยและจัดอันดับแบรนด์ที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสุดๆประจำปี 2558 ว่า สุดยอดแบรนด์ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุด และผู้ค้าปลีกที่มีอัตราถูกซื้อสูงสุด 3 อันแรกในแต่ละกลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มเครื่องดื่ม มีแบรนด์เนสกาแฟ แลคตาซอย และดัชมิลล์ กลุ่มอาหาร ได้แก่ แบรนด์ดัชมิลล์ มาม่า และเลย์ กลุ่มสุขภาพและความงาม ได้แก่ คอลเกต ซันซิล และโพรเท็ค กลุ่มสินค้าในครัวเรือน ได้แก่ แบรนด์บรีส ซันไลท์ และคอมฟอร์ท กลุ่มผู้ค้าปลีก ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น เทสโก้ โลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต และเทสโก้ โลตัส เอ็กเพรส
[caption id="attachment_69371" align="aligncenter" width="500"]
ส่วนแบรนด์และผู้ค้าปลีกดาวรุ่ง 3 อันดับแรก ของกลุ่มเครื่องดื่ม ได้แก่ แบรนด์เป๊ปซี่ เบอร์ดี้ และคริสตัล กลุ่มอาหาร ได้แก่ แบรนด์ยาคูลท์ แจ็กซ์ และโก๋แก่ กลุ่มสุขภาพและความงาม ได้แก่ แบรนด์ซอลส์ อิงอร และเบนเนท กลุ่มสินค้าในครัวเรือน ได้แก่ แบรนด์ไฮยีน ดาวน์นี่ 108 ช็อป กลุ่มผู้ค้าปลีก แบรนด์เทสโก้ โลตัส เอ็กเพรส แม็คโคร และเทสโก้ โลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต
นายฮาร์เวิร์ด กล่าวว่า การจัดทำผลวิจัย "สุดยอดแบรนด์"สินค้าอุปโภคบริโภค ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุด พิจารณาจากเก็บข้อมูลด้านจำนวนประชากรในประเทศ การเข้าถึงผู้บริโภคและยอดขายของแบรนด์ โดยเป็นกลุ่มตัวอย่างครัวเรือนในประเทศไทยจำนวน 4,000 ครัวเรือน ซึ่งในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงอันดับเพียงแบรนด์มาม่า ที่เคยเป็นอันดับ 1 ลดลงไปเป็นอับ 2 และมีแบรนด์ดัชมิลล์ ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทน ในกลุ่มสุดยอดแบรนด์ ของกลุ่มอาหาร ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่าเป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวลง
ด้านนางสุพัชรมณี ศรีวลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของแบรนด์ คือ การมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาพดีและตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในทุกกลุ่ม ซึ่งจะมีสินค้าใหม่ออกมาตอบสนองผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องทุกปี มากกว่า 10 ชนิด โดยปัจจุบันสินค้าของกลุ่มดัชมิลล์มีผู้บริโภคมากกว่า 30 ล้านคนต่อวัน ใน 5 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,173 วันที่ 10 - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559