MEGAอู้ฟู่กำเงินสดพันล้าน ลุยสร้างคลังสินค้าเมียนมา/ ศึกษาซื้อกิจการ

11 มิ.ย. 2559 | 03:00 น.
เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ เผยมีกระแสเงินสดในมือพันล้าน พร้อมต่อยอดธุรกิจ ทุ่มงบ 540 ล้าน สร้างคลังสินค้า-สำนักงานในเมียนมา รับอยู่ระหว่างศึกษาซื้อกิจการ โวหลายรายเสนอตัว แย้มไตรมาส 2 รายได้ กำไร ดีกว่าโค้งแรก เหตุยอดขายในและต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโต ยืนเป้าทั้งปีโต 5-10% ปีก่อนปิดตัวเลข 8.09 พันล้านบาท

นายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน)(บมจ.)(MEGA) กล่าวในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน(Opportunity Day) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า บริษัทมีกระแสเงินสดในมือ 1 พันล้านบาท และได้ตั้งงบลงทุน 540 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างคลังสินค้า และอาคารสำนักงานในประเทศเมียนมา ส่วนความคืบหน้าในการก่อสร้างขณะนี้รอเพียงใบอนุญาตก่อสร้างจากรัฐบาลเมียนมา

[caption id="attachment_61104" align="aligncenter" width="500"] ราคาหุ้น MEGA ราคาหุ้น MEGA[/caption]

ในขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีหลายรายที่เข้ามาเสนอขาย แต่บริษัทยังไม่เร่งรีบตัดสินใจ เนื่องจากมีนโยบายเน้นการเติบโตจากภายใน
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2559 คาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตได้ดีกว่า ไตรมาสแรก จากยอดขายทั้งในและต่างประเทศ ที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์ Mega We Care ที่ให้อัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิน)ที่สูง

นอกจากนี้ยังมั่นใจว่าผลประกอบการปี 2559 จะดีกว่าปี 2558 ที่มีรายได้รวม 8.09 พันล้านบาท มีกำไรสุทธิ 695 ล้านบาท โดยยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 5-10% มาจากการเติบโตของผลิตภัณฑ์หลัก ทั้ง Mega We Care และ Maxx Care ซึ่งมียอดขายเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซัน ที่จะมียอดขายเติบโตทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกัมพูชา เวียดนาม และเมียนมา สำหรับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ปีนี้จะมี 6-7 ตัว

"รายได้และกำไรที่เติบโตในปีนี้จะมาจากธุรกิจหลักที่โตต่อเนื่องทั้งตลาดในและต่างประเทศ" นายวิเวกกล่าวและว่า

ขณะที่ตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิ 7-10% จากปี 2558 อยู่ที่ 8.59% ส่วนไตรมาส 1/2559 อัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ 5.80% เนื่องจากบริษัทมีภาระภาษีจ่ายจำนวนมาก หลังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)

บมจ. เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสินค้าอุปโภคบริโภค (Fast Moving Consumer Goods หรือ FMCG) ชั้นนำระดับสากล ณ ปัจจุบัน MEGA เป็นผู้จัดจำหน่ายชั้นนำในประเทศกำลังพัฒนา ได้แก่ประเทศเมียนมา เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งประเทศดังกล่าวมีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ MEGA มีการพัฒนา ผลิต ทำการตลาด และขายผลิตภัณฑ์กลุ่มบำรุงสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ยาตามใบสั่งแพทย์และผลิตภัณฑ์ยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์สุขภาพภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We CareTM ของบริษัทผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายของบริษัทและผู้จัดจำหน่ายภายนอกใน 29 ประเทศต่างๆ ทั่วโลก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,164 วันที่ 9 - 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559