เสน่ห์ตรัง ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย

เครื่องบินขนาด 300 ที่นั่งกำลังวิ่งพาดผ่านพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ทำเอาคนที่เคยเห็นแต่ป่าคอนกรีตตื่นตาตื่นใจกับฉากและวิวแม่น้ำที่ดูคล้ายกับมินิอเมซอนจนถึงวินาที่ที่เครื่องร่อนลงบนลานจอด ทันที่ที่ก้าวออกจากเครื่องลมเย็นๆ ที่หอบเอาอากาศสุดสดชื่นเต็มไปด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์กินเวลาการอัดเข้าไปในปอดอย่างเต็มที่อยู่หลายวินาทีจนหุบยิ้มแทบไม่ลง

ภาวะมรสุมช่วงเดือนที่เราต่างไม่อยากเดินทางมาดินแดนแถบด้ามขวาน แต่ใครจะไปรู้ว่าแสงแดดเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน วันสายฝนที่ลงเม็ดหนักเบาเคล้ากันไปเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์สุดๆ ในบรรยากาศที่มีชาร้อนและขนมอร่อยๆ ตรงหน้าสักจาน

ความหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของการสังสรรค์ทางวัฒนธรรมของชาติตะวันออกและชาติตะวันตกในยุคล่าอาณานิคมกำลังเจริญรุ่งเรืองเกิดเป็นอาคารบ้านเรือนสไตล์ชิโนโปรตุกิสในหลายพื้นที่ นอกจากกลุ่มอาคารซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเมืองจอร์จทาวน์ ปีนัง แล้ว “ตรัง” ยังเป็นอีกเมืองหนึ่งที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของความงดงามของการผสานอย่างแนบชิดนี้เช่นกัน บนถนนราชดำเนิน ถนนกันตัง และ ถนนพระรามหก ยังคงเต็มไปด้วยตึกเก่าหลายต่างขนาดหลากหลายสีสันซ่อนตัวอยู่ ซึ่งเจ้าของอาคารเหล่านี้ล้วนเป็นคนไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยน สร้างขึ้นในสมัยพระยาราฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) สมุหเทศบาลสำเร็จราขการมาณพลภูเก็ตในสมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งยังเป็นพระสหายของรัชกาลที่ 6 อีกด้วย

[caption id="attachment_66951" align="aligncenter" width="500"] ราดหน้า[/caption]

หนึ่งในอาคารที่ต้องมาเยือนและยังเปิดกิจการถึงทุกวันนี้คือ “สิริบรรณ” ร้านขายหนังสือและเครื่องเขียนที่อยู่เคียงคู่การเติบโตด้านการศึกษาและสังคมเมืองตรังมามากกว่าครึ่งศตวรรษ ที่ตั้งของตระกูลพิตรปรีชา บ้านที่ปั้นอดีตผู้นำนักศึกษาและกวีซีไรต์อย่างคุณจี๊ด-จิระนันท์ พิตรปรีชา และนักธุรกิจ นักบริหาร จนก้าวสู่การเป็น “ห้างสิริบรรณ” ศูนย์การค้าใจกลางเมือง การดูแลทุกรายละเอียดอย่างดีเยี่ยมทำให้ห้องบริเวณหัวมุมตึกสวยสง่าของสิริบรรณได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมทรงคุณค่า ประเภทโครงการสถาปัตยกรรมทรงคุณค่า ภาคใต้ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2559 และการแวะไปคุณจะเห็นเลยว่าความงามของสถาปัตยกรรมแม้หมุดยึดสายไฟยังมีการทอลายเป็นอย่างไร

[caption id="attachment_66952" align="aligncenter" width="500"] ขนมเปี๊ยะไส้เผือกหอมไข่เค็ม[/caption]

มาพูดถึงของอร่อยกันดีกว่า เขียนไปยังนึกถึงหมูย่างกรอบชิ้นโตทางคู่กับฮะเก๋าร้อนๆ อยู่เลย นอกจากหมูย่างเมืองตรังที่ขึ้นชื่อลือชาแล้ว ขนมเปี๊ยะชื่อดังนามว่า “ซอย 9” คือชื่อที่กล่าวขานไปทั้งประเทศ ขนมเปี๊ยะแป้งกรอบอัดแน่ด้วยใส้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น : ขนมเปี๊ยะไส้เผือกหอมไข่เค็ม, ขนมเปี๊ยะไส้ทุเรียนไข่เค็ม, ขนมเปี๊ยะไส้ถั่วแดงไข่เค็ม, ขนมเปี๊ยะไส้พุทธาจีนไข่เค็ม รวมถึงไส้หมูแดงที่หมดตั้งแต่หัววันพากันส่งกลิ่นหอมฟุ้ง พิเศษสุดๆ ตรงที่ทางร้านมีบริการเสิร์ฟขนมเปี๊ยะและชาจีนให้ชิมแบบไม่คิดเงิน แค่นี้ก็ไม่อยากลุกไปไหนแล้ว นอกจากนี้ยังมีขนมปุยฝ้ายเนื้อแน่นทำจากผลไม้และผักนานาชนิด ทั้งมันม่วง ฟักทอง แครอท ทานตลอดวันก็ไม่เบื่อ

หากยังไม่เบื่อขนมต่อด้วยเค้กเบญจมิตร เค้กสองสีขนาดสามเหลี่ยมพอดี 3 คำ มีทั้งไส้ครีมและแยมผลไม้ แป้งหอมนุ่มละลายในปาก ทานหมดกล่องคนเดียวแบบไม่ต้องถามใคร

เรื่องอร่อยของเมืองตรังยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ห่างออกไปจากเมืองราว 20 กิโลเมตร ที่อำเภอกันตัง อดีตเมืองท่าหัวใจของการเชื่อมต่อยุคการค้าขายทางเรือ ร้านต้องไปแบบที่พลาดแล้วกลับกรุงเทพฯ ไม่ได้ก็คือร้าน “ล่อคุ้ง” มาจากชื่อที่เป็นภาษาจีนของ “คุณพ่อตั้ง” โดย ล่อ แปลว่ากลอง ส่วน คุ้ง แปลว่าดัง ซึ่งความหมายรวมๆ กันก็คือ เสียงกลองที่ดังกังวานไปทั่ว ร้านที่กลิ่นก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหรือที่รู้จักกันว่า “ก๋วยตี๋ยวซุปเปอร์” สูตรโบราณหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ การรังสรรแต่ละจานแบบคัสตอมเมด กุ้งตัวโต เนื้อปูเน้นๆ และสารพัดเมนูอร่อย บอกเลยว่าเปรมสุดๆ

เรื่องราวความอร่อยของเมืองตรังไม่สุดแค่นี้ สัปดาห์หน้าตามต่อกับอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำหรับคนกรุงเมื่อโอกาสตรังมาเยือน ที่ “อาหารและความสุข” หยุดทุกเวลาจริงๆ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,171 วันที่ 3 - 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559