บีเอ็มทุ่มกว่า 220 ล้าน เปิดคลังอะไหล่แห่งใหม่ ที่ถนนบางนา-ตราด ดันเป็นศูนย์กลางกระจายชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์และบิ๊กไบค์บีเอ็มดับเบิลยู และ มินิ ในภูมิภาค มุ่งเสริมการบริการลูกค้าให้รวดเร็ว ครบครัน ตามความต้องการ
นายวูล์ฟกัง เบาว์แมน รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายการจัดการอะไหล่ โลจิสติกส์ จากสำนักงานใหญ่ของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในนครมิวนิก ประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ บีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัวคลังอะไหล่แห่งใหม่ในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนถนนบางนา-ตราด กม. 23 อย่างเป็นทางการ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.4 หมื่นตารางเมตร ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 220 ล้านบาท โดยได้รับเกียรติจากพรชัยตระกูลวรานนท์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากบีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป และพันธมิตรในภาคโลจิสติกส์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อประเทศไทยในฐานะที่เป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญ
"ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การทำตลาดของบีเอ็มดับเบิลยู ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค การเปิดตัวคลังอะไหล่แห่งใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยนี้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการให้บริการด้านโลจิสติกส์ พร้อมรองรับความต้องการด้านบริการของลูกค้าทั้งในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง"
คลังอะไหล่แห่งใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 1.4 หมื่นตารางเมตร กว้างขวางกว่าคลังอะไหล่เดิมถึงเกือบ 3 เท่าตัว รองรับการจัดเก็บอะไหล่ถึง 4 หมื่นรายการ และจัดเก็บชิ้นส่วนอะไหล่แบ่งตามโซน และแยกตามขนาดของอะไหล่ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ด้วยการสนับสนุนจากคู่ค้าอย่างทีแอลเอ็ม ลอจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ ยูเซ็น โลจิสติกส์ และ ดีเอชแอล ซัพพลายเชนคลังอะไหล่แห่งนี้จึงสามารถรองรับการส่งอะไหล่เพิ่มเติมได้กว่า 2,000 ไลน์ต่อวัน
นายแมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยกล่าวเสริมอีกว่า หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด และเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยูในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับพรีเมียม คือการมอบบริการด้วยมาตรฐานสูงสุดให้กับลูกค้า เราจึงเดินหน้ายกระดับการบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าทุกท่าน การเปิดตัวคลังอะไหล่แห่งใหม่นี้สามารถร่นเวลาการจัดส่งชิ้นส่วนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิได้อย่างมาก ทั้งยังยกระดับความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน เพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการ และเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการของลูกค้า คลังอะไหล่แห่งนี้จะเสริมให้เราทำผลงานตามดัชนีความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction Index; CSI) ได้ดียิ่งขึ้นจึงถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี หลังจากที่สามารถทำยอดขายได้สูงเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้บริษัททีแอลเอ็ม ลอจิสติกส์ แมเนจเม้นท์, ยูเซ็น โลจิสติกส์ ประเทศไทยและดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทยได้ร่วมมือกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยในการพัฒนาขยายคลังอะไหล่แห่งใหม่ครั้งนี้ โดยทีแอลเอ็ม ลอจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ เป็นผู้สนับสนุนด้านการบริหารจัดการคลังสินค้าและการจัดเก็บผลิตภัณฑ์ ส่วนยูเซ็น โลจิสติกส์ ประเทศไทย สนับสนุนด้านการบริหารโลจิสติกส์ และระบบขนส่ง ในขณะที่ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทยเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการพื้นที่ในการขยายคลังอะไหล่
อนึ่ง ในปี 2558 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องด้วยสถิติยอดขายประจำปีสูงสุดของทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด กับยอดส่งมอบรวมกว่า 1 หมื่นคัน ซึ่งในจำนวนนี้ มียอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ จำนวน 8,768 คัน เพิ่มขึ้น 5 %เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 1,280 คัน เพิ่มขึ้น 83% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมเป็นสถิติยอดส่งมอบของทั้ง 3 แบรนด์ที่ 10,048 คันในปี 2558 ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และนับเป็นการสร้างสถิติแห่งความสำเร็จของแต่ละแบรนด์ ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด(จักรยานยนต์)
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,167 วันที่ 19 - 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559