มาเริ่มต้น Startup กันเถอะ

12 มิ.ย. 2559 | 02:00 น.
คำที่ได้ยินทุกวันช่วงนี้คือคำว่า Startup หรือการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ คนในแวดวง Startup ด้วยกันเองก็ดูจะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย พูดจาดูเป็นภาษาเดียวกัน มีศัพท์เทคนิคมากมาย อาทิ Angel Investor บ้าง Tech Startup บ้าง Incubator หรือ Accelerator บ้าง Cofounder บ้าง สิ่งที่เกิดขึ้นคือวัยรุ่นชาวไทยมุ่งหน้าอยากทำ Startup กันหมด เพราะได้ยินมาว่าได้เงินเยอะ รวยเร็ว และเท่ แล้วพวกเราเข้าใจ Startup กันจริงหรือยัง เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังครับ

นิตยสาร Forbes เคยนำเสนอเหตุผล 10 ประการที่วัยรุ่นควรทำ Startup ผมขอนำมาเสนอ 3 ประเด็นที่เห็นได้ชัด และเข้ากับวัยรุ่นชาวไทยคือ 3F ได้แก่ Fast Result เห็นผลรวดเร็ว เช่นเราต้องการทราบความคิดเห็นจากลูกค้าก็รับฟังได้ทันทีหรือถ้าเราทำอะไรได้ดีมากๆ วันรุ่งขึ้นอาจเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ก็ได้

Flexible Hour สามารถทำงานได้ในเวลาที่ชาวบ้านไม่ทำกัน ไม่ต้องเข้างาน 9โมงเช้า เลิก 5โมงเย็น อยากทำงานตอนไหนก็ทำได้ (ผมไม่ได้หมายความว่าจะทำงานน้อยหรือสบายนะครับ เพียงแค่เวลาการทำงานของเราอาจจะไม่เหมือนชาวบ้าน)

Flat Structure การบริหารงานมีลำดับขั้นไม่มาก ไม่ต้องมีเจ้านายหรือหัวหน้าหลายๆ คน ไม่จำเป็นต้องเป็นองค์กรใหญ่ๆ อยากจะประชุมกันก็นั่งคุยกันสบายๆ

3F ที่กล่าวมานี้จะเห็นได้ว่าเป็นงานในฝันของวัยรุ่น GenY ชัดๆ เพราะวัยรุ่นสมัยนี้ชอบอะไรเร็วๆ ไม่ต้องมีกรอบอะไรมากมาย ไม่ชอบให้เจ้านายมาเจ้ากี้เจ้าการ จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายๆ สถาบันการศึกษาหันมาให้ความสำคัญกับการส่งเสริม Startup Idea ในมหาวิทยาลัยเต็มไปหมด แต่...สิ่งที่สำคัญมากๆ และต้องทำความเข้าใจกันก็คือ Startup กับ SME มีความแตกต่างกันนะครับ

แนวคิด SME เกิดขึ้นมานานจนใครที่ทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็น SME กันหมด ทำให้คิดไปว่าแค่เราเริ่มต้นธุรกิจใหม่ก็น่าจะเป็น Startup ได้เช่นเดียวกัน ความคิดนี้ถูกบ้าง แต่ผิดเยอะครับ ผมอธิบายแนวคิด Startup แบบเข้าใจง่ายๆ ไร้คำศัพท์เทคนิคน่าเวียนหัว

Start = เริ่ม Up = ขึ้น รวมแล้วแปลว่า พอเริ่มต้นธุรกิจแล้วต้องทำให้มันดียิ่งๆ ขึ้นไปอย่างรวดเร็ว (จริงๆ ควรเรียกว่า Startup up up ด้วยซ้ำ) นั่นทำให้ลักษณะของธุรกิจ Startup จำเป็นต้องมีแนวคิดธุรกิจที่ชัดเจนมากๆ โดยเฉพาะแนวคิดธุรกิจที่มีความแตกต่างจากธุรกิจรูปแบบเดิมๆ และที่สำคัญแนวคิดนั้นจะต้องตอบโจทย์ของลูกค้าได้ เรียกว่าทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น เรียกรถแท็กซี่ง่ายขึ้น อ่านหนังสือง่ายขึ้น เคลมประกันง่ายขึ้น

ประการต่อมาคือมีการระดมทุนด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจาก Venture Capital หรือจาก Angel Investor หรือจะมาจาก Crowd Funding ระดมทุนจากบนเว็บไซต์ก็ตาม อีกประการหนึ่งซึ่งทำให้ Startup มีลักษณะเฉพาะก็คือ มีการขยายตัวของธุรกิจได้ง่าย สามารถทำธุรกิจนี้ซ้ำๆ ในหลายพื้นที่หรือหลายประเทศได้ อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าต้อง Up up up

ดังนั้นการค่อยๆ โต ดูจะไม่ใช่วิสัยของธุรกิจประเภทนี้ แต่ต้องมีแผนการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญต้องมีการวางแผนธุรกิจ (Business Plan) อย่างละเอียด อัตราความสำเร็จของ Startup ต่ำมากนะครับ (นิตยสาร Fortune และ Forbes กล่าวว่า 1ใน 10 เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ)

ถ้าลองดูเหตุผลต่างๆ ที่ยกมาประกอบว่าทำไมถึงล้มเหลว เช่น ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด ไม่มีเงินทุนหมุนเวียน ทีมงานไม่มีประสิทธิภาพ กระทั่งการตลาดที่ไม่เจ๋งพอ ทุกเหตุผลสามารถป้องกันได้ด้วยการวางแผนธุรกิจที่รัดกุม

ค่อยๆคิดศึกษาให้รอบคอบวางแผนให้ดี รับรองว่าคุณก็ Start ได้ และ Up ได้แน่นอน ไว้จะมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ จะได้ Up up up ไปด้วยกันนะครับ

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,164 วันที่ 9 - 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559