ทุ่มงบ450ล้านถ่ายสดโอลิมปิกช่อง3โอดพิษเศรษฐกิจโฆษณาอืด

05 ก.ค. 2559 | 08:00 น.
โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ จับมือ ฟรีทีวีรายเดิมถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกใช้งบซื้อลิขสิทธิ์ 400-450 ล้าน ด้านช่อง 3 เผยขายแพ็คเกจเดียว12 ล้านล่าสุดขายได้เพียง 20% ยํ้าเศรษฐกิจไม่ดีวอนเอเยนซีซื้อเพิ่ม

[caption id="attachment_67226" align="aligncenter" width="500"] พล.อ. กิตติ อินทสร  ประธานโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย พล.อ. กิตติ อินทสร
ประธานโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย[/caption]

พล.อ. กิตติ อินทสร ประธานโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เปิดเผยว่า ในฐานะองค์กรสื่อมวลชนหลักของประเทศโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งช่อง 3 ช่อง 7 และโมเดิร์นไนน์ทีวีได้ดำเนินการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากลจากเดนท์สุ อิงค์ ประเทศญี่ปุ่นภายใต้งบประมาณการจัดซื้อราว 400-450 ล้านบาท

“การถ่ายทอดสดและรายงานการแข่งขัน โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และกรมประชาสัมพันธ์ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก จึงได้ดำเนินการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เพื่อนำภาพแห่งความประทับใจของนักกีฬาไทยกลับมาแพร่ภาพออกอากาศ ไปสู่ประชาชนผู้รับชมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดย ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 โมเดิร์นไนน์ทีวี และ ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ จะได้ร่วมมือกันทำการถ่ายทอดสด”

ด้านนายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ ปฏิบัติการแทนรักษาการ กรรมการผู้จัดการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เปิดเผยว่าการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี 2016 นี้ ทางช่อง 3 ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการดูแลสิทธิ์ทางด้านการตลาดและการขายของทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยขณะนี้มียอดการขายโฆษณาเพียงแค่ 20% เท่านั้น และเหลืออีก 80%ที่จะต้องขาย ขณะเดียวกันบริษัทได้วางแพ็คเกจการขาย 1 แพ็คที่ราคา 15 ล้านบาทเมื่อลดราคาแล้วเหลือประมาณ 12 ล้านบาท

“บริษัทมองว่าการขายโฆษณาปีนี้ค่อนข้างขายยากมากกว่าทุกปี เมื่อเทียบกับปีก่อนเมื่อเปิดตัวแคมเปญกีฬาออกมาจะมีสปอนเซอร์เข้ามาติดต่อขอซื้อบ้างแล้ว แต่ปีนี้เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีส่งผลให้แบรนด์ต่างๆตัดงบโฆษณาจำนวนมาก หรือจำกัดกรอบการใช้เงินโดยเฉพาะแบรนด์ข้ามชาติในช่วงที่ผ่านมาตัดงบโฆษณามากขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทเชื่อว่ากีฬายังเป็นคอนเทนต์อยู่ในกระแสความสนใจและจะมีผู้ชมคอยติดตามเชียร์ต่อเนื่อง ดังนั้นจึงคาดหวังว่าจะได้รับผลการตอบรับที่ดีจากเอเยนซี่หลายแห่งในการเข้าร่วมสนับสนุนครั้งนี้”

สำหรับการถ่ายทอดสดกีฬาทั้งหมด 28 ชนิด จะถ่ายทอดสดวันละ 14 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมง ตลอดการแข่งขัน ซึ่งมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา และแต่ละช่องจะสลับหมุนเวียนกันถ่ายทอดสด โดยแมตช์แรกที่ถ่ายทอดสด คือฟุตบอล ซึ่งจะเริ่มการแข่งขันก่อนกีฬาประเภทอื่น และจะมีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 สิงหาคม 2559 โดย ช่อง 3 และ ช่อง 11 จะเป็นผู้ถ่ายทอดสด และในช่วงระหว่างการแข่งขัน ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม ถึงวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคมนั้น แต่ละช่องจะหมุนเวียนถ่ายทอดสดวันละ 2 ช่อง และจะปิดท้ายที่ช่อง 5 และ ช่อง 7 เป็นผู้ถ่ายทอดสดพิธีปิดในวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,171 วันที่ 3 - 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559