“แอพเพล เวลธ์”มอง SET เดือนก.ค.มีลุ้นทะยานแตะ 1,480 จุด

07 ก.ค. 2559 | 06:30 น.
บล.แอพเพิล เวลธ์ มองแนวโน้ม SET เดือนก.ค. ดัชนีมีโอกาสพุ่งแตะ 1,480 จุด อานิสงส์ตลาดหุ้นสหรัฐ-ยุโรป ผันผวนลดลง- Fund Flow ไหลเข้า ระวัง 1 สัปดาห์ ก่อนลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญวันที่ 7 ส.ค. อาจเจอแรงขายทำกำไร

นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเดือนกรกฎาคมยังคงได้รับปัจจัยบวกจากสภาพคล่องในระบบและค่าเงินตลาดเกิดใหม่ที่แนวโน้มแข็งค่าขึ้น ประกอบกับความผันผวนของตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐเริ่มลดลง ขณะที่ประเมินแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/59 ของบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/59  โดยผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ยังมีการเติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ขณะที่กลุ่มพลังงานคาดยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นและมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน ส่วนกลุ่มสื่อสารยังชะลอตัวจากผลประกอบกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์ได้รับผลกระทบจากค่าไลเซ่นส์ และการแข่งขันในการให้บริการ

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประเมิน Upside ของดัชนี SET อยู่ระดับ 1,480 จุด ( Forward P/E ที่ 16 X ) และแนวรับที่ระดับ 1,390 จุด ( Forward P/E 15x ) แต่ให้ระวังแรงขายทำกำไรในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนที่จะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 สิงหาคม นี้ ซึ่งอาจจะมีแรงขายกำไรปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง

“ในเดือน ก.ค. นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ  , ECB , FOMC และ BOJ  ซึ่งทิศทางนโยบายการเงินยังคงเป็นลักษณะผ่อนปรน โดยธนาคารกลางอังกฤษเตรียมปรับลดภาระสำรองธนาคารพาณิชย์ ส่วน ECB เตรียมผ่อนปรนเกณฑ์ในการซื้อพันธบัตรประเทศอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น  ขณะที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐมีโอกาสปรับขึ้นภายในปีนี้เพียง 10 %“นายอภิชัยกล่าวในที่สุด

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ”ซื้อ”กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง  ITD, CK , STEC , UNIQ , NWR , SEAFCO คาดได้รับแรงหนุนจากการเริ่มประมูลโครงการลงทุนภาครัฐ โดยวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกเริ่มออก TOR  ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพู–เหลืองจะขายซองประมูลระหว่างวันที่ 6 กรกฎาคม–5 สิงหาคม โดยยังมีในส่วนของงานประมูลรถไฟทางคู่สายประจวบ–ชุมพร และสายมาบกะเบา–ชุมทางถนนจิระ , ซื้อ ILINK , ARROW (รับงานนำสายไฟฟ้าลงดิน , งานก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 ) , ซื้อ CPF , TU  ( + สหรัฐปรับสถานะไทยสู่ระดับ Tier 2 watch list ส่งผลบวกต่อส่งออกประมงไทย ) และทยอยซื้อ KBANK ที่ 145 -157 บาท และ SCB ที่ 113 -123 บาท ( ณ. ระดับ P/BV 1.20 – 1.30 เท่า น่าจะสามารถรับรองปัจจัยลบการลดค่าธรรมเนียมและสเปรดดอกเบี้ยที่แคบลง )