สมาคมท่อเหล็กร้องรัฐช่วยจี้เอดีสกัดเวียดนามนำเข้า

01 ก.ค. 2559 | 11:00 น.
สมาคมผู้ผลิตท่อโลหะฯ ร่อนหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์ จี้ออกมาตรการปกป้องผู้ผลิตในประเทศ หลังโดนท่อเหล็กจากเวียดนามทะลักเข้ามาดัมพ์ราคา โดย 5 เดือนแรกปีนี้นำเข้าสูงถึง 3.63 หมื่นตัน พุ่งจากปีก่อนทั้งปีที่นำเข้า 2.69 หมื่นตัน ส่งผลให้ผู้ผลิตในประเทศต้องลดกำลังผลิต บางรายประสบปัญหาขาดทุนแล้ว ต้องลดการจ้างงาน

[caption id="attachment_66596" align="aligncenter" width="700"] ปริมาณสำรองปิโตรเลียมของประเทศไทย ณ สิ้นปี 2557 ปริมาณสำรองปิโตรเลียมของประเทศไทย ณ สิ้นปี 2557[/caption]

นายวรพจน์ เพียรอภิธรรม นายกสมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่น เปิดเผยกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ในวันที่ 30 มิถุนายน 2559 นี้ ทางสมาคมผู้ผลิตท่อโลหะฯ ซึ่งมีสมาชิกอยู่จำนวน 38 ราย จะเข้ายื่นหนังสือต่อนางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ(คต.) กระทรวงพาณิชย์ เพื่อร้องขอให้ภาครัฐพิจารณาดำเนินการตอบโต้การทุ่มตลาด(เอดี) และการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากประเทศเวียดนาม เนื่องจากขณะนี้ผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นผู้ผลิตท่อเหล็กในประเทศ มีกำลังการผลิตรวมกัน 90 % ของกำลังการบริโภคในประเทศ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากท่อเหล็กที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เข้ามาตีตลาดจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตภายใน ส่งผลให้ผู้ผลิตเหล็กในประเทศไม่สามารถแข่งขันได้

โดยเฉพาะท่อเหล็กที่ใช้ในงานก่อสร้างเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีกำลังการผลิตในประเทศอยู่ 3 ล้านตัน จากผู้ผลิตที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ และผู้ประกอบที่ยังไม่เป็นสมาชิกอีก 20 บริษัท แต่ปัจจุบันพบว่า ผู้ผลิตเกือบทุกรายต้องลดกำลังการผลิตลงเหลือไม่ถึง 40 % หรือผลิตได้ไม่ถึง 1.5 ล้านตันต่อปี จากความต้องการใช้ที่มีอยู่ประมาณ 2 ล้านตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมประมาณ 4 หมื่นล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ จะเห็นได้จากในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณการนำเข้าท่อเหล็กจากต่างประเทศเข้ามาทั้งสิ้น 3.6362 หมื่นตัน ซึ่งมีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าในหมวดท่อเหลี่ยม ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2556 มีการนำเข้าท่อเหล็กจากประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้นจาก 828 ตัน เพิ่มเป็น 8,177 ตัน และในปี 2558 เพิ่มขึ้นถึง 2.6982 หมื่นตัน

นายวรพจน์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่มีการนำเข้าท่อเหล็กในปริมาณที่เพิ่มสูงมากขึ้นนั้น มาจากระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้มีมาตรการไต่สวนการตอบโต้การทุ่มตลาดหรือเอดี จากสาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐเกาหลี จึงทำให้ผู้นำเข้าหันไปนำเข้าสินค้าราคาถูกจากประเทศเวียดนามเป็นการทดแทน ซึ่งถือเป็นการนำเข้าท่อเหล็กทางอ้อมจากจีน เนื่องจากท่อเหล็กส่วนใหญ่ที่นำเข้ามาล้วนเป็นท่อเหล็กที่ผลิตจากจีนทั้งสิ้น จึงทำให้มีราคาถูกกว่าท่อเหล็กที่ผลิตในประเทศ

สำหรับผลกระทบดังกล่าว ขณะนี้ได้ส่งผลให้ผู้ผลิตในประเทศบางรายประสบปัญหาการขาดทุน จำเป็นต้องลดกำลงการผลิตลงมา รวมทั้งลดอัตราการจ้างงาน จากปริมาณการจำหน่ายท่อเหล็กที่ลดลง และทำให้ผลการดำเนินงานของแต่ละบริษัทแย่ลง ดังนั้น ทางสมาคมฯเห็นว่า จำเป็นต้องให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศ โดยให้กระทรวงพาณิชย์เร่งเปิดไต่สวนและบังคับใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดหรือเอดี สำหรับท่อเหล็กที่มาจากประเทศเวียดนามโดยเร็ว ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับเหล็กที่มีการนำเข้ามาจากจีน เพราะไม่เช่นนั้นแล้วผู้ประกอบการในประเทศคงไม่สามารถอยู่ได้และจะต้องปิดกิจการลง ซึ่งจะกระทบต่อการจ้างงานเป็นจำนวนมาก

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,170
วันที่ 30 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2559