แปซิฟิกาปูพรมธุรกิจแฟชั่น ควบบริษัทย่อยลงทุนต่อ

23 มิ.ย. 2559 | 11:30 น.
แปซิฟิกา วางแผนลุยธุรกิจแฟชั่นต่อเนื่อง ตั้งเป้าปูพรม 130สาขาภายในปี 2563 ทั้งเตรียมเงินทุนขยายธุรกิจต่อเนื่องปีละ 100-150 ล้าน ล่าสุดปรับโครงสร้างบริหารงานใหม่ รวมการบริหารงาน 4 บริษัทย่อยอยู่ใต้ปีกกลุ่มบริษัท แปซิฟิกา ก่อนดึงฐานลูกค้าทำการตลาดร่วมกัน มั่นใจคนไทย-จีนยังช็อปแบรนด์เนม

นายโอภาส เลวิจันทร์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท แปซิฟิกา ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ อาทิ โค้ช (Coach) แม็กซ์ มาร่า (Max Mara) และ แคมเปอร์ (Camper) เป็นต้น เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมงบประมาณการลงทุนไว้ปีละ 100- 150 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการขยายสาขาและการเพิ่มแบรนด์แฟชั่นในการทำตลาด โดยวางเป้าหมายจะมีจำนวน 120-130 สาขาภายในปี 2563 จากปัจจุบันมีจำนวนรวม 24 สาขา เฉพาะปีนี้ได้เตรียมงบประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาเพิ่มอีก 16 สาขา นอกจากนี้ ยังเตรียมงบประมาณอีก 60 ล้านบาท เพื่อใช้ทำตลาดและประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์

ขณะที่บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 25-30% จากปัจจุบัน ซึ่งแนวทางการเติบโตในอัตราดังกล่าว จึงวางกลยุทธ์สำคัญนอกจากการขยายจุดขายเพิ่มขึ้นแล้ว ได้วางแผนเพิ่มจำนวนแบรนด์สินค้าอย่างต่อเนื่องจากปัจจุบันมี 14 แบรนด์

ล่าสุด บริษัทได้ปรับโครงสร้างการบริหารงาน โดยการรวม 4 บริษัทย่อย ได้แก่ 1. บริษัท แปซิฟิกา เอเลเมนท์ จำกัด 2. บริษัท จีโอ รีเทล จำกัด 3. บริษัท แปซิฟิกา ไลฟ์สไตล์ จำกัด และ4. บริษัท แปซิฟิกา แม็กซ์จำกัด เข้ามารวมกันอยู่ภายใต้กลุ่มบริษัท แปซิฟิกา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงาน และมีอำนาจการต่อรองในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการขยายสาขา การจัดซื้อ การบริหารโลจิสติกส์ และการทำตลาดร่วมกัน รวมถึงสร้างการเติบโตของธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ที่มีการแข่งขันรุนแรง

นายโอภาส กล่าวอีกว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทมีผลการประกอบการเติบโต 39% หรือมียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตไว้ 43% หรือมียอดขายมากกว่า 1,400 ล้านบาท เฉพาะในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามียอดขายเติบโต 2.4 เท่า หรือคิดเป็น 138% จากปีก่อน โดยเตรียมขยายสาขาแบรนด์สินค้า อเมริกัน อีเกิ้ล เอ้าท์ฟิตเตอร์ จากเดิม 5 สาขา เพิ่มเป็น 15-20 สาขา ภายในระยะเวลา 3 ปี ล่าสุดเปิดสาขาใหม่ที่แฟชั่น ไอส์แลนด์ และกำลังจะเปิดอีกสาขาที่เทอร์มินอล 21 ในช่วงปลายปีนี้

“รายได้ปีที่ผ่านมาแบ่งเป็น กลุ่มสินค้าลักชัวรี 41% กลุ่มพรีเมียม 37% และกลุ่มแมส 23% คาดว่าปี 2559 จะเปลี่ยนเป็น กลุ่มลักชัวรีลดเหลือ 39% กลุ่มพรีเมียม ลดเหลือ 27% และแมสเพิ่มขึ้นเป็น 35% ซึ่งตลาดกลุ่มแมสเติบโตดีที่สุด เป็นเพราะกลุ่มผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อ แต่จะเลือกซื้อสินค้าในจังหวะที่เหมาะสมและเลือกมากขึ้น ปีนี้กลุ่มแมสของบริษัทจะสามารถทำยอดขายได้ 480 ล้านบาท ส่วนตลาดลักชัวรี และพรีเมียม แบรนด์ นับว่ายังไปได้ดี จากกำลังซื้อของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งปัจจุบัน เฉลี่ยเป็น 40 % ของลูกค้าทั้งหมด”

ส่วนของ ไอคอน (IKON) ร้านมัลติแบรนด์ที่รวบรวมสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ของ กลุ่มบริษัท แปซิฟิกา อาทิ แคมเปอร์ เคดส์ สเปอร์รี่ ฯลฯ หลังจากเปิดได้ 2 ปีมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาสที่ผ่านมา ร้านไอคอน สามารถทำรายได้สูงถึง 10 ล้านบาท ปัจจุบันมีทั้งหมด 5 สาขา และกำลังจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มที่ศูนย์การค้า ZPELL ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,168 วันที่ 23 - 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559