ฟันธงเศรษฐกิจรอฟื้น! สหพัฒน์ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น มาเลย์ ลงทุนเพิ่ม

09 มิ.ย. 2559 | 02:00 น.
“เสี่ยบุณยสิทธิ์” ชี้เศรษฐกิจและกำลังซื้อผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว เปรียบเหมือนรถกำลังจ่ายค่าทางด่วน รอการฟื้นตัว ส่งผลเอกชนมั่นใจรัฐเดินหน้าลงทุนต่อ แนะรัฐบาลเทเงินก้อนโตลงระบบคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งเห็นสัญญาณธุรกิจอาหารเริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจอื่นโตตาม คาดทั้งเครือปีนี้โต 5-6% สูงกว่าจีดีพีไทย

[caption id="attachment_60229" align="aligncenter" width="438"] บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา
ประธานเครือสหพัฒน์[/caption]

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าแฟชั่นรายใหญ่ เปิดเผยว่า กำลังซื้อในปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและเชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะถือว่าผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว หากเปรียบเทียบในขณะนี้เหมือนรถกำลังจ่ายเงินเตรียมขึ้นทางด่วน หากพ้นช่วงสถานการณ์นี้ไปได้ธุรกิจจะราบรื่น และปัจจุบันธุรกิจอาหารเริ่มปรับตัวดีขึ้น จะส่งผลทำให้ธุรกิจอื่นๆ ปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย แต่ขณะเดียวกันอยากให้รัฐบาลลงทุนเพิ่มให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะด้านคมนาคมขนส่ง หรือโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากจะทำให้เอกชนมั่นใจและลงทุนตาม

ทั้งนี้เครือสหพัฒน์ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีแผนชะลอการลงทุนแต่อย่างใด แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกจะยังไม่มีการลงทุนหรือการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ แต่ในช่วงการจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ครั้งที่ 20 ที่จะจัดขึ้นช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ จะมีการลงทุนกับพันธมิตรหลายราย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยมูลค่าการลงทุนได้ นอกจากนี้ยังได้เข้าไปลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอแม่สอด จังหวัดตากด้วย โดยเป็นการลงทุนในธุรกิจการ์เมนและพลาสติก ทั้งให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจอาหาร เนื่องจากเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่ก่อนลงทุนจำเป็นต้องพิจารณาจังหวะด้วย และดูความปลอดภัยในการลงทุนด้วย

“ด้านการลงทุนเราก็เตรียมตัว แต่การลงทุนต้องดูจังหวะด้วย ต้นปีไม่ค่อยมีการลงทุนแต่จะเน้นหนักในครึ่งปีหลัง ตอนนี้พยายามลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่อำเภอแม่สอด เพราะสามารถนำแรงงานเมียนมามาใช้งานได้ ส่วนธุรกิจอาหารชาวต่างชาติชอบ สามารถนำอาหารไทยไปสู่ครัวโลกได้ การบริหารงานของเครือสหพัฒน์ในปีนี้จะมุ่งเน้นประสิทธิภาพและความประหยัด”

สำหรับปีนี้เครือสหพัฒน์ตั้งเป้าหมายการเติบโตโดยรวมไว้ประมาณ 5-6% ซึ่งถือว่าดีกว่าจีดีพีที่คาดว่าปีนี้จะเติบโตได้ประมาณ 3% เพราะเชื่อว่าการทำงานของรัฐบาลในปัจจุบันถือว่ามาถูกทาง ไม่ได้หลงทางเหมือนที่ผ่านมา การพัฒนาทุกอย่างที่ผ่านมาถือว่าทำได้อย่างถูกต้อง เพียงแต่ต้องรอเวลาสักระยะหนึ่ง ในการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงจะเห็นผลชัดเจน

ด้านนายบุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กำลังซื้อขณะนี้เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะเห็นผลอย่างชัดเจนในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจต้องรอระยะเวลาประมาณ 4-6 เดือน และขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจไม่ได้ถือว่าชะลอตัวลง แต่เป็นภาวะเศรษฐกิจทรงตัวประกอบกับที่ผ่านมามีปัญหาภัยแล้ง จึงส่งผลให้เศรษฐกิจไม่ได้เติบโตเพิ่มมากขึ้น

สำหรับบริษัท ไอ.ซี.ซี.ฯปีนี้จึงวางเป้าหมายที่จะรักษาระดับรายได้ไว้เท่ากับปีที่ผ่านมา ที่มียอดขายประมาณ1.3 หมื่นล้านบาท เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อต้องใช้ระยะเวลา ไม่ได้เร็วเหมือนกับที่ประเมินไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งเดิมคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 10% แต่หากสามารถทำรายได้มากกว่าปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จมีผลงานที่ดี แต่ที่ผ่านมาบริษัทบางปีก็ไม่เติบโตเช่นกัน

มีอะไรในสหกรุ๊ปแฟร์ #20

สำหรับงานประจำปีที่เครือสหสพัฒน์ จะขนกองทัพสินค้ามาจำหน่ายในราคาพิเศษ ภายใต้ชื่องาน “สหกรุ๊ปแฟร์” ที่จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 20 แล้ว โดยปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 3 กรกฎาคมนี้ ภายใต้ธีมงาน An Honest Digital World ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 1 ล้านราย และมียอดเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท

 ตอบรับเศรษฐกิจดิจิทัล

เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล ปีนี้จึงเป็นปีแรกที่เครือสหพัฒน์จะนำ ร้านค้าเสมือนจริง QR Code เพื่อนำเสนอสินค้าผ่านจอทีวี วิดีโอ หรือ Light Box โดยลูกค้าสามารถใช้สมาร์ทโฟนสแกน QR Code เพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่เว็บไซต์ ethailandbest.com และสั่งซื้อสินค้าได้ทันที พร้อมตัดชำระเงินผ่านระบบธนาคาร ePayment และยังมีบริการส่งสินค้าถึงบ้านฟรีเช่นเดียวกับการซื้อสินค้าปกติ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของงานแสดงสินค้าในเมืองไทย ที่มีการสร้างร้านค้าเสมือนจริงเพื่อเป็นช่องทางการขายสินค้าเพิ่มเติมจากวิธีการขายปกติ

ขณะที่ไฮไลท์ของงานยังเป็นสินค้านวัตกรรม ที่เครือสหพัฒน์ขนมาโชว์ ไม่ว่าจะเป็น บีเอสซีคอร์นซอย น้ำนมถั่วเหลืองผสมเนื้อข้าวโพด สูตรหวานน้อย Shake Salad จากคิวพี กับสลัด 5 รสชาติ ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ใหม่ ทั้งขนมปังแถวฟาร์มเฮ้าส์กลิ่มนมฮอกไกโด ขนมปังทาหน้าฟาร์มเฮ้าส์ครีมนมข้าวโพด และขนมปังไส้คัสตาร์ดทุเรียน หมวดเครื่องแต่งกาย กับนวัตกรรมผ้ายืด I-Flex ที่มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถยืดหยุ่นได้ 360 องศา COOL MODE ผลิตภัณฑ์ผ้าและเสื้อโปโลที่ผ่านการรับรองคุณภาพและมาตรฐานการทดสอบคุณสมบัติจากสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยได้รับอนุญาตให้ใช้ฉลากคูลโมดเป็นรายแรกของประเทศไทย เป็นต้น ส่วนหมวดเครื่องสำอาง มีผลิตภัณฑ์จากบีเอสซี เพียวแคร์ ในรุ่น Royal Rice Oil ที่ใช้ส่วนผสมของสารสกัดจากน้ำมันรำข้าวจากโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรดา เป็นต้น และยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษ อาทิ การประกวดแซนด์วิช จานเด็ด คนเก่ง ครั้งที่ 15 การประกวดยังดีไซน์เนอร์ เป็นต้น

 เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง

ด้านการลงทุน เป็นประจำทุกปีที่เครือสหพัฒน์จะ ใช้เวทีนี้เปิดตัวพันธมิตร พร้อมแผนลงทุน ปีนี้ก็เช่นกัน ที่มีแผนเซ็นสัญญาร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ อาทิ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) เซ็นสัญญาความร่วมมือกับ Japanese Ramen ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดำเนินกิจการร้านราเมง บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เซ็นสัญญาความร่วมมือกับ MayFlower Group ประเทศมาเลเซีย เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการทัวร์ที่มีความหลากหลายและครบวงจร เครือสหพัฒน์เซ็นสัญญาร่วมทุนกับ World Co.,Ltd เพื่อตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อว่า World Saha Fashion และ บริษัท ไทยอรุซ จำกัด เซ็นสัญญาความร่วมมือกับ MK GROUP ตั้งบริษัท Arusu Myanmar เพื่อขยายธุรกิจทางด้านการออกแบบตกแต่งไปยังประเทศเมียนมา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,164 วันที่ 9 - 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559