อินเตอร์ลิ้งค์ตุนแบ็กล็อกเพิ่ม ใส่เกียร์ประมูลงานใหม่เพียบหลังคว้าเค้กท่าอากาศยานพันล้าน

27 มิ.ย. 2559 | 06:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

"อินเตอร์ลิ้งค์"ร่วมกับหจก.สามประสิทธิ์ ชนะประมูลงานระบบสาธารณูปโภคของ ทอท .มูลค่า 1 พันล้านบาท เผยยังมีงานที่ยังเข้าประมูลหลายโครงการสายไฟใต้ดินช่องนนทรี มูลค่าโครงการ 2.5 พันล้านบาท เตรียมนำบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ

[caption id="attachment_65663" align="aligncenter" width="700"] โครงการที่อินเตอร์ลิ้งเข้าร่วมประมูล โครงการที่อินเตอร์ลิ้งเข้าร่วมประมูล[/caption]

นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทได้ร่วมกับห้างหุ้นส่วนจำกัดสามประสิทธิ์ในนาม "SG and INTERLINK CONSORTIUM" ได้เป็นผู้ชนะการยื่นซองเสนอราคางานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท. มูลค่างานที่เสนอรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วทั้งสิ้น 1.98 พันล้านบาท

โดยบริษัทสามารถชนะงานดังกล่าวมาได้เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559 เป็นการดำเนินงานในส่วนของสถานีไฟฟ้าย่อย และ สายใต้ดินร่วมกับงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ (รับผิดชอบโดย หจก.สามประสิทธิ์) ซึ่งบริษัท รับผิดชอบงานประมาณ 1 พันล้านบาท การชนะงานดังกล่าวทำให้บริษัทมีงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 1 พันล้านบาท อีกทั้งยังอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานอีกหลายโครงการ อาทิเช่น งานโครงการสายไฟใต้ดินช่องนนทรี (มูลค่าโครงการ 2.5 พันล้านบาท) ซึ่งปัจจุบันบริษัทเป็น 3 รายสุดท้าย และอยู่ระหว่างรอประมูลในวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 งานโครงการ Submarine ซึ่งอยู่ระหว่างรอเข้าคณะรัฐมนตรี โดยมีทั้งหมด 2 โครงการ คือ โครงการเกาะสมุย และโครงการเกาะเต่า โดยมีมูลค่าโครงการ 2.1 พันล้านบาท และ 1.7 พันล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งคาดว่าน่าจะประมูลได้แล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 3 หรือไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้ภาพรวม Backlog เพิ่มสูงขึ้นไปอยู่ในระดับมากกว่า 2 พันล้านบาทภายในปีนี้

อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจอื่นๆ ยังคงมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณ จะมียอดขายที่เติบโตสูงขึ้นตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ 10-15% ต่อปี อีกทั้งยังมีโอกาสเข้าประมูลโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิตอล ในส่วนจัดซื้อสายเคเบิลใยแก้วนำแสงของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มูลค่าโครงการเฉพาะสายประมาณ 5,000 ล้านบาท ทั้งยังรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ปกติดั่งที่เห็นในไตรมาสที่ 1

ในส่วนของธุรกิจโทรคมนาคม ยังคงมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเฉลี่ย 70% จากจำนวนผู้ใช้งานที่เข้ามาใช้งานเพิ่มมากขึ้น และรวมถึงการได้ส่วนแบ่งในการให้บริการลูกค้ารายใหญ่ เช่น 7-Eleven มากกว่า 500 สาขา และลูกค้าในส่วนดาต้าเซ็นเตอร์ ที่มีหน่วยงานของรัฐและเอกชนเข้ามาใช้งานเกือบเต็มพื้นที่ (95%) อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากผู้ให้บริการโทรคมนาคม ในการติดตั้งโครงข่ายใยแก้วนำแสงอีกกว่า 150 ล้านบาทด้วย

นอกจากนี้บริษัทยังมีการขยายในหลายส่วนธุรกิจ โดยปัจจุบันมีแผนที่จะจัดสร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่บนพื้นที่มากกว่า 5,000 ตารางเมตร รองรับลูกค้าได้มากกว่า 600 Racks ร่วมกับอีก 2 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คือ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)(AIT) และบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WHA) โดยมีมูลค่าการลงทุนกว่า 420 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างได้แล้วเสร็จภายในปีนี้ และเริ่มให้บริการได้ในปีหน้า ซึ่งเป็นการจับกระแสความต้องการดาต้าเซ็นเตอร์ โดยคาดว่าจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำ "บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน)" เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยได้ดำเนินการยื่นไฟลิ่งเวอร์ชันแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว ทั้งนี้บริษัทมีกำหนดเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (Par) หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นของ ILINK จำนวน 60 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 140 ล้านหุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,169 วันที่ 26 - 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559