สำนักงาน กสทช.จับมือธปท.คุ้มครองผู้ใช้บริการ Mobile Payment

17 มิ.ย. 2559 | 06:42 น.
พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(ประธาน กสทช.) เปิดเผยว่า ว่าสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(สำนักงาน กสทช.) มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อร่วมกันศึกษาแนวทางการกำกับดูแลบริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย(Mobile Payment) ซึ่งปัจจุบันการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องขณะที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ผู้ให้บริการทางการเงินและผู้ให้บริการร้านค้าต่าง ๆ ได้พัฒนารูปแบบการทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และง่ายต่อการใช้งาน สำนักงาน กสทช.ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมจึงเห็นว่าการให้ความรู้อย่างถูกต้องต่อผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์สื่อสารไร้สายจะช่วยให้ผู้ที่นิยมใช้บริการ MobilePayment ใช้บริการได้อย่างปลอดภัย

ดร.วิรไท  สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า  ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการดังกล่าว ธปท.และสำนักงาน กสทช. จะมีโครงการความร่วมมือกันในหลายด้าน ได้แก่ การยกระดับความปลอดภัยด้าน CyberSecurity และการพิสูจน์ตัวตนผู้ใช้บริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งจะช่วยปิดช่องโหว่ที่มิจฉาชีพจะสวมรอยเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่และนำไปใช้ในการฉ้อโกงธุรกรรมทางการเงินและยกระดับความปลอดภัยในการใช้บริการผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ขึ้นไปอีกระดับหนึ่งรวมถึงจะสนับสนุนให้มีการใช้บริการโอนเงินและรับโอนเงินแบบใหม่ “พร้อมเพย์ – PromptPay” ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แผนยุทธศาสตร์ National e-Payment และจะช่วยให้ประชาชนและภาคธุรกิจโอนเงินได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้นโดยใช้เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่และเลขประจำตัวประชาชนของผู้รับเงินแทนการระบุเลขที่บัญชีเงินฝาก

นอกจากนี้ทั้งสององค์กรจะผสานแนวทางการกำกับดูแลผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผู้ใช้บริการชำระเงินให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปและมีการคุ้มครองผู้ใช้บริการอย่างเหมาะสม รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้อุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต(DigitalLiteracy) เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันรวมถึงการใช้บริการทางการเงินและการชำระเงินรู้วิธีการใช้งานอย่างปลอดภัย ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการ และส่งเสริมการใช้บริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้แพร่หลายมากขึ้น

นายฐากรตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ปัจจุบันการให้บริการโทรคมนาคมและบริการทางการเงินเริ่มผนวกเข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกัน ในรูปแบบกระเป๋าเงินออนไลน์ (e-Wallet) นอกเหนือจากการใช้เงินสดและบัตรเครดิตซึ่งรูปแบบการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บริการแต่ละพื้นที่ก็จะแตกต่างกันออกไปเช่น ประชาชนในต่างจังหวัด จะนิยมใช้บริการโอนเงินด้วย e-Wallet ของค่ายโทรศัพท์มือถือโดยไม่ต้องใช้บัญชีธนาคารและไม่ต้องเดินทางไปสาขาของธนาคารพาณิชย์ในตัวเมือง  ขณะที่ประชาชนในเมืองใหญ่ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายก็นิยมทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ซึ่งสะดวก รวดเร็ว และค่าบริการถูกกว่าการเดินทางไปยังสาขาธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานกสทช. และ ธปท. จึงร่วมมือกันให้ความรู้ผู้ใช้บริการเพื่อส่งเสริมให้บริการดังกล่าวมีความปลอดภัยและมีการคุ้มครองผู้ใช้บริการอย่างเพียงพอ

“จากนี้ไปสำนักงาน กสทช. และแบงก์ชาติ จะร่วมกันแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความรู้ประสบการณ์ และข้อมูลการกำกับดูแลบริการเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินและการดำเนินการอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในยุคดิจิทัลซึ่งรวมถึงการสนับสนุนแนวทางการรับจ่ายโอนเงินโดยไม่ใช้เลขบัญชีธนาคาร แต่ใช้เลขประจำตัวประชาชนและเบอร์โทรศัพท์มือถือหรือที่เรียกว่า บริการพร้อมเพย์ ภายใต้แนวคิดการสร้างระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์(National e-Payment) ของรัฐบาลผมอยากให้ประชาชนมั่นใจว่า การทำธุรกรรมทุกขั้นตอนจะต้องตรวจสอบได้แก้ไขให้ถูกต้องได้ และข้อมูลส่วนบุคคลต้องไม่รั่วไหลไปยังผู้อื่น ทั้งหมดนี้ล้วนจะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านเป็นThailand 4.0 หรือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Value-basedEconomy) ให้กับประเทศต่อไป” นายฐากร กล่าว