เปิดใจ 2 หนุ่มดูโอ้ สกิลเลนดอทคอม

04 ก.ค. 2559 | 08:00 น.
ถ้าในวงการศิลปินคู่ดูโอ้ที่โด่งดังมี ลิฟท์ กับ ออย กับคู่ อนัน อันวา และ หลุยส์ สก็อต ที่แจ้งเกิดในวงการนักร้อง

[caption id="attachment_67180" align="aligncenter" width="340"] ฐิติพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์ ฐิติพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์[/caption]

หากแต่ในวงการสตาร์ตอัพก็มีคู่โดโอ้เช่นเดียวกันนั่นก็ คือ "บิ๊ก" ( ฐิติพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์) หนุ่มน้อยวัย 29 ปี กับ "นัท" (เอกฉัตร อัศวรุจิกุล) อายุ 28 ปี สองนักศึกษาไทย จาก Kellogg School of Management สหรัฐอเมริกา

[caption id="attachment_67179" align="aligncenter" width="364"] เอกฉัตร อัศวรุจิกุล เอกฉัตร อัศวรุจิกุล[/caption]

เขา ทั้งสองได้เปิดสตาร์ตอัพโรงเรียนออนไลน์ สำหรับคนทำงาน ภายใต้เว็บไซต์ที่ใช้ชื่อว่า "SkllLane.com" ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ต้องการพัฒนาตัวเอง ทำงานร่วมกับคนที่มีความรู้ ความสามารถในด้านต่าง ๆ ให้มาแบ่งปันความรู้ของตัวเองในรูปแบบของวิดีโอ แล้วก็นำวีดีโอเหล่านี้มาไว้ที่ สกีลเลน สร้างเป็นคอร์สออนไลน์ เพื่อคนที่ต้องการเรียนสามารถเรียนที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้

หลงใหลการอ่าน

ทั้ง "บิ๊ก" และ "นัท" ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สกิลเลน เอ็ดดูเคชั่น จำกัดได้ให้สัมภาษณ์กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงที่มาของการเปิดเว็บไซต์ดังกล่าวว่า เป็นคนที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือ แต่ทำไมโลกการเรียนการสอนในปัจจุบันเรียนไปแล้วก็จดไป ทำไมถึงไม่มีการเรียนการสอนออนไลน์ นอกจากนี้แล้ว ได้ค้นพบข้อมูลว่า 94% ของคนวัยทำงานมีทักษะอยากเรียนรู้อย่างน้อย 1 ทักษะ บางคนอย่างเรียนรู้เรื่องหุ้น แต่ที่น่าสนใจสัดส่วน 97% ของ 94 % อยากเรียนรู้แต่ยังไม่มีเรียนเพราะไม่มีเวลา
นั่นจึงเป็นที่มาในการเปิดเว็บดังกล่าว

"ผมเป็นคนชอบเรียนรู้ และ ชอบดูวิดีโอออนไลน์ จึงได้คิดคอนเซ็ปต์ขึ้นมาว่าน่าจะมีการสอนผ่านระบบออนไลน์ จึงได้ร่วมกันเปิดเว็บ SkillLane ขึ้นมา สกีล มาจาก "ทักษะ" Lane (มาจากคำว่า เรียนรู้)" นัท" บอกกับ “ฐานเศรษฐกิจ”

บิ๊ก : ผมเป็นคนที่มีความสุขกับการที่ให้ความรู้คนอื่น ตอนสมัยเรียนมหาลัยก็เป็นประธานค่ายอาสาชนบท พาเพื่อนๆ น้องๆในคณะไปสอนหนังสือกับเด็กริมชายแดนเมียนมา จุดเปลี่ยนจริงๆอยู่ที่ตอนไปเรียน MBA แล้วมีสถาบันTraining the Street มาสอนเรื่อง financialmodeling ซึ่งเป็น class พิเศษที่มหาวิทยาลัย ตอนนั้นเสียดายมากที่ติดงานและไม่สามารถไปเรียนได้ แต่มารู้ทีหลังว่า สถาบัน Training the Street มีสอนในรูปแบบออนไลน์ในเว็บไซต์ Udemyซึ่งเนื้อหาเหมือนกับที่เขามาสอนที่มหาวิทยาลัยเลย ตอนนั้นก็เลยเข้าใจว่าสมัยนี้เราไม่จำเป็นต้องไปเรียนในห้องเรียนแล้ว ถ้าไม่มีเวลาก็เรียนออนไลน์อยู่บ้านได้ จากนั้นไม่ว่าผมอยากรู้เรื่องอะไร ผมก็เรียนออนไลน์ตลอด

กว่าจะได้รับการยอมรับใช้เวลานาน

"นัท" บอกว่า คอร์สการเรียนการสอนออนไลน์ช่วงแรกนั้นก็ค่อนข้างยากเพราะต้องติดต่อประสานงานให้อาจารย์ และ ผู้เชี่ยวชาญ มาสอนบนเว็บไซต์ บรรดาอาจารย์ก็ไม่แน่ใจว่าจะประสบความสำเร็จ หรือ ไม่ สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดีเพราะมีเรื่องของกระแสโซเชียลมีเดียเข้ามา ทำให้หลายๆ คนยอมรับ

สองปี นักเรียน 7.5 หมื่นคน

"นัท" บอกว่า เปิดโรงเรียนสอนออนไลน์เป็นระยะเวลา 2 ปี ผลตอบรับค่อนข้างดีมีนักเรียนถึง 7.5 หมื่นคน กลุ่มที่เข้ามาเรียน คือ กลุ่มคนทำงาน และ มีอาจารย์สอนจำนวน 100 คน และ มีคอร์สสอนออนไลน์ถึง 200 คอร์ส

"ส่วนมากแล้วคนส่วนใหญ่ต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ แต่ก็ไม่ได้เรียนรู้ เพราะ ไม่มีเวลา ดังนั้นการเรียนการสอนออนไลน์ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในสมัยนี้ เพราะผู้ใช้บริการสามารถเข้ามาคลิกเข้ามาเรียนรู้ตอนไหนก็ได้ใช้เวลาแค่ 20 นาที ก็สามารถเรียนรู้ได้ ถ้าเรียนรู้ยังไม่จบก็ไปเปิดดูต่อพรุ่งนี้ก็ได้" นั้นคือคำบอกเล่า ของ "นัท"

หลากหลายหลักสูตรเว็บไซต์ไม่ติดขัด

ปัจจุบัน สกีลเลน มีสอนหลากหลายหลักสูตร การเงินการลงทุน การทำธุรกิจส่วนตัว การพัฒนาตัวเอง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เตรียมสอบสำหรับคนทำงาน และ ภาษา เป็นต้น มีกว่า 200 หลักสูตร โดยการพิจารณาเลือกหลักสูตรก็ดูตามความสนใจของคนทำงานเป็นหลัก เพราะเป็น กลุ่มเป้าหมาย ที่มีอายุเฉลี่ย 25-35 ปีขึ้นไป

ราคาเริ่มต้น 500-2,500 บ.

สำหรับคอร์สการเรียนการสอนนั้นมีตั้งแต่ราคา 500-2,500 บาท โดยใช้โมเดลในการหารายได้ ใช้ระบบ Pay per courses จ่ายตามหลักสูตรที่เรียน ซึ่งมีทั้งแบบสอนฟรีไปจนเสียตังค์ตั้งแต่ 500-2,500 บาท โดยรายได้ที่เกิดขึ้นสกีลเลนจะแบ่งกับอาจารย์ผู้สอน ส่วนงานโปรดักชัน ทั้งการถ่ายทำ ตัดต่อ และเอาขึ้นเว็บไซต์ เป็นหน้าที่ของทีมงาน

สต็อกทูฯเป็นพันธมิตร

หลังจากเปิดเว็บไซต์ฯ ก็มีผู้สนใจเข้าร่วมสนับสนุนนั่นก็คือ Stock2morrow ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับหุ้นโดยคุณป้อม (ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทูมอร์โรว์ กรุ๊ป จำกัด) เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรมามาต่อยอดระหว่างกันโดยเฉพาะเรื่องของ"หุ้น" ทางสต็อกทู ก็ให้การสนับสนุนในเรื่องของวิทยากร อีกด้วย

เตรียมปั้นแอพ

"นัท" บอกว่า นอกจากจะเปิดการเรียนการสอนออนไลน์ฯ ผ่านทางเว็บไซต์ ภายในเร็วๆ นี้ เตรียมพัฒนาแอพพลิเคชันขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดไปใช้งาน

ตั้งเป้าเป็นที่แรกพัฒนาตนเอง

ประโยคสุดท้ายเมื่อถามว่าถึงตอนนี้ประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง 2 หนุ่มทั้งบิ๊กและนัทกล่าวตอบพร้อมกัน" ว่า "เราพอใจความก้าวหน้า แต่เป้าหมายยังอีกไกล เราอยากเป็น "First Destination Skill on Demand" หมายความว่า เป็นที่แรกในการพัฒนาตนเอง หรือ ถ้าอยากเรียนรู้มาที่สกีลเลน"

ไม่เพียงเท่านี้ คู่ดูโอ้ ทั้งสองยังแสดงความคิดเห็นถึงสตาร์ตอัพรุ่นใหม่ว่า ถ้าได้เริ่มต้นแล้วย่ายอมแพ้ สู้ต่อไป หาทางแก้ปัญหาให้ได้ ไม่ใช่ว่าพอทำไปสักพักแล้วถ้อถอย เพราะการเป็นผู้ประกอบการมีเรื่องให้แก้ไขอยู่ตลอดเวลา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,171 วันที่ 3 - 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559