“ปลัดพาณิชย์”ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการทำนาแปลงใหญ่

19 มิ.ย. 2559 | 08:25 น.
“ปลัดพาณิชย์”ลงพื้นที่ติ ดตามความคืบหน้าการทำนาแปลงใหญ่ ที่จังหวัดสุพรรณบุรีและชัยนาท เพื่อตรวจสอบความพร้อมแผนงานด้ านการตลาดรองรับผลผลิตข้าวที่ จะออกมา พร้อมตรวจสอบความคืบหน้าการลดต้ นทุนการผลิต และการเพาะปลูกข้าว

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ลงพื้นที่จั งหวัดสุพรรณบุรี และชัยนาท ในวันที่ 19 มิถุนายน 2559 เพื่อประชุมร่วมกับพาณิชย์จั งหวัด เกษตรกร และผู้ประกอบการโรงสีในพื้นที่ เพื่อติดตามการดำเนินงานการเชื่ อมโยงตลาดข้าวครบวงจรให้แก่ เกษตรกรกลุ่มทำนาแปลงใหญ่ ตามแผนการผลิตและการตลาดข้ าวครบวงจร โดยจะไปดูความคืบหน้าการจั ดทำแผนงานด้านการตลาด เพื่อรองรับผลผลิตข้ าวจากนาแปลงใหญ่ฤดูการผลิตปี 2559/60 ที่จะออกมา

“กระทรวงฯ จะลงพื้นที่เพื่อติดตามความคื บหน้า หลังจากที่ได้มอบหมายให้พาณิชย์ จังหวัดทุกจังหวัดดำเนิ นการวางแผนรองรับด้านการตลาดให้ แก่เกษตรกรกลุ่มทำนาแปลงใหญ่ ในพื้นที่ โดยให้หารือร่วมกับผู้ประกอบการ ประธานชมรมโรงสีในจังหวัด เกี่ยวกับแนวทางการรับซื้อข้ าวจากเกษตรกรในราคาตลาดตามคุ ณภาพและมาตรฐานที่กำหนดร่วมกัน และเพื่อเป็นการจูงใจให้ เกษตรกรผลิตข้าวคุณภาพดี และขอให้หารือกับผู้ ประกอบการโรงสีในการรับซื้อสู งกว่าราคาตลาด และพิจารณาจัดทำบันทึกข้ อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกัน”

สำหรับกำหนดการในช่วงเช้า จะเดินทางไปศูนย์เรียนรู้การเพิ ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้ าเกษตร หมู่ 11  ต.เดิมบาง  อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เพื่อพบปะผู้นำเกษตรกร เครือข่ายของกลุ่มนาแปลงใหญ่ ผู้ประกอบการโรงสีที่เข้าร่ วมการเชื่ อมโยงตลาดของโครงการนาแปลงใหญ่ โดยมีเกษตรกรตำบลเดิมบาง จำนวน 137 ราย มีพื้นที่รวมกันกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมา ศูนย์การเรียนรู้ฯ ที่เกิดจากการรวมกลุ่มกันตั้ งแต่ ปี 2552 ของชาวนา เพื่อลดต้นทุนการทำนา โดยอาศัยวิธีทางธรรมชาติ ใช้สารชีวภัณฑ์ในการกำจัดศัตรู พืช ทำให้ผ่านวิกฤติเพลี่ยกระโดดสี น้ำตาลที่ระบาดหนักในช่วงปี 2554 มาได้ และหลังจากนโยบายส่งเสริมให้ เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นนาแปลงใหญ่ เกษตรกรได้แก้ไขปัญหาการผลิ ตและการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิ ภาพมากขึ้น ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ จาก 5,000 บาท/ไร่ เหลือเพียง 2,900 บาท/ไร่ ผลผลิตข้าวเพิ่มจาก 700-800 กก./ไร่ เป็น 1,100 กก./ไร่

ส่วนในช่วงบ่าย จะเดินทางไปศูนย์เรียนรู้พันธุ์ ข้าวชุมชนบ้านดักคะนน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท         จ.ชัยนาท เยี่ ยมชมการทำเกษตรแบบผสมผสานตามแนว พระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิ จพอเพียง กระบวนการผลิตเกษตรอินทรีย์ ได้แก่ การปลูกข้าว พืชผักต่างๆ และปศุสัตว์ การบริหารจัดการน้ำภายในศูนย์ การเรียนรู้ฯ การสร้างอาชีพ และการทำตลาดสินค้าเกษตรอินทรี ย์

โดยศูนย์เรียนรู้พันธ์ข้าวฯ ได้เริ่มก่อตั้ง ปี 2553 บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของวัดดักคะนน ซึ่งเกิดจากการรวมมือร่ วมใจระหว่างบ้าน วัด และโรงเรียน ปัจจุบันได้ดำเนินการในรูปแบบรั ฐวิสาหกิจชุมชน มีสมาชิกเครือข่ายร่วมปลูกข้ าวไรซ์เบอรี่ จำนวน 10 ราย พื้นที่เพาะปลูก 100 ไร่ แต่เดิมทางศูนย์ฯ ปลูกข้าวพันธุ์ กข ต่างๆ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาปลูกข้ าวไรซ์เบอรี่ เนื่องจากเกษตรกรทั่วไปได้รั บผลกระทบจากราคาข้าวตกต่ำ ทำให้ชาวนาส่วนหนึ่งได้หันมาปลู กข้าวไรซ์เบอรี่ และเลิกใช้สารเคมี ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น

นอกจากนี้ ภายในศูนย์ฯ ยังสอนให้เด็กๆ ทำนา ดูแลครัว หุงข้าว ทำอาหาร หาปลา ฝึกว่ายน้ำ พายเรือ เป็นทุกอย่าง ทำให้เด็กสามารถพึ่งพาตนเองได้ และยังสร้างอาชีพให้กับเด็กในชุ มชน ให้เป็นชาวนาที่มีคุณภาพ สามารถสร้างรายได้เป็นของตนเอง ส่งเสียตนเองเรียนต่อได้ในระดั บที่สูงขึ้น