ห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์วิธีการเสนอเรื่องเข้า ครม.
ที่ประชุม ครม.(28 มิถุนายน) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. .... เป็นการปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2558 ในประเด็นต่าง ๆ อาทิ กำหนดผู้มีอำนาจลงนามเสนอเรื่องต่อ ครม.ให้ชัดเจนขึ้น โดยกำหนดความหมายของคำว่า “รัฐมนตรี” และกำหนดความรับผิดชอบของผู้ลงนามเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีในการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนก่อนส่งเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)
และร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ....ซึ่งเป็นการปรับปรุงระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 ในประเด็นต่าง ๆ อาทิ กำหนดระยะเวลาเสนอเรื่องต่อ ครม.โดยให้หน่วยงานเสนอเรื่องมายัง สลค. ก่อนวันที่ประสงค์จะให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอย่างน้อย 15 วัน ส่วนกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนให้ส่งเรื่องไปยัง สลค. ก่อนวันที่ขอให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเรื่องทั่วไปอย่างน้อย 7 วัน และเรื่องร่างกฎหมายอย่างน้อย 10 วัน เป็นต้น
ทั้งนี้ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ผ่านร่างข้อบังคับ ร.ฟ.ท. 3 ฉบับ
ที่ประชุม ครม.(28 มิถุนายน) เห็นชอบในหลักการร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยออกตามความในมาตรา 18 (13) แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 จำนวน 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญของร่างข้อบังคับ 3 ฉบับ คือ 1.ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสารวิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่ – เตาปูน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าโดยสาร และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่ – เตาปูน ซึ่งมีอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 14 บาท สูงสุด 42 บาท
2.ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยอัตราค่าบริการจอดรถยนต์
และวิธีการจัดเก็บค่าบริการจอดรถยนต์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าบริการจอดรถยนต์โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ ซึ่งมีอาคารจอดแล้วจน จำนวน 4 แห่ง โดยกำหนดอัตราค่าบริการ สำหรับผู้มาใช้บริการรถไฟฟ้า ในอัตราค่าบริการ 10 บาทต่อ 2 ชั่วโมง และสำหรับผู้ไม่ใช้บริการรถไฟฟ้าชั่วโมงละ 20 บาท
และ3.ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วม วิธีการจัดเก็บค่าโดยสารร่วม และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารร่วมระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ และรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วมระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ และรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ซึ่งมีอัตราค่าโดยสารสูงสุดอยู่ที่ 70 บาท และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารร่วม
ปรับปรุงค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์ใหม่
ที่ประชุม ครม.(28 มิถุนายน) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยอัตราค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์ แห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยปรับค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย จากเดิมให้จัดสรรจากกำไรสุทธิประจำปีของสหกรณ์จำกัดในอัตราร้อยละ 5 ของกำไรสุทธิ แต่ไม่เกิน 10,000 บาท เป็นให้จัดสรรจากกำไรสุทธิประจำปีของสหกรณ์จำกัดในอัตราร้อยละ 1 ของกำไรสุทธิ แต่ไม่เกิน 10,000 บาท
กำหนดลักษณะงานเป็นอันตรายต่อหญิงมีครรภ์และเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี
ที่ประชุม ครม.(28 มิถุนายน) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดงานที่มีลักษณะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและ ความปลอดภัยของหญิงมีครรภ์หรือเด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบห้าปี พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ โดยในส่วนของลักษณะงานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของหญิงมีครรภ์ อาทิ งานเกี่ยวกับเครื่องจักร เครื่องยนต์อันอาจเกิดอันตรายจากความสั่นสะเทือนแบบทั้งร่างกาย งานยก แบก หาบ หาม ทูน ลาก หรือเข็นของหนักเกิน 50 กิโลกรัม และงานที่ต้องสัมผัสละออง ไอ ก๊าซ จากวัตถุดิบหรือกระบวนการผลิต อันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น งานพ่นสี งานฟอกย้อม เป็นต้น
ขณะที่งานที่มีลักษณะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของเด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่า 15 ปี อาทิ งานเกี่ยวกับเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายจากเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์นั้น งานยก แบก หาบ หาม ทูน ลาก หรือเข็นของหนักเกิน 15 กิโลกรัม และงานเกี่ยวกับแสงจ้า เสียงดัง ความร้อนจัด ความเย็นจัด หรือความสั่นสะเทือนซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัย เป็นต้น
ทั้งนี้ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดการออกกฎหมายลำดับรองตามมาตรา 3 ในบทนิยามคำว่า “งานที่รับไปทำที่บ้าน” มาตรา 21 และมาตรา 24 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. 2553 เพื่อให้กฎหมายแม่บทมีผลใช้บังคับโดยสมบูรณ์และสามารถปฏิบัติให้เกิดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เห็นชอบเอ็มโอยูด้านแรงงานระหว่างไทย-สปป.ลาว
ที่ประชุม ครม.(28 มิถุนายน) เห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน (MOU) ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ภายใต้กรอบความร่วมมือที่สำคัญ อาทิ ความร่วมมือทางวิชาการ ความร่วมมือด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน ความมือด้านการจ้างแรงงาน ความร่วมมือด้านการคุ้มครองแรงงาน และความร่วมมือด้านการประกันสังคม และเพื่อเป็นการดำเนินงานและติดตามการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจฯ จะมีการจัดประชุมร่วมสองฝ่าย ทั้งระดับรัฐมนตรีและระดับเจ้าหน้าที่
พร้อมอนุมัติให้พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นผู้แทนฝ่ายไทยในการลงนามในเอกสารดังกล่าว และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ พล.อ.ศิริชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นผู้ลงนามในเอกสารดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้รง.ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศต่อไป