สบส.ตัดสิทธิ์ผู้มีคดี“ค้ามนุษย์ ค้ากามฯ”ห้ามทำธุรกิจสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

14 มิ.ย. 2559 | 05:58 น.
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เคร่งกรองประวัติผู้ขออนุญาตประกอบกิจการสปาเพื่อสุขภาพ ตามพ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรกของโลก ต้องขาวสะอาด ไม่เคยต้องโทษ 4 คดีต้องห้าม ได้แก่ ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ยาเสพติด และคดีทางเพศ ส่วนผู้ดำเนินการสปา จะต้องไม่มีคดีเกี่ยวกับทรัพย์ด้วย จะตรวจสอบทะเบียนอาชญากรรมผู้ยื่นขอทุกราย หากพบจะดำเนินการถอนใบอนุญาต ตัดสิทธิ์ทันที

วันนี้ (14 มิถุนายน 2559) ที่โรงแรมจอมเทียนการ์เดน โฮเต็ลแอนด์รีสอร์ท จังหวัดชลบุรี นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เปิดประชุมเจ้าของธุรกิจสปา นวดเพื่อสุขภาพหรือเสริมความงาม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และแกนนำอสม.ในจังหวัดภาคกลาง 24 จังหวัด ชี้แจงความเข้าใจ พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเป็นแนวเดียวกันทั่วประเทศ

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ให้สัมภาษณ์ว่า พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 กันยายน 2559 นี้ถือเป็นกฎมายฉบับแรกของโลก ในการควบคุมกำกับ ส่งเสริมมาตรฐานของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ถูกต้อง และขจัดธุรกิจที่ไม่ได้มาตรฐานให้หมดไป สร้างจุดแข็งในด้านบริการของไทยให้มีเอกลักษณ์โดดเด่น กรม สบส.ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการซึ่งในเบื้องต้น ได้แก่ สปาสุขภาพ นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมความงามทั้งรายเก่า และรายใหม่ ปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ ศึกษาแนวทางการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย  โดยเฉพาะสปาเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นบริการขนาดใหญ่ที่สุด และมีบริการในสถานที่หลายเมนู จึงต้องเคร่งครัดเป็นกรณีพิเศษ     ผู้ที่จะขออนุญาตประกอบกิจการ ต้องมีประวัติความประพฤติขาวสะอาด และต้องไม่เคยต้องโทษ 4 คดีต้องห้าม ดังต่อไปนี้ คือ คดีค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ยาเสพติด และคดีทางเพศ

ส่วนผู้ดำเนินการสปาเพื่อสุขภาพ จะต้องได้รับวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรจากสถาบันที่กรมสบส.รับรอง และผ่านการสอบประเมินความรู้ความสามารถ รวมทั้งไม่เคยมีคดีต้องห้าม 5 คดีได้แก่ ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี  ยาเสพติด คดีทางเพศและเกี่ยวกับทรัพย์ เพื่อเป็นหลักประกันแก่ผู้รับบริการทั้งไทยและเทศ ว่าเมื่อเข้าไปใช้บริการในสปาแล้ว จะได้รับบริการที่ดีมีคุณภาพมาตรฐาน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และไม่มีบริการอื่นใดๆ แอบแฝงทั้งสิ้น โดยกรมสบส.จะขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบประวัติทะเบียนอาชญากรรมผู้ที่ยื่นขออนุญาตทุกราย หากพบจะเพิกถอนใบอนุญาตตัดสิทธิ์ทันที

ด้านนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า  ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2559 เป็นต้นไป ผู้ประกอบการสปาเพื่อสุขภาพทั้งรายเก่า รายใหม่ ต้องยื่นเรื่องขออนุญาตกับกรมสบส. และที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ พนักงานเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบคุณสมบัติ และประวัติผู้ขออนุญาตอย่างเคร่งครัด โดยต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โรคพิษสุราเรื้อรังหรือติดยาเสพติด ไม่อยู่ในระยะเวลาถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการ หรือหากเคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตจะต้องผ่านมาแล้ว 2 ปีนับถึงวันยื่นขอใหม่ ส่วนกิจการอีก 2 ประเภทคือนวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมความงาม ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน

สำหรับผู้ดำเนินการสปา ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมมาตรฐานบริการ อุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ ผู้ให้บริการ รวมทั้งดูแลความปลอดภัยผู้รับบริการจะต้องผ่านการสอบประเมินความรู้ความสามารถการเป็นผู้ดำเนินการสปาก่อนจึงจะมีสิทธิ์ขึ้นทะเบียนจากกรมสบส.โดยจะจัดสอบประเมินในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2559 ที่กทม. เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี