สำหรับชายไทยผู้ชอบการท่องเที่ยว และอายุ 30 ขึ้นไป คงไม่มีใครไม่รู้จัก "มีดพับสวิส" โดยเฉพาะยี่ห้อดังเก่าแก่เจ้าตลาด VICTORINOX
เรียกว่า "มีดพับ" แต่ความจริงที่น่าทึ่งน่าพกพาคือมี "เครื่องมือ" เล็กๆมาประกอบด้วย ตั้งแต่ที่ตัดเล็บ กรรไกร ที่เปิดขวด ฯลฯ
จะเรียกว่า "มีดพับสารพัดประโยชน์" ก็คงได้
และเป็น "สินค้าสวิส" ที่นักท่องเที่ยว ชอบมองหา ถามถึง และซื้อเป็น "ของฝาก"
แม้ว่าธรรมเนียมไทย จะค่อนข้างถือในการให้มีดให้ของมีคมและต้องมีการแก้เคล็ด โดย "ผู้รับ" ต้องให้เงินกลับมาในทำนองซื้อขาย
ก่อนเหตุการณ์ 9/11 ที่อเมริกาในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2001 มีดพับ VICTORINOX ขายดี
พอเหตุร้ายสงบ สายการบินโดยคำสั่งขององค์กรการบินสากลต้องประกาศห้ามการนำมีด - ของมีคม ติดตัวผู้โดยสารขึ้นเครื่อง
ยอดขายของมีดสวิสดังเจ้านี้หายไป "หนึ่งในสาม" บริษัทแม่ในเมืองโรงงานดั้งเดิม IBACH-SCHWYZ ปวดหัวกับตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก โดยเฉพาะร้าน DUTY FREE ในสนามบินเมืองต่างๆขอส่งของคืนท่วมโกดังโรงงาน
เป็นโชคดีของพนักงานและบริษัท VICTORINOX ที่ถึงแม้จะผ่านมาถึงยุคทายาท รุ่นที่ 2-3-4 (CARL ELSNER)
4 ชั่วคน (4 GENERATIONS - ONE FAMILY)
ผู้บริหาร (CEO) ยังรักษา CORPORATE CULTURE ที่ได้มาจากผู้ก่อตั้ง KARL ELSNER I ที่เชื่อมั่นศรัทธาในคำสอนของศาสนาคริสต์ ในเรื่องของ ความซื่อสัตย์ ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความเคารพ ความกตัญญูรู้คุณ และความเป็นมนุษย์
ค่านิยมที่ช่วยให้ทุกคนแข็งแกร่งและช่วยกันในยามลำบากในยามเศรษฐกิจตกต่ำ ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นในยุคของ CARL ELSNER II ที่ต้องนำพาบริษัทผ่านวิกฤตของสงครามโลกครั้งที่ 2
หรือยุคของ CARL ELSNER III ที่ต้องกอบกู้บริษัทจากผลกระทบของการโจมตีก่อการร้าย 9/11
ต้นแบบของบริษัทคือผู้ก่อตั้ง KARL ELSNER I ที่น่ายกย่องไม่เฉพาะในแง่ความเป็นผู้บุกเบิกมีวิญญาณนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ และมีวิสัยทัศน์ (เมื่อ 132 ปีที่แล้ว)
ในปี คศ.1884 ประเทศเล็กๆในทวีปยุโรปหนีไม่พ้นปัญหา ความยากจน ผู้คนไม่มีงานทำ หลายคนอพยพออกไปหนีตาย หนีออกไปหาโอกาสข้างหน้า แต่ไม่ใช่ชายสวิสที่ชื่อ KARL ELSNER ที่มีความมุ่งมั่นจะช่วยประเทศของตนด้วยการสร้างงาน และสร้างอย่างยั่งยืน
ธุรกิจแรกที่ KARL ELSNER I ลงทุนลงแรงคือรวบรวมช่างทำมีดหลายบริษัท เพื่อจะทำการผลิตให้กับทหาร SWISS ARMY แต่ต้องไปประมูลตัดราคากับเจ้าใหญ่ในเยอรมันที่เสนอราคาถูกกว่า
ถึงจะได้งานแต่ก็ขาดทุนและหมดตัว ร้อนถึงญาติต้องระดมกันมาช่วยไม่ให้ล้มละลาย
VICTORINOX พอมาลืมตาอ้าปากได้บ้างจากการพัฒนา "มีดพับมีดพก" ที่เรียกกันว่า OFFICER’S KNIFE ซึ่งเบากว่า ดูดีกว่าและมีประโยชน์ใช้สอยมากกว่าSOLDIER’S KNIFE โดย KARL จด PATENT DESIGN ในวันที่ 12 มิถุนายน คศ.1897
OFFICER’S KNIFE ดั้งเดิม (ชื่อเรียกปัจจุบัน SWISS ARMY KNIFE) ไม่ได้รับการประกาศให้ใช้เป็นมีดของทหารสวิสอย่างเป็นทางการ
และก็ไม่ได้สร้างยอดขายกำไรเป็นกอบเป็นกำ ยอดขายมาเติบโตสูงสุดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านร้านขายสินค้าปลอดภาษีของทหารอเมริกัน (PX) ไม่ว่าจะทหารบก นาวิกโยธิน และทหารอากาศที่ประจำการอยู่ในยุโรป
ปากต่อปากช่วยกันโฆษณาให้ "มีดพับมีดพก" สารพัดประโยชน์VICTORINOX เริ่มเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และยอดขายสินค้าพุ่งยังกับจรวด
ชื่อ VICTORINOX ได้มาจาก VICTORIA (ซึ่งเป็นชื่อคุณแม่ของ KARL) และ INOX (เป็นชื่อสากลของ STAINLESS STEEL) ได้รับการจดทะเบียนชื่อในปี คศ.1921 ยอดขายที่หายไปกว่า 30% หลังเหตุการณ์ 9/11 ในปี 2001 ที่เป็นห่วงกัน ถ้าจะถามถึงยอดขายตอนนี้ กลับมาแล้ว กลับมาโตกว่า 2 เท่า ของรายได้ที่เคยได้
ด้วยปรัชญาด้วยวัฒนธรรมด้วยความมุ่งมั่นใน "ค่านิยม" ที่น่านับคือโดยเฉพาะ "บริษัทมีหน้าที่สร้างงาน และต้องยั่งยืน"
ไม่ต้องการให้คนตกงานตอนวิกฤตมากๆ ก็ขยับให้คนงาน พนักงาน ลาหยุด ลา HOLIDAYS ล่วงหน้าไปนานๆ ที่มีปัญหาจริงๆก็พยายามหางานบริษัทอื่นๆให้ทำ
ผู้บริหารเองก็ต้องหาธุรกิจใหม่ๆเข้ามาเสริม ล่าสุดก็เข้าไป TAKE OVERบริษัทคู่แข่ง (ในอดีต) WENGER ทำให้มี LINE มาเล่นเพิ่ม เช่น เสื้อผ้า นาฬิกา น้ำหอม
การเข้าไป TAKE OVER "WENGER" ก็เกิดจากความรักชาติ พอWENGER ประกาศขาย นักลงทุนทั้งญี่ปุ่นและจีน จ้องตามันจะเขมือบ
หากคนสวิสลุกขึ้นต่อต้านว่าควรจะเป็นของคนสวิส SWISS ARMY BRANDS REMAINED IN SWISS HANDS เงินทองของญาติมิตรที่เข้ามาช่วยกอบกู้ KARL ELSNER ผู้ก่อตั้ง
ได้เวลาบริษัทมีกำไร ก็รีบชดใช้คืน (พร้อมดอกเบี้ย)
ขาย "ของมีคม" แท้ๆ แต่ไม่มีเหลี่ยม ไม่มีพิษ
น่าชมเชย VICTORINOX,SWISS BRAND
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,170
วันที่ 30 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2559